0

0

ืNut@
บทนำ

ถ้าถามว่า “ใครอยากมีความทุกข์ให้ยกมือขึ้น” คงไม่มีใครยกมือเป็นแน่ ใครๆ ก็อยากมีชีวิตที่มีความสุขด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าถามต่อไปอีกว่า ความสุขของคุณคืออะไร? คำตอบของแต่ละคนคงแตกต่างกันออกไปได้หลากหลายมากมาย

 

สำหรับคนที่มีพร้อมทุกอย่างทั้งรูปร่าง หน้าตา สมบัติพัสถาน เชื่อว่าใครหลายคนคงคิดและมองว่าเขาเหล่านั้นต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอน แต่ในความจริงอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นก็ได้ ทั้งนี้เพราะความสุขในชีวิตคนไม่ได้มีเฉพาะความสุขทางกาย แต่ยังมีเรื่องของความสุขทางใจอีกด้วย ซึ่งในชีวิตคนส่วนใหญ่ ความสุขทางใจเป็นตัวกำหนดเรื่องของความสุขในชีวิตมากกว่าความสุขทางกาย

cr.นายแพทย์ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัย
จิตแพทย์ และกรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลมนารมย์

ความสุขมีกี่ประเภท

https://www.manarom.com/blog/path_to_happiness.htmlความสุขของคฤหัสถ์ตามนัยแห่งคำสอนของพุทธศาสนามีอยู่ 4 ประการคือ

1. อัตถิสุข คือ สุขเกิดจากการมีทรัพย์ ซึ่งทำให้เกิดความภูมิใจและเอิบอิ่มใจว่าตนมีทรัพย์ที่ได้มา
ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนและโดยชอบธรรม

2.โภคสุข คือ สุขเกิดจากการใช้ทรัพย์ ซึ่งทำให้เกิดความภูมิใจ และเอิบอิ่มใจว่าตนได้ใช้ทรัพย์ที่ได้มาโดยชอบนั้นเลี้ยงตนเอง เลี้ยงผู้ที่ควรเลี้ยง และบำเพ็ญประโยชน์

3. อนณสุข คือ สุขเกิดจากความไม่เป็นหนี้ ซึ่งทำให้เกิดความภูมิใจ และเอิบอิ่มใจว่าตนเป็นไท ไม่เป็นหนี้ติดค้างใคร

4. อนวัชชสุข คือ สุขเกิดจากความประพฤติไม่มีโทษ ซึ่งทำให้เกิดความภูมิใจ และเอิบอิ่มใจว่าตนมีความประพฤติสุจริต ไม่บกพร่องเสียหาย อันใครๆ ติเตียนไม่ได้ ทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับกาย วาจา และใจ

ความสุข 4 ประการนี้ เป็นตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตของคนว่าอยู่ดีมีความสุขหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด
 

6 วิธีสร้างความสุขจากการใช้ชีวิต ให้สุขมากขึ้น

“ความสุข” นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่เป็นส่วนในการใช้ขับเคลื่อนชีวิตในทุกวันให้ไปต่อได้

จริง ๆ แล้วความสุขอยู่รอบ ๆ ตัวเรามาเสมอ เพียงว่าเราจะมองเห็นหรือไม่

บางครั้งเจออาหารอร่อย เจอคนยิ้มให้ ได้อ่านหนังสือที่ชอบ ก็นับเป็นความสุขเล็ก ๆ ที่เก็บสะสมไปเรื่อย ๆ

 

แต่ในการใช้ชีวิตแต่ละวันก็มักจะต้องเจออุปสรรคมากมายที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะปัญหาเล็ก ๆ ไปจนถึงเรื่องราวใหญ่โตแต่มันไม่ยากที่เราจะพาตัวเองผ่านไปเจอความสุขได้ วันนี้เรานำ 6 วิธีสร้างความสุขจากการใช้ชีวิตให้สุขมากขึ้นมาให้ทุกคนได้อ่านกัน

 

1. รอให้เป็น

ทุกวันนี้คนเราใช้ชีวิตด้วยความใจร้อน ไม่ชอบคนในองค์กร หรือ ไม่พอใจกับงานที่ทำ คิดว่าทำไม่ได้ก็เกิดอาการหงุดหงิดไม่พอใจ หรือเอาสิ่งที่เกิดขึ้นไปลงสู่โซเชียล ให้ลองทำดูก่อนที่จะเอาไปพูดต่อ ทุกวันนี้โซเชียลถูกพัฒนาไวมาก สามารถรู้ได้ทันทีว่าคุณทำงานอะไรที่ไหนอย่างไร ก่อนที่จะทำให้คิดก่อนว่าเรามีองค์กรอยู่ที่บ่าจะทำอะไรให้คิดให้ดี รอให้เป็นก่อนที่จะลงมือทำ

 

2. เย็นให้ไว

พออากาศร้อน ก็ทำให้คนเริ่มหัวร้อนกันได้ง่าย อากาศเดียวนี้มีผลต่อการใช้ชีวิตมาก ถ้าอากาศร้อนก็จะเข้าไปดูดพลังงานลบ เมื่อเจอเพื่อนร่วมงานทำตัวไม่ดี หรือพูดจาไม่ดีใส่เราก็จะเอ๊ะ ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะต้องอยู่ร่วมองค์กรเดียวกัน จงหาวิธีประนีประนอมที่ดีที่สุดให้ไว สามารถเริ่มได้จากตัวเรา ก็คือใจเย็นเข้าไว้ ทำอะไรต้องคิดให้ถี่ถ้วนต่อผลที่ตามมาว่าควรที่จะทำต่อไปไหม

 

3. คิดให้ได้

Critical Thinking หรือมีวิจารณญาณ เวลาเราเห็นข่าวหรือข้อมูลต่าง ๆ ให้เราคิดก่อนว่าเรื่องนี้มีแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ไหม อย่างเช่นมีชาวต่างชาติถ่ายคลิปมาลงว่าเขารอดจากเหตุการณ์เครื่องบินตก แต่สุดท้ายบอกว่าทุกอย่างคือคอนเทนต์ ซึ่งมันคือการบอกว่าจงมีวิจารณญาณในการรับชมและเชื่อ หรือว่าจะเป็นเรื่องงานก็ตามให้ดูแหล่งที่มาว่าเชื่อถือได้หรือไม่ก่อนจะนำมาใช้ประโยชน์

 

4. สื่อสารเป็น

การสื่อสารถึงเรื่องสำคัญและเป็นสิ่งที่จะทำให้เรื่องงานและชีวิตประจำวันมีประสิทธิภาพจากการใช้การสื่อสารที่ดีและการสื่อสารที่ดีไม่ใช่แค่การพูดอย่างเดียวรวมถึงการฟังและการสื่อสารยังสามารถใช้เพื่อดูแลใจทั้งตัวเราเองและคนรอบข้าง เมื่อไหร่ที่เราดูแลใจคนรอบข้างก็จะทำให้เกิดการทำงานอย่างมีความสุข

 

5. เห็นคุณค่าของการให้

“ดูแลตัวเองได้คือเรื่องปกติ ดูแลคนอื่นคือเรื่องของความภาคภูมิใจ” การทำงานของเรา ก็ถือว่าเป็นการให้ เพราะอยากให้สังคมดีขึ้น เรากำลังสร้างสุขลักษณะที่ดีให้กับผู้คน จงภูมิใจกับงานที่เราทำ ทุกวันนี้ให้เห็นคุณค่าจากรอบข้าง เงยหน้าจากจอขึ้นมาบางคนข้างจะมีตัวตนหันไปถามซะหน่อยช่วงนี้เป็นยังไงบ้างโอเคไหมทำไมช่วงนี้ดูเงียบๆไป อย่างน้อยเราทำให้คนข้าง ๆ รู้ว่าเขายังอยู่ในสายตาของเราเสมอ นั่นคือการให้ที่ง่ายที่สุด

 

6. ไม่ประมาทความเปลี่ยนแปลง

ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งเปลี่ยนไปไม่มีอะไรเหมือนเดิมค่ะอย่าคาดหวังความเหมือนเดิมในวันที่โลกหมุนไปทุกวัน และคนเรามี 24 ชั่วโมงเท่ากันทุกคนไม่มีใครมีมากกว่านี้อย่าบอกว่าไม่มีเวลา มีเวลาให้สิ่งไหนเราจะใส่ใจสิ่งนั้นเสมอ วันนี้เราทำงานหนักแค่ไหนสุดท้ายอย่างมองแต่ข้างหน้าจนลืมหันมองคนที่อยู่รอบ ๆ วันหนึ่งความสำเร็จจะอ้างว้าง ถ้าไม่มีคนข้าง ๆ อยู่ดูด้วย

 

เมื่อไรก็ตามที่โลกอยากสอนความเปลี่ยนแปลงให้มนุษย์ มักจะสอนผ่านความรักและการใช้ชีวิต เมื่อวานรักวันนี้รักพรุ่งนี้ไม่รู้ การทำงานเช่นเดียวกันเมื่อวานทำงานได้วันนี้ยังทำงานอยู่พรุ่งนี้ยังได้ทำงานอยู่อีกหรือเปล่าไม่มีใครรู้ เราทำได้แค่ทำสิ่งที่มีให้ดีที่สุด อย่าเห็นคุณค่าของเวลาตอนหมดเวลา และอย่าเห็นคุณค่าของคนบางคนว่าเขามีค่าที่สุดตอนหลุดมือ เพราะฉะนั้นวันนี้อยู่กับปัจจุบันให้เต็มที่ที่สุดทำ 6 ข้อนี้ได้ หัวใจเราจะแข็งแกร่งมากขึ้น หัวใจเราจะมีพลังมากขึ้น และ เมื่อใจของพวกเรามีพลัง พลังทั้งหมดจะถูกส่งไปยังคนรอบๆตัวและในเรื่องของการทำงาน

 

ข้อมูลจาก : ดีเจพี่อ้อย (นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล) : กิจกรรมส่งเสริมสุขภาวะทางปัญญา ในหัวข้อ องค์กรยุคใหม่ ดูแลใจ คนทำงานhttps://happy8workplace.thaihealth.or.th/articles/161

อ้างอิง

https://happy8workplace.thaihealth.or.th/articles/161

0 ถูกใจ 538 การเข้าชม

งานบทความที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ

ส่วนที่ 1 : สถานการณ์ระดับประเทศและยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนของ สสส.และภาคีเครือข่าย
1708932589.JPG

Writer Don ID2

ส่วนที่ 1 : สถานการณ์ระดับประเทศและยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนของ สสส.และภาคี...

ส่วนที่ 5 ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการสืบค้น
1708932589.JPG

Writer Don ID2

ส่วนที่ 5 ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการสืบค้น

หยุดกินตามอารมณ์ ตัดวงจรพฤติกรรมทำลายสุขภาพ
1708931705.jpg

Super Admin ID1

หยุดกินตามอารมณ์ ตัดวงจรพฤติกรรมทำลายสุขภาพ

‘ฝนราชการ’ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ วิธีรับมือเพื่อสุขภาพดีและไร้อุบัติเหตุ
1708931705.jpg

Super Admin ID1

‘ฝนราชการ’ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ วิธีรับมือเพื่อสุขภาพดีและไร้อุบัติเหตุ

ยอมรับ! ต่างรุ่นต่างประสบการณ์ ช่วยลดความขัดแย้งในครอบครัว
1708931705.jpg

Super Admin ID1

ยอมรับ! ต่างรุ่นต่างประสบการณ์ ช่วยลดความขัดแย้งในครอบครัว

งานบทความที่เกี่ยวข้อง

Sasitha

โรคซึมเศร้า มิใช่โรคจิตหรือโรคประสาท เป็นโรคทางอารมณ์ อารมณ์เศร้านี่เอง ทำให้คิดทุกอย่างด้านลบ คิดว่าตนเองผิด คิดว่าตนเองไร้ค่า คิดว่าหมดหวัง อาการของโรคมักเริ่มจากเป็นน้อย ๆ และมากขึ้นไปจนถึงคิดอยากตาย 

โรคซึมเศร้ามีสาเหตุจากการสูญเสีย หรือความเครียดทางจิตใจก็ได้ เช่น ปัญหาการเรียน การทำงาน หรือความสูญเสียในชีวิต (เช่น สอบตก อกหัก คนรักเสียชีวิต หย่าร้าง ตกงาน) หรือเกิดจากการทำงานน้อยลง ของสารสื่อนำประสาทบางตัว

 

โรงเรียนและผู้ปกครอง สามารถช่วยเหลือนักเรียนด้านจิตใจเบื้องต้นด้วย หลักการปฐมพยาบาลทางใจ 3 ส จะช่วยให้เข้าถึง เข้าใจ และช่วยเหลือนักเรียนได้ทันเวลา

ส.ที่หนึ่ง คือ สอดส่อง มองหา ตรวจสอบคนที่มีพฤติกรรมผิดปกติ โดยสังเกตอาการเบื้องต้นหรือสอบถามอาการ 9 ข้อ

ส.ที่สอง คือ ใส่ใจ รับฟัง

ส.ที่สาม คือ ส่งต่อ เชื่อมโยง

หากโรงเรียน คุณครู เพื่อน และผู้ปกครอง ช่วยกันสอดส่อง ใส่ใจ ช่วยเหลือ ก็จะช่วยให้การรับมือกับปัญหาโรคซึมเศร้าได้ช่วยให้เด็กมีสุขภาพจิตที่ดี  
มีภาวะทางอารมณ์ที่ดี และพร้อมเติบโตรับรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างเหมาะสม