0

0

ผู้เขียน :Super Admin ID1

อัพเดทเมื่อวันที่ : 2025-07-28 21:26:03

บทนำ

ทุกปี มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ต้องสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ โศกนาฏกรรมเหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้น หากผู้โดยสารจักรยานยนต์อายุน้อยได้สวมหมวกนิรภัย

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สถิติการเสียชีวิตของเด็กอายุ 1-14 ปี จากอุบัติเหตุและความรุนแรง มีจำนวนถึง 32,297 ราย โดยสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กมาจากการโดยสารรถจักรยานยนต์

ขณะที่ข้อมูลการสํารวจของมูลนิธิไทยโรดส์ เรื่องอัตราการสวมหมวกนิรภัยรวมทั้งประเทศ ปี 2562 ในการสำรวจจำแนกตามกลุ่มอายุพบว่า กลุ่มเด็ก (ผู้โดยสาร) ใส่หมวกนิรภัยน้อยที่สุดเพียงร้อยละ 8 เท่านั้น

ด้วยตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะต้องจริงจังมากขึ้นกับการสร้างความตระหนักและให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของเจ้าตัวน้อยบนอานจักรยานยนต์

เช่นที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายรณรงค์สวมใส่หมวกนิรภัย เพื่อปลูกฝังวินัยเรื่องความปลอดภัยให้เด็ก รวมถึงสร้างความตระหนักให้กับผู้ปกครองและสถานศึกษา หาวิธีเพื่อปกป้องชีวิตเด็ก ๆ รวมถึงการผลักดันให้โรงเรียนสร้างที่เก็บหมวกกันน็อกเพื่อป้องกันปัญหาผู้ปกครองลืมหมวกกันน็อกของบุตรหลาน

“หมวกกันน็อก” ฮีโร่ของเด็ก ๆ จริงหรือ?

ประสิทธิผลของการสวมหมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อกสำหรับรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจน จากผลงานวิจัยของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) พบว่า การสวมหมวกนิรภัยช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตเนื่องจากการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ ร้อยละ 43 สำหรับผู้ขับขี่ และร้อยละ 58 สำหรับผู้นั่งซ้อนท้าย ในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า การสวมหมวกนิรภัยมีส่วนลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลงได้มากกว่า 200,000 บาทต่อคน (โดยประมาณ)

 

การทำงานของหมวกนิรภัย

หมวกนิรภัยป้องกันการสัมผัสโดยตรงระหว่างกะโหลกศีรษะกับสิ่งที่มากระทบ ทำหน้าที่ป้องกันศีรษะจากวัตถุที่มาชน ที่สำคัญหมวกนิรภัยมีจุดประสงค์ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่สมองและศีรษะอย่างรุนแรง โดยการลดแรงกระแทกหรือการชนเข้ากับศีรษะ วัสดุอ่อนนุ่มที่เป็นส่วนหนึ่งของหมวกนิรภัยจะดูดซับแรงสะเทือนทำให้ศีรษะหยุดหรือเคลื่อนที่ช้าลง สมองจะได้ไม่ชนกับกะโหลกอย่างรุนแรง หมวกนิรภัยจะกระจายแรงกระแทกไปยังพื้นที่ที่กว้างขึ้น ทำให้แรงกระแทกไม่ไปรวมอยู่ ณ พื้นที่เล็ก ๆ ส่วนใดส่วนหนึ่งของกะโหลกเท่านั้น

วิธีเลือกหมวกกันน็อกให้น้อง

- เลือกหมวกกันน็อกที่มีขนาดพอดีกับศีรษะ เด็กอายุ 2-4 ปี ใช้หมวกขนาด 500 มม. เด็กอายุ 5-8 ปี ใช้หมวกขนาด 530-540 มม. เด็กอายุมากกว่า 8 ปี ใช้หมวกขนาด 570-580 มม.

- มีสายรัดคางดี ไม่หลุดง่าย

- ไม่หนักเกินไป เพราะกล้ามเนื้อต้นคอของเด็กยังไม่แข็งแรง อาจทำให้กระดูกต้นคอหัก เมื่อชนกระแทก

- เลือกหมวกกันน็อกที่มีตรามาตรฐานอุตสาหกรรม

 

ทุกครั้งเมื่อให้เด็กขึ้นนั่งบนรถมอเตอร์ไซค์ ต้องสวมหมวกนิรภัยให้เด็ก ๆ อย่าคิดว่าเดินทางใกล้ ๆ หรือใช้เวลาเพียงไม่นาน เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

อ้างอิง

http://trso.thairoads.org/statistic/helmet

www.roadsafetythai.org/edoc/doc_20181120164756.pdf

https://www.rakluke.com/family-lifestyle-all/news-update/item/1-3.html

งานบทความที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ

แผนผังโครงสร้างระบบ (Site map)
1748965111.jfif

Super Admin ID2

แผนผังโครงสร้างระบบ (Site map)

ส่วนที่ 1 : สถานการณ์สุขภาพจิตระดับประเทศ และยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน ของ สสส. และภาคี
1747913281.JPG

Admin ID3

ส่วนที่ 1 : สถานการณ์สุขภาพจิตระดับประเทศ และยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน ของ...

ยอมรับ! ต่างรุ่นต่างประสบการณ์ ช่วยลดความขัดแย้งในครอบครัว
1708931705.jpg

Super Admin ID1

ยอมรับ! ต่างรุ่นต่างประสบการณ์ ช่วยลดความขัดแย้งในครอบครัว

ส่วนที่ 1 สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นกิจกรรมทางกาย และเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ มาตรการขับเคลื่อนงานของ สสส. และภาคี
1747913281.JPG

Admin ID3

ส่วนที่ 1 สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นกิจกรรมทางกาย และเชื่อมโยงยุ...

สอนลูกให้รอดจากการคุกคามทางเพศ
1708931705.jpg

Super Admin ID1

สอนลูกให้รอดจากการคุกคามทางเพศ

งานบทความที่เกี่ยวข้อง

อุบัติเหตุบนท้องถนน คนเดินเท้าเสี่ยงเสียชีวิต-บาดเจ็บมากสุด

Super Admin ID1

Highlight

กลุ่มคนเดินเท้ามีความเสี่ยงประสบอุบัติเหตุและมีโอกาสเสียชีวิตจากการถูกรถชนมากกว่าผู้ขับขี่และผู้โดยสาร จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย

ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า คนเดินถนนประสบเหตุสูงถึง 2,500 - 2,900 คนต่อปี กว่า 1 ใน 3 อยู่ในเขตกรุงเทพฯ เฉลี่ย 900 คนต่อปี ขณะที่ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน ระบุว่า ในปี 2564 มีผู้บาดเจ็บ 879,940 คน เสียชีวิต 13,425 คน

ญี่ปุ่นเข้มงวดเรื่องกฎหมายจราจรมากที่สุดประเทศหนึ่ง โดยให้ความคุ้มครองและดูแลคนเดินเท้าเป็นพิเศษ มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนเดินเท้าและจักรยานสำหรับคนทุกกลุ่มทุกวัย การทำใบขับขี่ในญี่ปุ่นเป็นเรื่องยากมาก การถูกตัดแต้มจนถูกเพิกถอนใบขับขี่จึงเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นค่อนข้างระมัดระวัง