0

0

ผู้เขียน :Super Admin ID1

อัพเดทเมื่อวันที่ : 2025-08-01 12:57:10

บทนำ

หนึ่งในแนวทางการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นคือ การจัดตั้งและการอนุรักษ์ป่าชุมชน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังและมีผลกระทบในวงกว้าง
 

ป่าชุมชนคืออะไร?

ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ป่าชุมชน หมายถึง ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์หรือพื้นที่อื่นของรัฐนอกเขตป่าอนุรักษ์ ที่ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งเป็นป่าชุมชน โดยชุมชนร่วมกับรัฐในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู จัดการ บํารุงรักษา ตลอดจนใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพในป่าชุมชน อย่างสมดุลและยั่งยืน
การใช้ประโยชน์ป่าชุมชนแบ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และพักผ่อนหย่อนใจ เก็บหาของป่า ใช้ประโยชน์จากไม้เพื่อการยังชีพและสาธารณะประโยชน์ ใช้บริการทางนิเวศ ส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้ เสริมสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ปัจจุบันป่าชุมชนที่ได้รับอนุมัติจัดตั้ง มีจำนวน12,117 แห่ง ชุมชนมีส่วนร่วม 13,855 หมู่บ้าน เนื้อที่รวม 6.64 ล้านไร่

 

ป่าชุมชนกับการลดโลกร้อน

ป่าชุมชนสามารถเป็นหนึ่งในกลไกที่ใช้จัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ได้ เพราะต้นไม้ทำหน้าที่ฟอกอากาศ ดักจับฝุ่นละอองและมลพิษจากอากาศ
ต้นไม้ยังช่วยกักเก็บคาร์บอน โดยจะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศ ด้วยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง และนำมาสะสมไว้ตามใบ กิ่ง ลำต้น และรากใต้ดิน ช่วยลดมลพิษทางอากาศและภาวะโลกร้อน จากข้อมูลทั่วไป ระบุว่า ต้นไม้ 1 ต้น สามารถดูดซับคาร์บอนได้เฉลี่ย 9-15 กิโลกรัม/ปี โดยประมาณ และข้อมูลจากกรมป่าไม้พบว่า ปัจจุบันต้นไม้ในป่าชุมชนช่วยกักเก็บคาร์บอน รวม 42 ล้านตันคาร์บอน
 

เสริมชุมชนเข้มแข็ง

ป่าชุมชนยังช่วยเสริมความเข้มแข็งชุมชน เสริมรายได้ครัวเรือน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนท้องถิ่น
ประชาชนได้รับประโยชน์จากป่า 3,948,675 ครัวเรือน เกิดมูลค่าการพึ่งพิงป่าชุมชน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ จำนวน 4,907 ล้านบาท
หากชุมชนปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกต้นไม้ได้ประมาณ 200 ต้น มูลค่าเฉลี่ยต้นละ 2-3 หมื่นบาท มูลค่ารวมราว 2 ล้านบาท หาก 1 ชุมชนปลูก 1,000 ไร่ จะสร้างมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท สามารถต่อยอดเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างพื้นที่สีเขียว
กรมป่าไม้ตั้งเป้าจัดตั้งป่าชุมชนเพิ่มเป็น 15,000 แห่งทั่วประเทศ ชุมชนมีส่วนร่วม 18,000 หมู่บ้าน เนื้อที่รวม 10 ล้านไร่ ในปี 2570

 

ต้นแบบป่าคาร์บอน

ป่าชุมชนสามารถช่วยสิ่งแวดล้อมและสร้างรายได้ไปพร้อมกันภายใต้แนวคิด “ป่าคาร์บอน”
เช่น พื้นที่ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง จ.เพชรบุรี ซึ่งขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มการกักเก็บคาร์บอน โดยคาร์บอนฐานหรือคาร์บอนสต็อกในป่านี้มีจำนวน 20,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ในอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีคาร์บอนเครดิตเพิ่มขึ้นอีก 743 ตันคาร์บอนไดออกไซด์
ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบางเป็นต้นแบบในการจัดการป่าชุมชนเพื่อนำมาสร้างผลประโยชน์ให้กับชุมชน ผืนป่าจะได้รับการดูแลรักษา มีความอุดมสมบูรณ์ ผืนป่าและชุมชนอยู่ร่วมกันได้
 

ร่วมบริหารจัดการป่าชุมชน

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เห็นถึงความสำคัญ จึงได้ลงนามบันทึกความร่วมมือสนับสนุนและขับเคลื่อนการบริหารจัดการป่าชุมชนและฝายมีชีวิตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในโครงการป่าชุมชนนำร่อง 15 แห่งทั่วประเทศ ทำให้เกิดรายได้จากเศรษฐกิจหมุนเวียนจากป่าชุมชนคาร์บอนเครดิต ให้ประชาชนเห็นประโยชน์ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสุขภาพอย่างยั่งยืน
การดำเนินกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนโครงการป่าชุมชนและฝายมีชีวิต ใช้งบประมาณดำเนินการรวม 3,498,000 บาท คิดเป็นมูลค่าการตอบแทนทางสังคม 21 ล้านบาทในปีที่ 1 และต่อยอดไปอีกอย่างน้อย 5 ปี
เป้าหมายอนาคตคือ การพัฒนาต่อยอดสร้างรายได้ โดยเฉพาะจากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์โดยชุมชน

 

อ้างอิง

  • สร้างความเข้าใจเบื้องต้น กฎหมายว่าด้วยป่าชุมชน ปรับปรุงครั้งที่ 1, https://shorturl.asia/GyX53
  • ข้อมูลป่าชุมชนตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562, https://shorturl.asia/p93Mu
  • สสส. สานพลัง พอช. – กรมป่าไม้ – 5 ภาคีเครือข่าย MOU จัดการป่าชุมชน-ฝายมีชีวิต 3 ปี มุ่งเป้าสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดโลกร้อน ลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ นำร่องขับเคลื่อนป่าชุมชนทั่วประเทศ 15 แห่งในปีแรก คาดสร้างผลตอบแทนทางสังคมกว่า 21 ล้านบาท, https://shorturl.asia/RoyYr
  • เปิดเส้นทางลดโลกร้อน : จากป่าชุมชนสู่เศรษฐกิจฐานชีวภาพ, https://shorturl.asia/v2cPU
  • สมการ "ปลูกป่า" ≠ การจัดการพื้นที่สีเขียว คุณค่าขึ้นอยู่กับคุณประโยชน์, https://shorturl.asia/cd1kp

0 ถูกใจ 694 การเข้าชม

งานบทความที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ

มหัศจรรย์แห่งการอ่านสร้างพัฒนาการเด็ก ขับเคลื่อนสวัสดิการหนังสือ ‘อ่านสร้างลูก ลูกสร้างโลก’
1708931705.jpg

Super Admin ID1

มหัศจรรย์แห่งการอ่านสร้างพัฒนาการเด็ก ขับเคลื่อนสวัสดิการหนังสือ ‘อ่าน...

‘ปทุมวันโมเดล’ พื้นที่นำร่อง เขตควบคุมมลพิษต่ำเพื่อสุขภาพคนกรุง
1708931705.jpg

Super Admin ID1

‘ปทุมวันโมเดล’ พื้นที่นำร่อง เขตควบคุมมลพิษต่ำเพื่อสุขภาพคนกรุง

เรื่องควรรู้ … รับมือวัยเกษียณ
1708931705.jpg

Super Admin ID1

เรื่องควรรู้ … รับมือวัยเกษียณ

การแต่งเพลงช่วยเยียวยารักษาใจ  ท่วงทำนองชีวิตวัยรุ่นยุคนิวนอร์มอล
1708931705.jpg

Super Admin ID1

การแต่งเพลงช่วยเยียวยารักษาใจ ท่วงทำนองชีวิตวัยรุ่นยุคนิวนอร์มอล

กินอาหารอย่างฉลาด…ห่างไกลโรค
defaultuser.png

Don Admin

กินอาหารอย่างฉลาด…ห่างไกลโรค

งานบทความที่เกี่ยวข้อง

ทัวร์สายเขียวเที่ยวแบบรักษ์โลก ช่วยลดคาร์บอน ลดโลกเดือด

Super Admin ID1

Highlight:
• มีข้อมูลระบุว่า ประมาณร้อยละ 11 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกเกิดจากการท่องเที่ยว และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2593 หากไม่มีการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะทำให้ภาวะโลกร้อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดรูปแบบสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• ปี 2566 ในหลายภูมิภาคของโลกเผชิญกับผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างเช่น ยุโรปพบกับวิกฤตคลื่นความร้อนและภัยแล้งรุนแรง ด้วยปริมาณฝนและหิมะน้อยกว่าปกติ ตามมาด้วยการขาดแคลนน้ำทำให้การเกษตรกรรมได้รับผลกระทบ ทั้งในฝรั่งเศส อิตาลี สเปน อังกฤษ ฯลฯ
• สสส. และภาคีฯ ร่วมสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวสีเขียวเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยมีพื้นที่อุทยานฯ สีเขียวต้นแบบ 3 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน และอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า


การท่องเที่ยวมีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่นับวันจะมีผลกระทบรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แนวความคิดเรื่องการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำจึงเกิดขึ้นมา ในประเทศไทย อุทยานแห่งชาติร่วมกับสสส.และเครือข่ายได้ทำงานร่วมกัน เพื่อให้ข้อมูลความรู้และสร้างความตระหนักกับนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการ ชุมชนท้องถิ่น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายนำไปสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
…..

ในขณะที่การท่องเที่ยวซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมของคนทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็ตามมาเช่นเดียวกัน เพราะการท่องเที่ยวมีส่วนอย่างมากในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศของโลกมีการเปลี่ยนแปลง เห็นได้จากเกิดคลื่นความร้อน ภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำ ไฟป่า น้ำท่วม ฯลฯ ซึ่งนับวันจะเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงมากขึ้น
เพื่อร่วมรับผิดชอบและแก้ไข แนวความคิดเรื่องการท่องเที่ยวสีเขียวจึงเกิดขึ้นมา เปรียบเป็นสัญญาณแห่งความหวัง ซึ่งต้องลงมือทำตอนนี้!