1

0

ผู้เขียน :Admin nicky

อัพเดทเมื่อวันที่ : 2025-06-27 18:07:44

บทนำ

รวบรวมและจัดระบบองค์ความรู้ โดยวิเคราะห์ความรู้ ทักษะ และสื่อ ที่ใช้ในการสื่อสารเพื่อพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ในประเด็นอาหารเพื่อสุขภาวะของประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก เด็กโต และวัยรุ่น ผ่านการรวบรวมและจำแนกสื่อกว่า 1,200 รายการ รวมถึง กรณีศึกษาของต้นแบบระดับพื้นที่ รายงานผลลัพธ์ และข้อเสนอเชิงนวัตกรรม เพื่อยกระดับการสื่อสารสุขภาพให้เข้าถึงง่าย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภคได้อย่างยั่งยืน บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย และการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายทั้งเชิงประเด็นและเชิงพื้นที่

 

ส่วนที่ 3 บริบท เครื่องมือ สื่อ ปัจจัยเอื้อ นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาวะในประเด็นอาหารที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ

เอกสารส่วนนี้เน้นการวิเคราะห์ความรู้ ทักษะ และสื่อ ที่ใช้ในการสื่อสารเพื่อพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ในประเด็นอาหารของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก เด็กโต และวัยรุ่น ผ่านการรวบรวมและจำแนกสื่อกว่า 1,200 รายการ รวมถึง กรณีศึกษาของต้นแบบระดับพื้นที่ รายงานผลลัพธ์ และข้อเสนอเชิงนวัตกรรม เพื่อยกระดับการสื่อสารสุขภาพให้เข้าถึงง่าย และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคได้อย่างยั่งยืน

 

 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

3.1 สาระสำคัญ องค์ความรู้อาหารเพื่อสุขภาวะ: กลุ่มเด็กเล็ก (อายุ 0-5 ปี)

 

3.1.1 ชุดความรู้และสื่อด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ชุดความรู้และสื่อด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  รายการ ประกอบด้วย หนังสือสวนผักบ้านฉัน และ E-book ปลูกผักสนุกจัง  สาระสำคัญ  เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำงานเพื่อสร้างสวนผักในบ้าน สวนผักในโรงเรียน/ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อผลักดันให้เด็กในชุมชน โดยเฉพาะเด็กอนุบาล และประถม ได้ปลูกผักกินเองในบ้าน จากสมมุติฐานที่ว่าราคาผักตามท้องตลาดมีราคาแพงและไม่มีความปลอดภัย โดยสอนให้เด็กๆเรียนรู้วิธีการปลูกผัก เช่น วิธีการปลูกถั่วงอกและส่วนประกอบที่สำคัญของพืชผัก นอกจากเด็กๆจะได้ความสนุกสนาน จากการปลูกผักแล้วยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆ หันมากินผักมากขึ้น 

 

3.1.2 ชุดความรู้และสื่อด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ

ชุดความรู้และสื่อด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ 48 รายการ

3.1.2.1 ชุดความรู้และสื่อสำหรับใช้ในการส่งเสริมการบริโภคอาหารที่ได้โภชนาการเหมาะสมตามกลุ่มวัยสำหรับเด็กเล็ก (อายุ 0-5 ปี)

ชุดความรู้และสื่อสำหรับใช้ในการส่งเสริมการบริโภคอาหารที่ได้โภชนาการเหมาะสมตามกลุ่มวัยสำหรับเด็กเล็ก (อายุ 0-5 ปี)  จำนวน 20 รายการ 

  • คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก      (อายุ 0-5 ปี) 

สาระหลักจะเน้นการนำ 10 ข้อปฏิบัติการให้อาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของทารกและเด็กเล็ก (FBDG : Food Based Dietary Guidelines) สู่การปฏิบัติ ตามคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมโภชนาการเด็กแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นมาตรฐานทางวิชาการด้านโภชนาการ จึงมีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (กุมาร แพทย์ พยาบาล นักโภชนาการ นักวิชาการสาธารณสุข เจ้าหน้าที่สาธารณสุข) พ่อแม่ ผู้ปกครอง และผู้ดูแลเด็ก/พี่เลี้ยงเด็กได้นำไปใช้ในการเลี้ยงดูทารกและเด็กเล็กให้ได้กินนมแม่ อาหารตามวัย และการฝึกทักษะการกินที่ถูกต้องเหมาะสมมีการเจริญเติบโตดีและพัฒนาการสมวัย สาระสำคัญของ 10 ข้อปฏิบัติการให้อาหารทารกและเด็กเล็ก จะแยกคำแนะนำออกเป็น 2 กลุ่ม คือคำแนะนำสำหรับกลุ่มทารกแรกเกิด – 12 เดือน และคำแนะนำสำหรับกลุ่มเด็กเล็กอายุ 1-5 ปี โดยโครงการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัยได้นำมาจัดทำเป็น ชุดความรู้ สื่อ นวัตกรรมในการถ่ายทอดสู่บุคลากรทางการแพทย์ในระดับพื้นที่  แกนนำชุมชน อสม. หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก/พี่เลี้ยงเด็ก และนักจัดรายการวิทยุ/หอกระจายข่าวในรูปแบบที่หลากหลาย เนื้อหาเข้าใจง่าย สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ภายใต้ชื่อชุดความรู้ “อาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก”  จำนวน 6 รายการ ประกอบด้วย

  • —ชุดความรู้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์: คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก

สาระสำคัญ ประกอบด้วย (1) ข้อปฏิบัติการให้อาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของทารกและเด็กเล็ก  (2) ความสำคัญและประโยชน์ของการให้อาหารตามวัยสำหรับทารก (3) แนวทางปฏิบัติสำหรับการให้อาหารทารก  (4) ชนิดของอาหารตามวัยสำหรับทารก (5) ข้อแนะนำในการเตรียมอาหารตามวัยสำหรับทารก  (6) อาหารตามวัยสำหรับเด็กอายุ 1-2 ปี  และ (7) ตัวอย่างเมนูอาหารตามวัยสำหรับทารก อายุ 6-8 เดือน 9-11 เดือน และอายุ 9-23 เดือน โดยมีส่วนประกอบอาหาร ปริมาณอาหาร และน้ำหนักของอาหารที่ใช้ต่อคนต่อมื้อรวมทั้งคุณค่าทางโภชนาการที่เด็กจะได้รับเพื่อเป็นแนวทางให้กลุ่มเป้าหมายนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง

  • —ชุดความรู้สำหรับ อสม. แกนนำชุมชน 

สาระสำคัญ แบ่งเป็น 2 ชุดความรู้ : 

(1) อาหารตามวัยสำหรับทารกแรกเกิด-12 เดือน ชุดความรู้ จำนวน  3 รายการ ในรูปแบบสื่อภาพพลิก : “ปฏิทินอาหารเพื่อลูกรักทารกแรกเกิด-12 เดือน” หนังสือคู่มือ “พ่อจ๋า แม่จ๋าอ่านก่อนป้อนหนู” และหนังสือนิทาน “หม่ำ หม่ำ ชวนลูกกินอาหารตามวัย” เป็นสาระความรู้เกี่ยวกับแนวปฏิบัติ 10 ข้อการให้อาหาร  เพื่อสุขภาพที่ดีของทารกแรกเกิด - 12 เดือน ความสำคัญของอาหารต่อพัฒนาการของทารก สารอาหารและปริมาณอาหารที่เหมาะสม และการประเมินภาวะโภชนาการของทารก

(2) อาหารตามวัยสำหรับเด็กเล็กอายุ 1-5 ปี ชุดความรู้ จำนวน  3 รายการ ในรูปแบบสื่อภาพพลิก : “ปฏิทินอาหารเพื่อลูกรัก เด็กอายุ 1-5 ปี”  หนังสือคู่มือ “ดูซิ จะให้หนูกินอะไรดี”  และหนังสือนิทาน “ลูกจ๋า แม่ยังจำได้”โดยมีเนื้อหาสาระความรู้เกี่ยวกับแนวปฏิบัติ 10 ข้อการให้อาหารเพื่อสุขภาพที่ดี  ของเด็กเล็กอายุ 1-5 ปี ความสำคัญของอาหาร ต่อพัฒนาการของเด็กเล็ก สารอาหารและปริมาณอาหารที่เหมาะสม และการประเมินภาวะโภชนาการในเด็กเล็ก—ชุดความรู้สำหรับนักจัดรายการวิทยุ/หอกระจายข่าว 2 รายการ ได้แก่ หนังสือเล่มเล็ก สาระความรู้สำหรับวิทยุชุมชน เรื่อง “อาหารเด็กแรกเกิด–5 ปี เพื่อชีวิตที่ดีของลูกคุณ” และ สาระความรู้สำหรับหอกระจายข่าวหมู่บ้าน/เสียงตามสาย เรื่อง “อาหารเด็กแรกเกิด–5 ปี เพื่อชีวิตที่ดีของเด็กไทยในชุมชน” มีเนื้อหาเกี่ยวกับ แนวปฏิบัติการให้อาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของทารกและเด็กเล็ก จำนวน 21 เรื่อง สาระสำคัญ จะแบ่งเนื้อหาเป็นหัวข้อต่างๆ เน้นความสำคัญของ (1) หัวน้ำนม น้ำนมแม่ (2) การให้อาหารลูกรักวัยแรกเกิด–5 ปี (3) สารอาหาร ที่จำเป็นสำหรับเด็ก  และ (4) วิธีการเตรียม การปรุงอาหารที่สะอาด ปลอดภัยสำหรับเด็กในแต่ละวัย  เช่น หัวน้ำนม อาหารหยดแรกของชีวิต อาหารตามวัยประจำวันสำหรับเด็กอายุ 6-12 เดือน ควรเป็นอย่างไร และการเตรียมอาหารให้สะอาด ปลอดภัย สำหรับลูก

  • —คู่มือช่วยเด็กไทยให้กินขนมดี (ชุดความรู้คาบเกี่ยวระหว่างช่วงวัยเด็กโตและวัยรุ่น) 

สาระสำคัญ ประกอบ ด้วย : (1) อันตรายของขนมเด็กและน้ำอัดลม (2) ประเภทของอาหารว่างทางเลือกสุขภาพ (3) เทคนิคการทำอาหารว่างทางเลือกสุขภาพที่ได้มาตรฐานโภชนาการ และ  (4) เทคนิคการเลือกซื้ออาหารว่างทางเลือกสุขภาพที่ได้มาตรฐานโภชนาการ

 

  • —คู่มือสร้างเสริมโภชนาการและการบริโภคอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัย (ชุดความรู้คาบเกี่ยวระหว่างช่วงวัยเด็กโตและวัยรุ่น)

สาระสำคัญ ประกอบด้วย (1) การสร้างเสริมโภชนาการและการบริโภคอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3 – 5 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุ 6-12 ปี)   (2)  ให้ข้อมูล/คำแนะนำเรื่องพลังงานและสารอาหารที่เด็กควรได้รับประจำวัน  (3) อาหารหลัก 5 หมู่  (4) ธงโภชนาการ  และ (5) วิธีกระตุ้นส่งเสริมเด็กให้กินผักผลไม้

  • —VDO เชฟน้อย กินเปลี่ยนโลก (9 รายการ/ตอน) 

สาระสำคัญ เป็นตัวอย่างกิจกรรมที่ครู ผู้ดูแลเด็ก สามารถทำกิจกรรมส่งเสริมการปลูก ปรุง กิน อาหารเพื่อสุขภาวะของเด็กๆ ในโรงเรียนและชุมชน ในช่วงวิกฤตที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ตัวอย่างกิจกรรมจะนำเสนอในรูปแบบวิดีโอ 9 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ปลูกอาหารในอนาคต ตอนที่ 2 ข้าวกล่องปันอิ่ม ตอนที่ 3 ใครว่าเด็กไม่กินผักพื้นบ้าน ตอนที่ 4 หาผลไม้มาทำขนมวุ้น ตอนที่ 5 ชงโคหรือผักเสี้ยวใบรูปปีเสือ  ตอนที่ 6 หาผัก ดอกไม้ริมรั้วกินได้ เอามาทำ "ขนมนึ่ง" ตอนที่ 7 เช้าๆแบบนี้คั่วผักเชียงดา ตอนที่ 8 ตำขนุนสำหรับเด็กกินสูตรแม่อู๊ด และตอนที่ 9 ขนมลิ้นหมา ขนมท้องถิ่น ที่ชวนเด็กๆทำทีไรก็สนุกและอร่อยได้ทุกครั้ง

 

3.1.2.2 ชุดความรู้และสื่อด้านปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการบริโภคอาหารไม่สมดุล ในเด็กเล็ก อายุ 0-5 ปี

ชุดความรู้และสื่อด้านปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการบริโภคอาหารไม่สมดุล ในเด็กเล็ก อายุ 0-5 ปี  จำนวน 2 รายการ ได้แก่

  • —Infographic เลี้ยงลูกแบบ “เซเล็บ” ดูแลอย่างไร? ให้ไม่ติดหวาน 

สาระสำคัญ เป็นการนำเสนอตัวอย่าง/แนวทางการเลี้ยงลูกไม่ติดหวาน ประกอบด้วย 3 เทคนิค ดังนี้ (1) สอนให้ลูกตระหนักรู้ถึงการมีสุขภาพดี เพราะกินผัก  (2) สอนให้ลูกกินผักเป็น และกินผักปลอดสารพิษ โดยให้ลูกเรียนรู้วิถีเกษตรอินทรีย์ มีส่วนร่วมในการปลูก เก็บผัก และทำกับข้าว  และ (3) ฝึกให้กินผักผลไม้วันละอย่าง สอนให้ลูกอยู่ง่ายกินง่ายชินกับผักผลไม้  ไม่ต่อต้านกับผักใหม่ๆ 

  • —Infographic รู้เท่าทัน ป้องกันโรคอ้วนในเด็กไทย

สาระสำคัญ ได้ชี้ให้เห็นถึง (1)  สถานการณ์โรคอ้วนของเด็กไทย (2) ปัญหาของโรคอ้วนต่อสุขภาพของเด็ก (3) การเฝ้าระวังภาวะโภชนาการเด็ก  (4) การสนับสนุนนวัตกรรม/เทคโนโลยี เช่น Kid Diary & Thai School Lunch มาใช้ในการสร้างมาตรฐานการจัดเก็บข้อมูลน้ำหนัก ส่วนสูง และวิธีการแปลผลทางสุขภาพที่ถูกต้อง (5) แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายป้องกันโรคอ้วนในเด็กไทย และ (6) แนวทางการสนับสนุนของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  และ NECTEC

 

 

3.1.2.3 ชุดความรู้และสื่อสำหรับการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการและสุขภาพเด็กเล็ก (อายุ 0-5 ปี)

ชุดความรู้และสื่อสำหรับการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการและสุขภาพเด็กเล็ก (อายุ 0-5 ปี) จำนวน 3 รายการ ได้แก่

  • —คู่มือการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเฝ้าระวังการเจริญเติบโตของเด็กแรกเกิด – 18 ปี  (ชุดความรู้คาบเกี่ยว ระหว่างช่วงวัยเด็กโตและวัยรุ่น)  และ 2) คู่มือการประเมินติดตามภาวะโภชนาการและพัฒนาการเด็กปฐมวัย เพื่อเฝ้าระวังการเจริญเติบโตและภาวะโภชนาการเด็กปฐมวัย สาระสำคัญ ประกอบด้วย:  (1) กราฟแสดงเกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตเด็ก 0 – 5 ปี (2) แบบบันทึกประเมินติดตามและส่งเสริมโภชนาการเด็กปฐมวัย (3) แบบบันทึกการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย และ (4) แนะนำโปรแกรมสำเร็จรูปโดยอธิบายความสามารถของโปรแกรม การติดตั้งโปรแกรม วิธีการใช้โปรแกรม การบันทึกข้อมูล การจัดทำรายงานและ การออกรายงาน เพื่อนำไปใช้ในการสื่อสารกับผู้บริหาร ผู้ปกครองและนักเรียน เพื่อวางแผนร่วมกันในการส่งเสริมภาวะโภชนาการเด็กทั้งขาดและเกิน
  • —VDO การสำรวจภาวะโภชนาการในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ด้วย Kid size  สาระสำคัญ ประกอบด้วย : (1) แนะนำวิธีการติดตั้งและวิธีการใช้งานเครื่องชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง Kid size บนระบบออนไลน์  (2) การเชื่อมต่อข้อมูลเข้าสู่ระบบ Kid Diary เพื่อแปลผลภาวะโภชนาการนักเรียนและประมวลผลรายคน/ภาพรวมรายห้องเรียน/ชั้นเรียน/ภาพรวมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (3)  การออกรายงาน การเชื่อมต่อข้อมูลกับผู้ปกครองด้วย  QR code ผ่าน App. Kid Diary ผู้ปกครอง  (4) การส่งต่อเด็กกลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วยสู่ รพ.สต./รพ. และ (5) การแบ่งปันประสบการณ์การใช้เครื่อง Kid size
  • —คู่มือการประมวลองค์ความรู้ การประเมินติดตามภาวะโภชนการ และพัฒนาการเด็กปฐมวัย   

 สาระสำคัญ  การเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยด้วยเครื่องมือ DSPM จึงยังไม่บรรลุเป้าหมาย เนื่องจากผู้ปกครองยังไม่มีการใช้อย่างจริงจัง ผู้ที่ใช้งานหลักเป็นบุคลากรของหน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ผู้ปกครองบางรายไม่ได้นําคู่มือ DSPM กลับไปด้วย เพราะมีขนาดใหญ่พกพาลําบาก บางกรณีผู้ดูแลเด็กเป็นผู้สูงอายุก็จะไม่มีการใช้คู่มือ DSPM เลย นอกจากนี้ที่บ้านไม่มีอุปกรณ์การประเมินตามคู่มือ ภาษาที่ใช้เป็นภาษาวิชาการเข้าใจยาก บางครั้งตีความผิด 

 

3.1.2.4 สื่อชุดความรู้สำหรับการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก/ชุมชน

สื่อชุดความรู้สำหรับการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก/ชุมชน จำนวน 3 รายการ ประกอบด้วย 

  • —คู่มือ ผดด. ร่วมใจสร้างเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย (2 เล่ม)

สาระสำคัญ ประกอบด้วย (1) แนวทางการจัดอาหารเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย (2) ตัวอย่างรายการอาหารที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานโภชนาการ  (3) เทคนิคการเลือกซื้ออาหาร  (4) การเตรียมและการปรุงประกอบอาหารที่ถูกหลักสุขาภิบาล ความปลอดภัยในอาหาร (5) แนวทาง การจัดกิจกรรมกับผู้ปกครองและชุมชนเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการกินที่ดีของเด็ก และ (6) เรื่องเล่าเชิงประสบการณ์จากพื้นที่ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้หรือขยายผลได้

  • —โปรแกรมสำเร็จรูปออนไลน์ Thai School Lunch (ความรู้คาบเกี่ยวช่วงวัยเด็กโตและวัยรุ่น) เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาโดย NECTEC ร่วมกับสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักโภชนาการ กรมอนามัย สำหรับช่วยคุณครู ผู้ดูแลเด็กจัดทำเมนูอาหารกลางวัน-อาหารว่างนักเรียนที่มีคุณค่าโภชนาการเหมาะสม ตามวัยของเด็ก 

 สาระสำคัญ ประกอบด้วย : (1) การจัดสำรับอาหารกลางวันรายวัน/สัปดาห์/เดือน/ภาคเรียนที่สามารถเลือกเมนูสำเร็จที่โปรแกรมจัดให้หรือจัดเมนูเองโดยใช้ Thai recipes (2) ตารางแสดงคุณค่าสารอาหารในแต่ละสำรับ รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน โดยใช้สัญลักษณ์สีระบุสถานะ/คุณภาพอาหารว่าสารอาหารตัวไหนผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์ (3) ให้คะแนนคุณภาพอาหารโดยใช้สัญลักษณ์ดาวตั้งแต่ 1-5 ดาว ได้ 5 ดาวคือคุณภาพดี/ยอดเยี่ยม (4) ระบุราคาวัตถุดิบอาหารโดยประมาณการค่าใช้จ่ายในแต่ละเมนู/วันได้ว่าใช้งบประมาณต่อหัวเกิน/น้อยกว่างบประมาณที่ได้หรือไม่ (5) ออกรายงาน สามารถนำข้อมูลสื่อสารกับผู้บริหาร ผู้ประกอบการอาหาร นักเรียน ผู้ปกครองได้  และ (6) มีคู่มือแนะนำการใช้งานสามารถดาวน์โหลดได้บนระบบออนไลน์ รวมทั้งมีช่องทางสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานระบบกับผู้พัฒนาระบบ กรณีผู้ใช้งานมีปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง

  • —Poster ครัวกลาง เศรษฐกิจชุมชน สร้างเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย เป็นตัวอย่างการบริหารจัดการที่ดีของเทศบาลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งได้นำแนวคิดเรื่องครัวกลางในโครงการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัยไปพัฒนาต่อยอดเพื่อลดปัญหาค่าใช้จ่ายและคุณภาพอาหารไม่ได้มาตรฐาน สาระสำคัญ ครัวกลางเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริหาร อปท.  ผู้กำหนดนโยบาย นักวิชาการ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการอาหารกลางวันนักเรียนที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภิบาลอาหาร และอาหารปลอดภัย มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลภายใต้งบประมาณที่จำกัด (13 บาท/คน/วัน) หลักการสำคัญของครัวกลางจะเน้นการจัดซื้อวัตถุดิบอาหารปลอดภัยในชุมชน ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ สร้างเศรษฐกิจชุมชน บริหารเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โดยมีคำนิยามของคำว่า “ครัวกลาง” คืออะไร และแนวทางบริหารจัดการอาหารกลางวันในรูปแบบครัวกลาง 9 ขั้นตอน

3.1.2.5 ชุดความรู้และสื่อสำหรับการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านอาหารและโภชนาการ

ชุดความรู้และสื่อสำหรับการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านอาหารและโภชนาการ   จำนวน 3 รายการ ได้แก่

  • —หลักสูตรอบรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการ (ความรู้คาบเกี่ยวกับช่วงวัยเด็กโตและวัยรุ่น)  สาระสำคัญ จะให้ความสำคัญกับ (1) กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม  (2) การจัดบรรยากาศที่สร้างสุขในการเรียนรู้การสร้างคุณค่าในตนเอง และ (3) การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงในการผลิตสื่อและกิจกรรมสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ซึ่งองค์ประกอบของหลักสูตรจะแบ่งเนื้อหาเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นเนื้อหารายละเอียดของหลักสูตรและกลุ่มกิจกรรมการเรียนรู้ ส่วนที่สองเป็นสื่อประกอบกิจกรรมและความรู้เพิ่มเติม สำหรับผู้ดำเนินการอบรม (ครู ก) โดยมีรายละเอียดในภาคผนวก + DVD (แนบมากับหนังสือเล่มนี้)

  • —คู่มือ/หลักสูตรแม่ครัวอนามัยหัวใจรักเด็ก (ความรู้คาบเกี่ยวช่วงวัยเด็กโตและวัยรุ่น)

สาระสำคัญ ประกอบด้วย : ความรู้ด้านการจัดอาหารตามหลักโภชนาการ ได้แก่ (1) ความสำคัญของอาหารในเด็กปฐมวัยและเด็กวัยเรียน  (2) บทบาทแม่ครัวในการสร้างเด็กไทยให้มีโภชนาการสมวัย (3) แนวทางการจัดและการตักอาหารกลางวันเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (4) เทคนิคในการเลือกซื้อ เก็บรักษา และปรุงประกอบอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหาร/อาหารปลอดภัย (5) แนวทางการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จ และ (6) ตัวอย่างใบรับรองแพทย์ด้านการตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับ ผู้สัมผัสอาหารในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน

  • —หลักสูตรการพัฒนาแกนนำด้านการจัดการอาหารและโภชนาการชุมชน

สาระสำคัญ ประกอบด้วย: (1) ความสำคัญของการพัฒนาแกนนำในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (2) ทฤษฎี/หลักการการพัฒนาแกนนำ (3) เครื่องมือการสร้างแกนนำในท้องถิ่น (4) การวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของแกนนำ และ (5) แนวทางปฏิบัติงาน เพื่อสร้างและพัฒนาแกนนำท้องถิ่น โดยมี (4) VDO ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ให้นักวิจัย อาสาสมัคร แกนนำชุมชน ผู้ปฏิบัติงานในชุมชน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน เกิดความตระหนักเรื่องความสำคัญของการพัฒนาด้านอาหารและโภชนาการในระดับชุมชนโดยการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนเพื่อความสำเร็จ (2) ความสำคัญของปัญหาด้านโภชนาการของประชาชนในชุมชน ชี้ให้เห็นทิศทางการแก้ไขพัฒนาสถานการณ์ให้ดีขึ้น และ (3) เชิญชวนประชาชนองค์กร หน่วยงานรัฐ เอกชน สถาบันในชุมชนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจมีส่วนร่วมแก้ปัญหาและพัฒนาอาหารโภชนาการชุมชน

 

3.1.2.6 ชุดความรู้และสื่อการพัฒนาตัวอย่างด้านการจัดการอาหารและโภชนาการเด็กเล็ก (อายุ 0-5ปี)

ชุดความรู้และสื่อการพัฒนาตัวอย่างด้านการจัดการอาหารและโภชนาการเด็กเล็ก (อายุ 0-5 ปี) จำนวน 6 รายการ ได้แก่

—คู่มือการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสุขภาวะ

สาระสำคัญ ผู้บริหาร อปท. หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และนักวิชาการ ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา ศูนย์เด็กเล็กสุขภาวะ โดยเรียนรู้เกี่ยวกับ (ก) หลักการบริโภคอาหารที่เหมาะสมกับเด็ก (ข) การปรุงอาหาร เพื่อสุขภาพ (ค) การออกกำลังกายที่เหมาะสม และ (ง) การเฝ้าระวังการเจริญเติบโตของเด็กให้มีการเจริญเติบโตตามวัย

  • —คู่มือเกณฑ์การประเมินชุมชน/หมู่บ้านโภชนาการสมวัย/แหล่งเรียนรู้ (ระดับยอดเยี่ยม) 

สาระสำคัญ ประกอบด้วย (ก) นิยามชุมชน/หมู่บ้านโภชนาการสมวัย ระดับยอดเยี่ยม(แหล่งเรียนรู้)  (ข) ขั้นตอนการประเมิน (ค) คำชี้แจงการใช้คู่มือมาตรฐาน และ (ง) ประเด็นการพิจารณา 

  • —คู่มือเกณฑ์การประเมินศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโภชนาการสมวัย เป็นคู่มือสำหรับนักวิชาการ  อปท.จนท.รพ. /รพ.สต. แกนนำชุมชน ผู้ดูแลเด็ก และเครือข่ายผู้ปกครอง ใช้ประเมินผลการพัฒนาสู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโภชนาการสมวัย  สาระสำคัญ ประกอบด้วย  (ก) นิยามศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก/สถานรับเลี้ยงเด็กโภชนาการสมวัยระดับ ยอดเยี่ยม  (แหล่งเรียนรู้) และ (ข) เกณฑ์การประเมิน
  • —โปรแกรมสำเร็จรูปการประเมินตนเองด้านอาหารและโภชนาการ

สาระสำคัญ เป็นการประเมิน/จัดเก็บข้อมูลการพัฒนาพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการของทารกและเด็กเล็ก โดยแบ่งแบบฟอร์มการประเมินออกเป็น 7 ชุด  (P1 – P7) : 

P1 คือแบบประเมินตนเองของพ่อแม่/ผู้ให้อาหารเด็กอายุ 0-12 เดือน ด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อให้ อสม./จนท.สธ.ใช้ในการให้ความรู้และแก้ปัญหาภาพรวมของชุมชน 

P2 คือแบบประเมินตนเองของพ่อแม่/ผู้ให้อาหารเด็กอายุ 1-6 ปี ด้านอาหารและโภชนาการเพื่อให้ อสม./จนท.สธ.ใช้ในการให้ความรู้และแก้ปัญหาภาพรวมของชุมชน 

P3 คือแบบประเมินตนเองของชุมชนด้านอาหารและโภชนาการ 

P4 คือแบบประเมินตนเองของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก/สถานรับเลี้ยงเด็กด้านอาหารและโภชนาการ   

P5 คือแบบประเมินตนเองของนักเรียนชั้น ป.1-ป.6 ด้านอาหารและโภชนาการ 

P6 คือแบบประเมินตนเองของโรงเรียนด้านอาหารและโภชนาการ 

P7 คือแบบประเมินตนเองของ อปท.ด้านอาหารและโภชนาการ โดยคณะกรรมการบริหาร อปท.

  • —หนังสือ E-book สรุปผลการนิเทศ ติดตามงานแบบเสริมพลัง เพื่อกระตุ้นให้เกิดพื้นที่รูปธรรม/แหล่งเรียนรู้ต่อเนื่อง/ยั่งยืน สาระสำคัญ: (1) แนวทางการนิเทศ ติดตามงาน เยี่ยมเสริมพลัง (2) เกณฑ์การพัฒนาสู่แหล่งเรียนรู้โภชนาการสมวัย (3) เครื่องมือที่ใช้และผลการนิเทศ ติดตามงาน เยี่ยมเสริมพลังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก้าวสู่แหล่งเรียนรู้โภชนาการสมวัย(ภาพรวมและจำแนกรายจังหวัด) (4) ตัวอย่างสื่อ นวัตกรรมที่เกิดจากการดำเนินงานในระดับพื้นที่ และ (5) ข้อเสนอแนะในการพัฒนางาน ที่เป็นประโยชน์

  • —หนังสือ E-book  เรื่องเล่าเชิงประสบการณ์ เพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย 

  • —หนังสือ E-book  สื่อ นวัตกรรมแหล่งเรียนรู้โภชนาการสมวัย สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นการรวบรวมตัวอย่างสื่อ นวัตกรรมจากการดำเนินงานของโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และชุมชน ในการดำเนินงานด้านการจัดการอาหารและโภชนาการเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย ครู ผู้ดูแลเด็ก และเครือข่ายผู้ปกครอง สามารถนำความรู้ไปพัฒนาต่อยอดการจัดกิจกรรมส่งเสริมโภชนาการเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของเด็กปฐมวัยและเด็กวัยเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 

สาระสำคัญ แบ่งกลุ่มเนื้อหาของสื่อ นวัตกรรมออกเป็น  3 กลุ่ม : กลุ่มที่ 1 สื่อ นวัตกรรมด้านการส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ  กลุ่มที่ 2 สื่อ นวัตกรรมด้านการออกกำลังกาย  และกลุ่มที่ 3 สื่อ นวัตกรรมด้านการบริหารจัดการที่ดี

 

3.1.2.7 สื่อ ชุดความรู้สำหรับเคลื่อนนโยบายสาธารณะที่สนับสนุนการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ ในเด็กเล็ก (อายุ 0-5 ปี)

สื่อชุดความรู้สำหรับเคลื่อนนโยบายสาธารณะที่สนับสนุนการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ ในเด็กเล็ก (อายุ 0-5 ปี) จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย

  • —VDO ลงทุนสร้างเด็ก สาระสำคัญ (1.1) สะท้อนความรุนแรงของสถานการณ์สุขภาพเด็กไทยที่อยู่ในภาวะวิกฤต และ (1.2) เสนอทางออกในการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย 

  • —คู่มือท้องถิ่นทำได้เด็กไทยมีโภชนาการสมวัย : (2 เล่ม) สาระสำคัญ ประกอบด้วย 5 หัวข้อย่อยที่มุ่งเน้นกระตุ้นให้ผู้บริหารท้องถิ่นเห็นความสำคัญของ (1) การลงทุนพัฒนาเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย (2) ระบบและกลไกในการบริหารจัดการด้านอาหารและโภชนาการ (3) แนวทางการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาระบบและกลไกให้เด็กไทยให้มีโภชนาการสมวัย (4) แนะนำเครื่องมือ/สื่อ/นวัตกรรมโภชนาการสมวัยที่ท้องถิ่นควรนำมาใช้ในการพัฒนางานด้านอาหารและโภชนาการ และ (5) ตัวอย่างกิจกรรมการพัฒนาพื้นที่และบุคลากรต้นแบบด้านการพัฒนาเด็ก ให้มีโภชนาการสมวัย

  • —VDO ครัวกลาง จังหวัดสุรินทร์ (2 รายการ) เป็นตัวอย่างพื้นต้นแบบด้านการบริหารจัดการอาหารกลางวันนักเรียน

สาระสำคัญ  นำเสนอรูปแบบการจัดการอาหารกลางวัน อาหารว่างนักเรียนในรูปแบบครัวกลาง ของเทศบาลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ที่ปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการอาหารในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจากครัวแยกมาเป็นครัวรวม บริหารจัดการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพอาหารตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภิบาลอาหาร และอาหารปลอดภัย เชื่อมโยงผลผลิตปลอดภัยในชุมชน สร้างเศรษฐกิจอาหาร  ผลการดำเนินงานเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีทั้งด้านการจัดการอาหาร การคืนครูสู่ห้องเรียน พัฒนาการและภาวะโภชนาการของเด็กมีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงเพิ่มรายได้จากการนำงบประมาณอาหารกลางวันมาจัดซื้อวัตถุดิบอาหารสร้างเศรษฐกิจชุมชน นับเป็นต้นแบบที่ดีควรนำไปใช้ขยายผลทั่วประเทศ

  • —หนังสือการจัดทำแผนอาหารและโภชนาการที่เชื่อมโยงกับแผนชุมชนตลอดห่วงโซ่

 สาระสำคัญ ประกอบด้วย : (1) แนวคิดและเนื้อหาเชื่อมโยงอาหาร โภชนาการและสุขภาพ โดยเน้นการพัฒนาระบบการจัดการอาหารและโภชนาการชุมชน/ตำบล (2) การจัดทำและเชื่อมโยงแผนด้านอาหารและโภชนาการในระดับตำบลด้านการส่งเสริมความรู้ ความตระหนัก ในการบริโภคอาหารและใช้ทรัพยากรเพื่อการผลิตและกระจายอาหารในห่วงโซ่อาหาร  และ (3) ส่งเสริมพฤติกรรมที่พึงประสงค์ในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะโดยการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อาหาร เพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายประชาชนมีภาวะโภชนาการที่ดีและความอยู่ดีมีสุข

  • —คู่มือการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นและผู้ปฏิบัติงานด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการในชุมชน 

สาระสำคัญ ผลการศึกษาสรุปได้ 3 ประเด็น (1) จากข้อจำกัดด้านบุคลากรในตำแหน่งนักโภชนาการที่มีบุคลากรอื่นปฏิบัติงานด้านอาหารและโภชนาการในชุมชน มีค่าเฉลี่ยเจตคติในการปฏิบัติงานโดยรวมอยู่ในระดับดี ควรได้รับการพัฒนาศักยภาพต่อเนื่อง (2) ข้อเสนอเชิงนโยบาย 3 ด้าน : ด้านกฎหมาย :  ผลักดันให้มีการปรับข้อความใน พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (พรบ.อบต) และ พระราชบัญญัติเทศบาล เพื่อการขับเคลื่อนงานด้านอาหารและโภชนาการในทุกท้องถิ่น ด้านบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านอาหารและโภชนาการในชุมชนสังกัดท้องถิ่น ข้อเสนอต่อนายก อปท/อบต./เทศบาล ทุกแห่ง และ ด้านโครงสร้างทางสังคมในชุมชน ข้อเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ/ตำบล  (3) ข้อเสนอแนะ การขับเคลื่อนงานอาหารและโภชนาการชุมชนมีความท้าทาย จำเป็นต้องบูรณาการให้ครอบคลุมทั้งระบบโดยเน้นครอบครัวและชุมชน เป็นศูนย์กลางการพัฒนาเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพอนามัยที่ดี มีส่วนร่วมรับรู้และแก้ไขปัญหาโภชนาการได้ด้วยตนเอง ชุมชนจึงควรมี "นักโภชนาการชุมชน" เพื่อช่วยดูแลและให้คำปรึกษาอย่างจริงจัง ควบคู่กับการพัฒนาผู้ปฏิบัติงานให้มีความรู้ และสมรรถนะความพร้อมในการปฏิบัติงานเพื่อชุมชนต่อไป  

 

3.2 สาระสำคัญ องค์ความรู้อาหารเพื่อสุขภาวะ : กลุ่มเด็กโตและวัยรุ่น (อายุ 6-24 ปี)

 

3.2.1 ชุดความรู้และสื่อด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ชุดความรู้และสื่อด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จำนวน 6 รายการ ได้แก่

  • —หนังสือ E-book ปลูกผักสนุกจัง (ความรู้คาบเกี่ยวข่วงวัยเด็กเล็ก อายุ 0-5 ปี) 

  • —หนังสือสวนผักบ้านฉัน (ความรู้คาบเกี่ยวข่วงวัยเด็กเล็ก อายุ 0-5 ปี) 

  • —คู่มือการปลูกพืชผัก ไม้ผล และการขยายพันธุ์ขั้นพื้นฐาน 

  • —VDO การเกษตรในโรงเรียน           

สาระสำคัญ ประกอบด้วยแนวทางการดำเนินงานเกษตรในโรงเรียน แนะนำวิธีการปลูกพืชผักผลไม้ และ การขยายพันธุ์ การเตรียมดินและการปลูกผัก ตัวอย่างการปลูกผักแต่ละประเภท ฤดูที่เหมาะสมกับการปลูกผักแต่ละชนิดคุณค่าทางอาหารของผักสวนครัวและผักพื้นเมืองในส่วนที่บริโภคได้ การปลูกผลไม้ การปลูกข้าวโพดหวานและพืชตระกูลถั่ว การขยายพันธุ์พืช การทำปุ๋ยแบบต่างๆ น้ำสกัดชีวภาพเพื่อป้องกันและกำจัดศัตรูพืช รวมทั้งการจัดส่งผลผลิตเกษตรเข้าสู่สหกรณ์โรงเรียน และโครงการอาหารกลางวัน  ตลอดจนการฝึกทักษะด้านความปลอดภัยทางอาหาร โดยการทำกิจกรรม 5 ฐานหลักคือ ฐานเช็คดิน ฐานดอกใบกินได้ ฐานฉีดพ่นแล้ว ไปไหน ฐานสัญญาณไฟบนฉลากขนม และฐานเอ๊ะ ซึ่งเป็นการฝึกทักษะนักเรียนด้านการเกษตรเพื่อโครงการอาหารกลางวันสู่อาชีพในอนาคต และสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 

  • —คู่มือความรู้ด้านสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและแนวทางการเฝ้าระวัง (ฉบับครูผู้สอน) 

  • —คู่มือความรู้ด้านสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและแนวทางการเฝ้าระวัง (ฉบับเยาวชน)

 สาระสำคัญ ประกอบด้วยความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช  การตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชผลกระทบ เทคนิคการปลูกที่ไม่ใช้สารเคมี และแนวทางการเฝ้าระวัง   

 

3.2.2 ชุดความรู้และสื่อด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ

ชุดความรู้และสื่อด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ จำนวน 6 รายการ ได้แก่

  •  —VDO สื่อเรียนรู้สำหรับกลุ่มวัยเรียน โครงการส่งเสริมการจัดการอาหารปลอดภัย และเกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขภาวะของผู้ผลิตและผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ 

สาระสำคัญ ประกอบด้วย 8 หมวดวิชา ได้แก่ หมวดวิชากระบวนทัศน์และวิถีเกษตรอินทรีย์ (รหัส 01)  หมวดวิชาการผลิตและการเพิ่มมูลค่า (รหัส 02)  หมวดวิชามาตรฐานความปลอดภัยของผลผลิตทางการเกษตร (รหัส 03)  หมวดวิชาการตลาดและการกระจายสินค้า (รหัส 04)  หมวดวิชาการสื่อสารประชาสัมพันธ์และเชื่อมโยงผู้บริโภค (รหัส 05) หมวดวิชาอาหารและโภชนาการ (รหัส 06) หมวดวิชาเสริม (รหัส 07) และหมวดวิชาสาระบันเทิง (รหัส 08) เช่น วิชาผู้นำกับการพัฒนา : ยอดหญิงนักพัฒนา  เสียงกู่จากครูใหญ่   

  • —VDO: Food Safety Good Health โดยโรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์

 สาระสำคัญ นำเสนอการจัดกิจกรรมของโรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์-เวทีเสาวนาภายใต้หัวข้อ "Food Safety -Good Health" และการนำเสนอโครงงานจากการลงชุมชนของนักเรียน เพื่อคืนความรู้ให้ชุมชนได้สร้างความตระหนักการลดการใช้สารเคมี -นิทรรศการมีชีวิต สาธิตการตรวจหาสารเคมีตกค้างในผัก การตรวจเลือดเพื่อหาสารเคมีตกค้างในเลือด - ฐานการเรียนรู้ การทำถั่วลิสงกรอบแก้ว  - ฐานการเรียนรู้ การทำขนมเจาะหู - ฐานการเรียนรู้ การแทงต้มข้าวเหนียวดำ 

  • —VDO งานนักสืบอาหาร 21-22 ธันวาคม 2565 

สาระสำคัญ สนับสนุนการเรียนรู้ประเด็นความมั่นคงอาหาร อาหารปลอดภัย และความหลากหลายของพืชอาหารและสิ่งมีชีวิตในนิเวศสวน โดยได้ออกแบบเนื้อหาให้มีความสอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ อีกทั้งยังคำนึงถึงการกระตุ้นให้เกิดความรอบรู้ทางด้านสุขภาพและการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัยจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ลดหวาน-มัน-เค็ม ซึ่งจะเป็นทักษะที่นักเรียนนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และลดความเสี่ยงของการเป็นโรค NCDs

  • —VDO สหกรณ์นักเรียน

  • —คู่มือการเรียนรู้การสหกรณ์ในสถานศึกษา ระดับประถมศึกษา 

  • —คู่มือการจัดทำบัญชี กลุ่มกิจกรรมสหกรณ์ 

 สาระสำคัญ ประกอบด้วย แนวทางการดำเนินงานสหกรณ์นักเรียน หลักการสหกรณ์ การจัดทำบัญชีรูปแบบต่างๆ ตัวอย่างเอกสารที่ใช้ในการบันทึกบัญชี ซึ่งนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 สามารถเรียนรู้ด้านการค้า การขายที่เป็นธรรม การจัดทำบัญชี ผ่านสหกรณ์นักเรียนที่มุ่งเน้นการรับซื้อผลผลิตทางเกษตรของโรงเรียนสู่โครงการอาหารกลางวัน ตลอดจนนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

3.2.3 ชุดความรู้และสื่อด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ

  

3.2.3.1 ชุดความรู้และสื่อด้านการบริโภคอาหารที่ได้โภชนาการเหมาะสมตามวัย กลุ่มเด็กโตและวัยรุ่น (อายุ 6-24 ปี)

ชุดความรู้และสื่อด้านการบริโภคอาหารที่ได้โภชนาการเหมาะสมตามวัย กลุ่มเด็กโตและวัยรุ่น (อายุ 6-24 ปี) จำแนกสาระสำคัญได้ 3 หัวข้อย่อย ได้แก่ อาหารสำหรับเด็กวัยเรียน อายุ 6-12 ปี เทคนิค/แนวทางส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารลดหวานมันเค็ม เพิ่มผักผลไม้  ชุดความรู้และสื่ออาหารชาติพันธุ์/วัฒนธรรมอาหาร   

อาหารสำหรับเด็กวัยเรียน อายุ 6-12 ปี 

สื่อ Infographic 7 รายการ จัดรวมเป็นชุดความรู้ได้ 1 Package ประกอบด้วย

  • —เด็กวัยเรียนอายุ 6-12 ปี กินอย่างไรให้โตดีแข็งแรง   

สาระสำคัญ  การจัดอาหารสำหรับเด็กวัยเรียนอายุ 6-12 ปี มีหลักปฏิบัติ ดังนี้ (1) ปริมาณพลังงานเหมาะสมตามช่วงอายุ (2) แบ่งเป็นการกินอาหารหลัก 3 มื้อต่อวัน อาหารว่าง 2 มื้อต่อวัน (3) อาหารหลักที่ควรจัดให้เด็ก ได้แก่ หมวดข้าวแป้ง หมวดเนื้อสัตว์ หมวดผัก นม ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้ โยเกิร์ต  และ (4) อาหารว่างที่ควรจัด ได้แก่ นม 2-3 แก้วต่อวัน ธัญพืช และผลไม้ 3 ส่วนต่อวัน เรื่องเน้นๆของอาหารเด็กวัยเรียน คือมื้อเช้าสำคัญที่สุดห้ามขาด และต้องครบ 3 มื้อ 5 หมู่ เพื่อการเจริญเติบโตและกระตุ้นพลังงานสมองสำหรับการเรียน โดยมีเคล็ดลับ/หลักการ จัดอาหาร 3 มื้อให้เด็กกินดี สมวัย ดังนี้ เน้นบริโภคไข่และปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน เสริมด้วยแหล่งอาหารธาตุเหล็ก เช่น เครื่องในสัตว์ ตับ เลือด อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน เสริมผลไม้วิตามินซีสูงช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก แต่ละมื้อควรสลับชนิดอาหารแต่ละประเภทให้มีความหลากหลาย รวมถึงวิธีการปรุง  และสิ่งสำคัญคือ ฝึกให้เด็กคุ้นชินกับการรับรสจืด  

  • —การจัดจานอาหารสุขภาพ :  2:1:1 สูตรจานอาหารเด็กกินดี 

สาระสำคัญ เพื่อแนะนำและกำหนดปริมาณอาหาร 3 มื้อให้เหมาะสมของเด็กประถมวัย (6-12 ปี) และทุกวันควรเสริมด้วยนม รวมทั้งดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ โดยมี วิธีพลิกแพลง สูตร 2:1:1 เมื่อเด็กกินอาหารนอกบ้าน เช่น ร้านอาหารจานเดียว  เน้นข้าวหนึ่งทัพพี เนื้อสองช้อนโต๊ะ และเพิ่มผักในเมนูนั้นๆเป็นพิเศษ รวมถึงการเลี่ยงเมนูทอด   ร้านก๋วยเตี๋ยว เน้นกินเนื้อแทนลูกชิ้น กินเส้นไม่เกินสองทัพพี เนื้อสัตว์สองช้อนโต๊ะ เพิ่มผัก ลดน้ำมันกระเทียมเจียวหรือการปรุงรสเพิ่ม ควรสังเกตอาหารก่อนกิน ไม่มีฝุ่นหรือแมลงวันตอมอาหาร ไม่มีฟองอากาศ ไม่มีสีหรือกลิ่นผิดปกติ หลีกเลี่ยงอาหารฟาสฟู๊ด อาหารไขมันสูง อาหารแปรรูปหรืออาหารสุกๆดิบๆ ผงชูรส อาหารรสหวานมันเค็มจัด 

  • —เด็กวัยเรียนกิน “เค็ม” หรือโซเดียม ได้วันละเท่าไหร่ 

สาระสำคัญ : ปริมาณโซเดียมที่แนะนำสำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี ไม่ควรเกิน 1,900 มก.ต่อวัน หรือไม่เกิน  600 มกต่อมื้อ เพราะอาหารในธรรมชาติ ข้าว เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ มีโซเดียมพอเพียงสำหรับร่างกายเด็กอยู่แล้ว เพื่อป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต โรคกระดูกพรุนในเด็ก อาหารโซเดียมสูงที่เด็ก ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารแปรรูป และซอสปรุงรส  ข้อแนะนำ : การอ่านฉลากหวานมันเค็ม (GDA) จะทำให้ รู้ทันโซเดียม

  • —เลือกไขมันให้เด็กวัยเรียนกินอย่างไรดี

สาระสำคัญ แม้ว่าไขมันเป็นอาหารที่ต้องระวังในการจัดอาหารให้เด็กกิน แต่เด็กๆควรได้รับไขมันเพื่อให้ร่างกายได้รับกรดไขมันจำเป็น ช่วยดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน A D E K  ผลจากการได้รับไขมันน้อยเกินไปร่างกาย            จะขาดกรดไขมันจำเป็นทำให้ผิวหนังบางลงและตกสะเก็ด เด็กเล็กโตช้าเพราะได้รับวิตามินที่ละลายในไขมันไม่เพียงพอ หากได้รับไขมันมากเกินไป แม้จะเป็นไขมันดีก็อาจส่งผลให้อ้วน เสี่ยงโรคกระดูกและข้อ ความดันโลหิตสูง นำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ 

เทคนิค/แนวทางส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารลดหวานมันเค็ม เพิ่มผักผลไม้     

  • —Infographic วิธีปลูกฝังให้ลูกกินดี

สาระสำคัญ  (1) สร้างสภาพแวดล้อมการกินดีให้เด็กเห็น เข้าใจ เรียนรู้ อย่างเป็นธรรมชาติ ในชีวิตประจำวัน เช่น กินให้ดู ทำอาหารด้วยกัน เลือกบริโภคอาหารที่มีโลโก้สัญญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ (2) ใช้จิตวิทยาให้เด็กเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เน้นให้ลองกินซ้ำๆ 10 ถึง 15 ครั้งขึ้นไปโดยไม่บังคับ ค่อยๆลดระดับความหวานความเค็ม ฝึกกินผัก และ (3) ข้อควรระวังการตั้งเงื่อนไข ให้รางวัลเพื่อให้เด็กปรับพฤติกรรมการกินอาจจะได้ผลระยะแรกเท่านั้นเพราะเด็กอาจตั้งเงื่อนไขกลับ

  • —เทคนิคลดการบริโภคหวาน Infographic 1 ชุด ประกอบด้วย 2 รายการ ได้แก่ (1) สารให้ความหวานเด็กควรกินไหม สาระสำคัญ แนะนำชนิดของสารให้ความหวาน ความปลอดภัยต่อเด็ก และผลต่อน้ำหนักตัวของเด็ก โดยมีคำแนะนำว่าการบริโภคสารให้ความหวานสำหรับเด็กแม้จะไม่มีอันตรายแต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะยาว ควรเลือกอาหารอื่นๆที่เหมาะสมตามวัยของเด็ก เพื่อสร้างนิสัยการกินที่ดีให้กับเด็ก และ (2) ทำอย่างไรให้เด็กลดกินหวาน สาระสำคัญ : ทำไมเด็กชอบกินของหวาน ผลเสียต่อสุขภาพ โดยมีคำแนะนำแนวทางการปฏิบัติเพื่อปรับพฤติกรรมกินหวาน 3 ข้อที่ผู้ปกครอง ควรทำ คือ เป็นตัวอย่างที่ดีในการกินอาหารหลากหลายไม่กินของหวานบ่อย เพิ่มการกินผลไม้หวานน้อยเพื่อให้เด็กคุ้นชิน และกำหนดปริมาณของหวานที่อนุญาตต่อสัปดาห์ ให้เด็กเลือกเองว่าจะกินอะไร

  • —เทคนิคส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ (29 รายการ Infographic 5 รายการ หนังสือ 1 รายการ และ VDO 23 รายการ) ได้แก่ (1) เด็กไม่กินผักผลไม้ ควรทำอย่างไร  สาระสำคัญ  ให้ความรู้เรื่องทำไมเด็กถึงไม่กินผักผลไม้                     ผลเสียต่อสุขภาพจากการไม่กินผักผลไม้ และแนะนำแนวทางการปฏิบัติ 3 ข้อที่ผู้ปกครองควรทำ เพื่อปรับพฤติกรรม การกินผักผลไม้ คือ เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กเห็นด้วยการกินผักผลไม้ ปรับวิธีทำอาหาร เพื่อเปลี่ยนกลิ่นและรสชาติของ             ผัก และสร้างความคุ้นเคยกับผักผลไม้ เช่น ให้เด็กช่วยปลูกผัก ชวนทำอาหาร (2)  จัดอาหารอย่างไรให้เด็กได้รับผักผลไม้เพียงพอ  สาระสำคัญ แนะนำประโยชน์ของการกินผักผลไม้ และปริมาณผักและผลไม้ที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเรียนตามช่วงชั้น เช่น เด็กประถม ควรได้ผัก 100 กรัม/วัน ผลไม้ 150 กรัม/วัน (3 ส่วน) โดยมีตัวอย่างการจัดอาหารให้เด็กได้รับผักผลไม้เพียงพอใน 1 วัน และสามารถดูตัวอย่างการจัดผักผลไม้สำหรับเด็กเพิ่มเติมได้จาก (3) หนังสือ “เมนูเทวดา : ตำรับอาหารว่าง “เพิ่มสูง ลดอ้วน เพิ่มการกินผักผลไม้”  โดยมีเคล็ดลับ/แนวทางที่ครู ผู้ปกครองและ ผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกระดับสามารถนำไปฝึกให้เด็กกินผักผลไม้ ด้วยเคล็ดลับ/แนวทาง ต่อไปนี้   

(ก) บันได 7 ขั้นนำผักผลไม้สร้างสุขภาพที่ดีให้เด็กไทย 

สาระสำคัญ เริ่มที่ Step 1: ตั้งเป้าหมายชัดเจน  Step 2: ให้พลังความรู้  Step 3: ส่งเสริมผู้ผลิต  ผู้ขาย Step 4: ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของผักผลไม้ Step 5: พัฒนาสภาพแวดล้อม ควบคุมการตลาด การขายอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพเด็กทั้งใน-นอกโรงเรียน Step 6: ขับเคลื่อนระบบสนับสนุน เช่น กำหนดหลักสูตรโภชนาการเป็นวิชาหลักในโรงเรียน และ Step 7: กำหนดเป็นนโยบายชาติ     

(ข)  5 เคล็ดลับฝึกให้ลูกหันมากินผักผลไม้ 

สาระสำคัญ เริ่มจากพ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นตัวอย่างที่ดี ให้เด็กกินผักผลไม้เป็นของว่างแทนขนมกรุบกรอบหรือขนมถุง เปลี่ยนชนิดผักผลไม้ไปเรื่อยให้หลากหลาย หลากสี เอ่ยชมบ่อยๆเมื่อเด็กกินผัก และให้เด็กมีส่วนร่วมในการทำอาหาร 

 (ค)  VDO ละครหุ่นผักกระดาษ

สาระสำคัญ ใช้กระบวนการของละครชวนเด็กๆทำกิจกรรมเรียนรู้การกินดีอยู่ดีผ่านเชฟน้อยชวนชมนิทานหุ่นเงา โรงเรียนบ้านท่าเกวียน จ..เชียงใหม่ มี 5 ตอน: เมนูพิเศษของหมีน้อย  ลูกหมีกับมะเขือเทศสีแดง  น้องเอื้องฟ้า ไม่ยอมกิน  ผักสวยแต่อันตราย และพี่ปิงปองกับน้องปิงปิง 

 (ง) VDO กินสบายใจ (18 รายการ) 

สาระสำคัญ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงความสำคัญของอาหารปลอดภัยและโภชนาการในเด็กนักเรียน ภายใต้แนวคิด “กินสบายใจ ปรับปรุง เปลี่ยน แปลง ปลอดภัย ร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมคิด ด้วยการลงมือทำ เปลี่ยนวิถีอาหารสุขภาวะสู่เป้าหมายสูงสุดคือระบบการจัดการอาหารกลางวันนักเรียนที่มีคุณค่าถูกหลักโภชนาการ สะอาด ปลอดภัย หลักการสำคัญคือ  (1) ก้าวข้ามข้อจำกัดทั้งงบประมาณและสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อ เพื่อนักเรียนมีสุขภาวะที่ดี (2) เพิ่มพื้นที่ปลูกผักในพื้นที่ว่างเปล่าหลังโรงเรียน  (3) ซื้อผักจากเกษตรกรอินทรีย์ในชุมชน  (4) บูรณาการเกษตรอินทรีย์เข้ากับสาระการเรียนรู้ (5) ใช้เส้นทางอาหารกลางวันส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนรู้จักเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และ (6) เด็กไม่กินผักสร้างแรงบันดาลใจ ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ด้านโภชนาการที่ถูกต้อง ให้กับบุคลากรและตัวเด็กนักเรียน เพื่อพัฒนาการที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจของเด็ก ทั้งนี้สามารถชมผลงานของ 18 โรงเรียนที่ร่วมโครงการได้จาก VDO 18 โรงเรียน

ชุดความรู้และสื่ออาหารชาติพันธุ์/วัฒนธรรมอาหาร  จำนวน 2 รายการ  สื่อประเภท หนังสือ ประกอบด้วย

  • —หนังสือเด็กดอย ยังกินดี? เป็นการนำเสนอให้เห็นว่าเด็กในชุมชนชาติพันธุ์ปัจจุบัน มีวิถีการบริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร รวมทั้งครอบครัวชาติพันธุ์ใช้ชีวิตอย่างไรกับกระแสบริโภคนิยม 

สาระสำคัญ แบ่งเนื้อหาเป็น 2 ส่วน :  ส่วนที่ 1 : เด็กๆ กินอย่างไรจึงจะดี? เป็นการนำเสนอเบื้องต้นเกี่ยวกับการบริโภคที่ดีของเด็กวัยเรียน ความต้องการสารอาหารของเด็กวัยเรียน อาหารที่แนะนำสำหรับเด็กวัยเรียนและสรุปโภชนาการที่ดีของเด็กวัยเรียน  ส่วนที่ 2 : เด็กดอยวันนี้กินดีหรือไม่? เป็นการนำเสนอวิธีพิจารณาภาวะการเจริญเติบโตของเด็กอย่างง่าย พฤติกรรมการกินของเด็กบนดอยทั่วไป การกินขนมกรุบกรอบ พฤติกรรมการกินของแกนนำเด็กดอยกินดี การรู้เท่าทันการบริโภค วิถีการบริโภคของเด็กดอยในอดีต รายจ่ายบ้านบนดอยในปัจจุบัน ร้านสะดวกซื้อบนดอยเทรนด์การบริโภคของเด็กในปัจจุบัน และแนวโน้มการกินของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มกินอาหารไม่ครบ 3 มื้อ/ไม่ตรงเวลา 

  • —หนังสือเมนูถูกใจเด็กใกล้ฟ้า 

สาระสำคัญ  เป็นการรวบรวมสูตรอาหาร 9 ชาติพันธุ์ จำนวน 30 ชนิด จากการสำรวจอาหารชาติพันธุ์ที่เด็กชอบมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ประกอบด้วย (1) รายชื่อเมนูอาหาร 9 ชาติพันธ์ ได้แก่ อาหารจีนยูนาน ไทลื้อ ไทใหญ่ ม้ง เมี่ยน ลัวะ ลาหู่ ลีซู และอาข่า (2) ส่วนประกอบและวิธีการปรุงอาหารแต่ละชนิด (3) ขั้นตอนการทำอย่างละเอียด แม้คนทำอาหารไม่เป็นก็สามารถทำตามได้ไม่ยาก และ (4) ข้อมูลโภชนาการที่นำสูตรการประกอบอาหารทั้ง 30 ชนิด ไปคำนวณเพื่อหาค่าพลังงาน โปรตีน คาร์โบรไฮเดรต และไขมัน เพื่อให้โรงเรียนสามารถนำไปใช้เป็นเมนูทางเลือกในการจัดอาหารกลางวันให้กับนักเรียนได้

 

3.2.3.2 ชุดความรู้และสื่อด้านปัญหาสุขภาพจากการบริโภคอาหารไม่สมดุลในเด็กโตและวัยรุ่น (อายุ 6-24 ปี)

ชุดความรู้และสื่อด้านปัญหาสุขภาพจากการบริโภคอาหารไม่สมดุลในเด็กโตและวัยรุ่น (อายุ 6-24 ปี) 28 รายการ ในรูปแบบสื่อ Infographic VDO และหนังสือ ประกอบด้วย ปัญหาสุขภาพในเด็กโตและวัยรุ่น แนวทางการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการและสุขภาพ เทคนิค/แนวทางการส่งเสริมโภชนาการในกลุ่มเด็กอ้วน ผอม เตี้ย และติดหวาน  

ปัญหาสุขภาพในเด็กโตและวัยรุ่น (15 รายการ : Infographic 14 รายการ  VDO 1 รายการ)

  • —น้ำตาลทำให้เด็กฟันผุ สาระสำคัญ สาเหตุของฟันผุจากน้ำตาล วิธีลดความเสี่ยงฟันผุ และการแปรงฟันที่ถูกวิธี  โดยมีหลักปฏิบัติ ดังนี้ รักษาสมดุลระหว่างอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลควบคู่กับการทำความสะอาดช่องปาก                 กินผัก ผลไม้บำรุงฟัน งดอาหารที่กระตุ้นให้เกิดฟันผุโดยเฉพาะขนมหวาน ดื่มน้ำเปล่า 6-8 แก้วต่อวัน และแปรงฟันด้วย ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ แปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที 2 ครั้งต่อวัน

  • —ไขมันพอกตับ รู้ทันโรคอ้วนในเด็ก สาระสำคัญ สาเหตุของการเกิดไขมันพอกตับ และวิธีป้องกันโรคในเด็ก  โดยมี 5 ข้อปฏิบัติที่ควรทำ งดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล งดขนมขบเคี้ยวเลือกกินผลไม้หวานน้อยแทน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ วันละ 30 นาที ลดพฤติกรรมที่อยู่นิ่งๆ และพ่อแม่ ผู้ปกครองต้องเป็นแบบอย่าง 

  •  —รู้ทัน โรคอ้วนในเด็ก” (1 ชุดความรู้ มี Infographic 6 รายการ สาระสำคัญ นำเสนอปัญหาโรคอ้วนในเด็กของประเทศไทย สาเหตุ ผลเสียของโรคอ้วนในเด็กต่อสุขภาพกายและใจ การประเมินภาวะอ้วนในเด็กด้วยกราฟการเจริญเติบโต และแนวทางลดโรคอ้วนในเด็ก ด้วย “3 ปรับ ลูกกลับมาสุขภาพดี” ได้แก่ การปรับอาหาร ปรับพฤติกรรม และปรับสภาพแวดล้อม   

  • —รายการโทรทัศน์ NBT มีคำตอบ ตอน “อ้วน ภัยร้ายเด็กไทยยุคใหม่” สาระสำคัญ ให้ความรู้เกี่ยวกับทราบได้ยังไงว่าเด็กมีปัญหาโรคอ้วนหรือไม่ สาเหตุของโรคอ้วน ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพในเด็กอ้วน และแนวทางแก้ไขที่มาของโครงการเด็กไทยดูดี มีพลานามัย   

  • —โรคอ้วนในเด็ก ภัยใกล้ตัวในโลกปัจจุบัน สาระสำคัญ สถานการณ์/ความชุกของโรคอ้วนในผู้ใหญ่และเด็ก ประเทศที่มีผู้ป่วยโรคอ้วนมากที่สุด - ต่ำสุด และแนวโน้มปัญหาโรคอ้วน   

  • —ความเสี่ยงของเด็กอ้วนในสังคมไทย สาระสำคัญ สถานการณ์โรคอ้วนในเด็กไทย สาเหตุของโรคอ้วน (4 ข้อสำคัญคือ พฤติกรรมการบริโภคอาหาร ความเชื่อด้านสุขภาพ เบื่อหน่ายต่อการทำกิจกรรมทางกาย มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ)  และโรคที่เกิดจากโรคอ้วน 

  • —เด็กอ้วน น่ารักจริงหรือ? สาระสำคัญ ให้ความรู้ 10 ผลเสีย ของโรคอ้วนในเด็ก เช่น โรคข้อและกระดูก โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะอ้วนลงพุง ไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานในเด็ก 

  • —เด็กเสี่ยงอ้วน เบาหวาน จากอาหารหน้าโรงเรียน สาระสำคัญ เด็กที่ได้รับโภชนาการเกินมักมาจากอาหารหน้าโรงเรียนที่เป็น Fast Food มีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูงกว่ามาตรฐานที่เด็กควรได้รับ โดยมีแนะนำเทคนิคการเลือกอาหารหน้าโรงเรียน ดังนี้ ควรเลือกผลไม้สดแทนผลไม้ดองหรือแช่อิ่ม แซนด์วิชใส่เนื้อสัตว์แทนขนมปังเนย/แยม นมจืดน้ำผลไม้คันสดไม่เติมน้ำตาลแทนน้ำหวานชานมไข่มุก ลูกชิ้นนึ่งแทนลูกชิ้นปิ้งทอด 
  • — เบาหวานในเด็กเพราะอ้วนเป็นเหตุ สาระสำคัญ ลักษณะของเด็กที่เป็นเบาหวานและอาการที่พบใน เบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็ก ได้แก่ มีภาวะอ้วน มีปื้นดำหนาที่คอ รักแร้ ขาหนีบ อาการกินเก่งหิวบ่อย กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักตัวลด อ่อนเพลีย ปัจจัยเสี่ยงและผลเสียที่เกิดขึ้นจากเบาหวาน ถ้าเริ่มเป็นเบาหวานตั้งแต่เด็กเสี่ยงพบภาวะแทรกซ้อนทางตา ไต ระบบประสาท ระบบหลอดเลือดสมองและโรคอื่นเพิ่มได้เมื่อโตขึ้น เช่น ความดันโลหิตสูง 

  • —เด็กเตี้ย โตช้า ผอมแกร็น สาระสำคัญ  สาเหตุเด็กเตี้ย โตช้า ผอมแกร็น เป็นเพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา และภูมิคุ้มกันต่ำจะติดเชื่อหรือเจ็บป่วยได้ง่าย แนวทางการฟื้นฟูเด็กภาวะผอมหรือเตี้ยแกร็น โดยเพิ่มปริมาณสมดุลของโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันจากเดิมที่กินอยู่ เน้นอาหารผัด ทอด เจียว เสริมอาหารโปรตีนสูง แคลเซียมสูง ธาตุเหล็กชนิดดูดซึมดี ดื่มน้ำและของเหลวอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน รวมทั้งควรให้เด็กวิ่งเล่นออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นการสร้างกระดูกและกระตุ้นความอยากอาหาร ให้นอนหลับเพียงพออย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อวัน

แนวทางการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการและสุขภาพ จำนวน 5 รายการ

  • —VDO การพัฒนาระบบเฝ้าระวังภาวะโภชนาการนักเรียน 4.0 สาระสำคัญ เป็นการแก้ปัญหาที่พบในการสำรวจภาวะโภชนาการของนักเรียนในรูปแบบเดิมที่เป็น Manual และมีการพัฒนายกระดับสู่ระบบออนไลน์ ภายใต้ Platforms Kid Diary พัฒนาระบบโดย NECTEC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการนักเรียน

  • —VDO การสำรวจภาวะโภชนาการในโรงเรียนด้วยเครื่อง Kid size  สาระสำคัญ  (1) หลัก การใช้งานและประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้เครื่อง Kid size  (2) ระบบ Kid Diary การเชื่อมต่อข้อมูลเข้าสู่ระบบ Kid Diary เพื่อแปลผลภาวะโภชนาการนักเรียนและประมวลผลรายคน/ภาพรวมรายห้องเรียน/ชั้นเรียน/ภาพรวมโรงเรียนและการออกรายงาน (3) การเชื่อมต่อข้อมูลกับผู้ปกครองด้วย  QR code ผ่าน App. Kid Diary ผู้ปกครอง  (4) การส่งต่อเด็กกลุ่มเสี่ยงกลุ่มป่วยสู่ รพ.สต./รพ. (5) การแบ่งปันประสบการณ์การใช้เครื่อง Kid size ในโรงเรียน และ (6) ผลการใช้งานระบบสามารถลดระยะเวลาการดำเนินงาน เพิ่มความถูกต้องของข้อมูล และการแปลผลภาวะโภชนาการที่แม่นยำ รวดเร็ว ทันเวลา นำข้อมูลมาแก้ไขปัญหาภาวะทุพโภชนาการได้ทันเวลา 

  • —Infographic เด็กอ้วนหรือผอมเกินวัดอย่างไร  สาระสำคัญ นำเสนอเกณฑ์การวัดน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กวัยเรียน 6-12 ปี ที่สามารถคำนวณได้ว่าเด็กอ้วนหรือผอมเกิน จากการใช้เกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเด็กอายุ 6-19ปี โดยกรมอนามัย และปัจจุบันได้มีการพัฒนา โปรแกรม Nut Stat Cal ซึ่งเป็นโปรแกรมการประเมินภาวะโภชนาการของเด็ก เพียงใช้ข้อมูลอายุ น้ำหนัก และส่วนสูงของเด็ก เพื่อวินิจฉัยภาวะเริ่มอ้วน (overweight) อ้วน (obesity) ผอม (wasting) เตี้ย (stunting) และ แสดงค่า % of ideal body weight โดยใช้เกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเด็กอายุ 6-19 ปี

  • —สมุดบันทึกสุขภาพนักเรียน สาระสำคัญแบบบันทึกสุขภาพนักเรียนที่มีภาวะอ้วน ผอม เตี้ย แบ่งเนื้อหาเป็น 4 ส่วน : 1) การตรวจสุขภาพทั่วไป และการเจาะเลือดติดตามค่าน้ำตาลและไขมันในเลือด 2) การตรวจสุขภาพช่องปาก  3) การบันทึกกิจกรรมทางกาย และการนอน และ 4) การบันทึกอาหารที่กินใน 1 วัน  สำหรับข้อ 1 – 2 บันทึก โดยบุคลากรทางการแพทย์  ข้อ 3 - 4 บันทึกโดยนักเรียนหรือผู้ปกครองหรือครูประจำชั้น 
  • —คู่มือการจัดการโรงเรียนรับมือโควิด 19 สาระสำคัญ ประกอบด้วย 4 หมวดความรู้ : 

    หมวดที่ 1 ความรู้ทั่วไปของโรคโควิด-19   

    หมวดที่ 2 ข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัย สิ่งแวดล้อม 

    หมวดที่ 3 การให้สุขศึกษาในโรงเรียน         

    หมวดที่ 4 อนามัยสิ่งแวดล้อม 

    โดยจัดให้มีการดูแลความสะอาดห้องส้วมและอ่างล้างมือ  การดูแลอาคารสถานที่ สนามเด็กเล่น และความสะอาดของรถรับ-ส่งนักเรียน

    เทคนิค/แนวทางการส่งเสริมโภชนาการในกลุ่มเด็กอ้วน ผอม เตี้ย และติดหวาน  รวม 9 รายการ : Infographic 4 รายการ VDO 3 รายการ หนังสือ 1 รายการ รายงาน 1 รายการ)  ประกอบด้วย

  • —3 ปรับลูกกลับมาสุขภาพดี สาระสำคัญ (1) ปรับอาหาร: กินผักผลไม้อย่างน้อยวันละ 5 ส่วน (400 กรัม) ลดหรืองดเครื่องดื่มที่มีไขมัน/น้ำตาลสูง ดื่มน้ำสะอาด 6-8 แก้ว/วัน (2) ปรับพฤติกรรม : ลดดูโทรทัศน์และออกกำลังกาย 30-60 นาที/วัน และ (3) ปรับ สภาพแวดล้อม : ลดการกินอาหารนอกบ้าน มีกิจกรรมออกกำลังกายของครอบครัว

  • —7 วิธีลดหุ่น แก้โรคอ้วนในเด็กได้ผลแบบ 100% สาระสำคัญ (1) ทำให้ลูกอยากลดน้ำหนักด้วยตัวเอง โดยพ่อแม่ควรแนะนำให้ลูกตระหนักเรื่องการดูแลสุขภาพ และคอยให้กำลังใจ  (2) กินตามโภชนาการและควบคุมปริมาณอาหาร ทุกมื้อควรมีสัดส่วนของเนื้อสัตว์และผักให้มีปริมาณที่พอดีไม่ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง (3) งดกินอาหารที่มีไขมันไม่ดี+ของหวาน และควบคุมปริมาณน้ำตาลไม่เกิน 4 ช้อนชา หรือ 16 กรัม/วัน (4) พ่อแม่ควรทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่างก่อน โดยเฉพาะการกินผักให้ลูกเห็นเป็นประจำเพื่อลูกจะได้จดจำและกินตาม (5) ออกกำลังกายหรือชวนลูกเล่นให้เหงื่อออก นอกจากช่วยให้ร่างกายได้เผาผลาญแล้วยังกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น (6) ชวนลูกกินผักและผลไม้ให้สนุก เพื่อให้รู้สึกว่าการกินผักผลไม้เป็นเรื่องสนุกสนาน ปลูกฝังให้ลูกมีทัศนคติที่ดีต่ออาหารทุกชนิด  และ (7) ชวนลูกเข้าครัวทำอาหาร และให้ลูกลองทำอาหารด้วยตัวเอง จะช่วยให้ลูกใส่ใจอาหารการกินในทุกๆเมนูที่ได้ทำ

  • —เทคนิคปรับการกินให้เด็กลดอ้วน  สาระสำคัญ  เด็กอ้วนควรลดกินคาร์โบไฮเดรต  น้ำตาล ไขมัน ควบคู่กับการออกกำลังกาย โดยใน 1 วัน ควรกิน ข้าว-แป้ง  6.5 ทัพพี เลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะทำให้อิ่มท้องนานกว่าและมีประโยชน์กว่า เนื้อสัตว์ 12 ช้อนกินข้าว ผักสุก 3 ทัพพี ผลไม้หวานน้อย 3 ส่วน นมไขมัน 0% 2-3 แก้ว แบ่งกิน 3 มื้อ เด็กอ้วนควรกินน้ำตาลให้น้อยกว่า 4 ช้อนชา/วัน เน้นเสริมด้วยอาหารไขมันดี (ถั่วต่างๆและเมล็ดพืช) โดยมี ข้อปฏิบัติในการลดน้ำหนักแบบรักษาสมดุลแร่ธาตุอาหาร 3 ข้อ :  (1) ไม่อด แต่กินน้อยลง  (2)  เปลี่ยนชนิดของข้าวแป้ง เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และ (3) อาหารประทังหิวพลังงานน้อย ไฟเบอร์สูง   เทคนิคค่อยๆปรับอาหาร 5 ข้อ : (1) กินของหวานหรือไอศกรีมที่ทำจากน้ำผลไม้  (2) เลี่ยงการใช้น้ำมัน ลดอาหารมันที่เด็กชอบกินตามลำดับ  (หมูกรอบทอด หมูกรอบอบลมร้อน เนื้อหมูแดดเดียวอบลมร้อน) (3) เลือกขนมสูตรไม่ใช้แป้งหรือน้ำตาลน้อย  (4) จำกัดของหวานจากที่กินทุกวัน หรือวันเว้นวัน และ (5) ซื้ออาหารที่มีสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ

  • —ชวนลูก “ออกกำลังกาย” ก่อนสายเกินแก้ สาระสำคัญ เป็นการแนะนำให้เด็กๆออกกำลังกายอย่างน้อย 30-60 นาที 3-5 วัน/สัปดาห์ และชนิดของการอออำลังกายสำหรับเด็กในแต่ละวัย เช่น เด็กอายุ 2-6 ขวบ แนะนำให้วิ่งและกระโดด วิ่งไล่จับ เตะฟุตบอล และปืนป่ายเครื่องเล่น เด็กอายุ 6-10 ขวบ แนะนำให้เคลื่อนไหว/ยืดหยุ่น เช่น  ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก วิ่งเร็ว ว่ายน้ำ และเด็กอายุ 10 ขวบขึ้นไป แนะนำให้เล่นกีฬาเป็นทีมได้ เช่น แบดมินตัน บาสเกตบอล ปิงปอง

  • —ท่าลดไขมัน สำหรับเด็กจ้ำม่ำ สาระสำคัญ แนะนำท่าลดไขมัน 3 ท่า ดังนี้ ท่าที่ 1 ก้าว 4 จังหวะ ท่าที่ 2 ตบมือเหนือหัว ท่าที่ 3 ย่อตัว แตะเข่า ทำท่าละ 10 ครั้ง หรือทำต่อเนื่อง 3-5 นาที จะมีประโยชน์ต่อร่างกายคือ ช่วยเผาผลาญไขมัน กระตุ้นการทำงานของหัวใจ เหมาะกับเด็กและผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน

  •    หนังสือเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดภาวะอ้วนในเด็กประถมศึกษา จ.พะเยา  สาระสำคัญ ความเป็นมาและความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินและโรคอ้วน แนวคิดและกระบวนการทำงาน การเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แนวทางการพัฒนางานสู่ความต่อเนื่อง ยั่งยืน และตัวอย่างหลักสูตรการเรียนรู้ 6 หน่วยการสอน นอกจากนี้ทางโครงการฯได้มีการจัดทำสื่อเผยแพร่ในรูปแบบ VDO 3 รายการ ประกอบด้วย 

  • —VDO กระบวนการทำงานสถานศึกษาเพื่อสนับสนุนการปรับพฤติกรรมเพื่อลดภาวะเด็กอ้วนในสถานศึกษา  สาระสำคัญ ประกอบด้วย แนวทางและตัวอย่างการลดภาวะเด็กอ้วนในสถานศึกษา เช่น มีการกำหนดนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม ให้ความรู้กับครอบครัว ชุมชน และเด็กนักเรียน มีการจัดการอาหารกลางวันที่ถูกหลักโภชนาการ การจัดอาหารว่างอ่อนหวาน ส่งเสริมการออกกำลังกาย มีการติดตามตรวจสอบผลการดำเนินงาน เป็นต้น 
  • —VDO กระบวนการครอบครัวเพื่อปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารของลูก เพื่อลดภาวะอ้วน   สาระสำคัญ “ครอบครัวคือจุดเริ่มต้นของการสร้างสุขภาวะ” โดยการค้นหาปัญหาภาวะอ้วนแบบมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง และเมื่อพบเด็กมีปัญหาได้รับการแนะนำแนวทางการปรับพฤติกรรมการบริโภคของเด็กเพื่อลดภาวะอ้วนที่บ้าน โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว     

  • —VDO กระบวนการปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กอ้วนเพื่อลดน้ำหนัก สาระสำคัญ   “เด็กเล็กหัวใจใหญ่ ใช้พลังใจเปลี่ยนแปลงสุขภาพ”การใช้พลังเด็กอ้วนในการจัดการตนเองด้านอาหาร โภชนาการและการออกกำลังกาย เน้นการสร้างแรงบันดาลใจที่จะลดภาวะอ้วน และแนวทางการปรับพฤติกรรมการบริโภคเพื่อลดภาวะอ้วน   

  •    รายงานกิจกรรม Family Coacher กระบวนการปรับพฤติกรรมเพิ่มสูง ลดอ้วน โดยครอบครัวมีส่วนร่วม   สาระสำคัญ ประกอบด้วย 6 กิจกรรม ได้แก่  (1) การสำรวจภาวะโภชนาการของนักเรียน การคืนข้อมูลให้กับหน่วยงานทีเกี่ยวข้องและผู้ปกครอง รวมทั้งการนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกันของทุกเครือข่าย (2) การออกแบบรูปแบบการสร้างเสริมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพแบบมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง (3)การนำสื่อนวัตกรรมในรูปแบบ Healthy Edutainment มาใช้ในการเรียน การสอน การให้คำปรึกษา  (4) การสื่อสารความรู้ผ่านระบบออนไลน์หลากหลายช่องทาง ก่อให้เกิดความเข้าใจและตระหนักต่อการให้ความร่วมมือ(5) การประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองและนักเรียนช่วยสร้างความตระหนักและความเข้าใจด้านอาหาร โภชนาการ และการออกกำลังกายที่ถูกต้อง และ6) การติดตามเยี่ยมบ้านโดยทีมสหวิชาชีพ ทำให้เข้าใจบริบทและวิถีชีวิตของกลุ่มตัวอย่างส่งผลให้ทีมปรับรูปแบบการให้บริการ/ให้คำปรึกษาได้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มตัวอย่างมากขึ้น จึงทำให้เกิดความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จนเกิดการนำรูปแบบ/โมเดลไปปรับใช้และขยายผลในระดับพื้นที่ (เขตสุขภาพที่ 5 จำนวน8 จังหวัด โดยเฉพาะในโรงเรียนที่มีนักเรียนอ้วนมากกว่าร้อยละ 10 และบรรจุไว้ในแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กวัยเรียน ปี 2561) 

3.2.3.3 ชุดความรู้และสื่อสำหรับพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารในโรงเรียน

แนวทางการจัดการอาหารกลางวันนักเรียนที่ดีได้มาตรฐาน  จำนวน 9 รายการ ได้แก่

  • —คู่มือการจัดการอาหารกลางวันนักเรียนตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภิบาลอาหารและอาหารปลอดภัย สำหรับโรงเรียนประถมศึกษา สาระสำคัญ ประกอลด้วย ความรู้พื้นฐานและมาตรฐานด้านการจัดการอาหารและโภชนาการ การพัฒนาระบบสุขาภิบาลอาหาร การจัดการขยะ แมลง น้ำเสีย และการพัฒนาคุณภาพน้ำดื่มสะอาด เทคนิคการพัฒนาพฤติกรรมโภชนาการและสุขนิสัยที่พึงประสงค์ และการเฝ้าระวังการเจริญเติบโตในเด็กวัยเรียน 

  • —ร่างคู่มือมาตรฐานระบบการจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษา 

  • —VDO การจัดบริการอาหารในโรงเรียนตามมาตรฐานโภชนาการ และหลักสุขาภิบาลอาหาร

สาระสำคัญระบบการจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษามีองค์ประกอบ 5 มาตรฐาน ดังนี้ มาตรฐานที่ 1: นโยบายและการบริหารจัดการของสถานศึกษา  มาตรฐานที่ 2 : การจัดการด้านความปลอดภัยอาหาร สุขาภิบาลอาหาร และสิ่งแวดล้อม มาตรฐานที่ 3 : การจัดการอาหารกลางวันให้มีคุณค่าทางโภชนาการ สารอาหารที่เด็กควรได้รับตามวัย มาตรฐานที่ 4: การบูรณาการจัดการเรียนรู้และปัจจัยแวดล้อมเชิงสร้างสรรค์  และมาตรฐานที่ 5: การเฝ้าระวังภาวะโภชนาการ 

  • —คู่มือการบริหารจัดการอาหารในโรงเรียนเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย “ใครคือสลักสัญ” (2 เล่ม) 

สาระสำคัญ กลไกการบริหารจัดการอาหารโรงเรียนจะให้ความสำคัญ 3 สลัก ได้แก่ สลักที่ 1 ผู้บริหารโรงเรียน สลักที่ 2 ผู้ดำเนินการ เช่น ครู แม่ครัว แม่ค้าใน-รอบรั้วโรงเรียน แกนนำนักเรียน  สลักที่ 3 ผู้สนับสนุน เช่น อปท. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เครือข่ายผู้ปกครอง แกนนำชุมชน กลุ่มออมทรัพย์ และสถาบันการศึกษา 

  • —หนังสือรูปแบบการบริหารจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจร  

สาระสำคัญเป็นชุดความรู้ในโครงการพระราชดำริฯ ที่โครงการเด็กไทยแก้มใสน้อมนำมาประยุกต์ใช้สู่การปฏิบัติเพื่อการขยายผลในการพัฒนาทักษะด้านอาหาร โภชนาการ สุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีของนักเรียน/ครอบครัว/ชุมชน ครอบคลุม 8 องค์ประกอบ ได้แก่ เกษตรในโรงเรียน สหกรณ์นักเรียน การจัดบริการอาหารกลางวัน การเฝ้าระวังติดตามภาวะโภชนาการ การพัฒนาสุขนิสัยนักเรียน การพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมการจัดบริการสุขภาพ และการจัดการเรียนรู้ เกษตร อาหารและสุขภาพ 

  • —VDO โครงการเด็กไทยแก้มใส สาระสำคัญ นำเสนอภาพรวมการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบเด็กไทยแก้มใสที่มีการบริหารจัดการครอบคลุม 8 องค์ประกอบดังกล่าว

  • —รายงานฉบับสมบูรณ์บทเรียนการจัดการอาหารโรงเรียนอาหารปลอดภัยในโรงเรียน 

สาระสำคัญ เพื่อให้เด็กได้กินอาหารปลอดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้าง ได้กินอาหารที่หลากหลาย มีโภชนาการครบถ้วน เป็นอาหารที่มีฐานวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือพหุวัฒนธรรม เชื่อมโยงชุมชนกับโรงเรียนและเด็ก เพื่อให้เด็กได้เข้าถึงอาหารปลอดภัยและมีคุณภาพ จะต้องใหความสำคัญกับ 1) แนวคิดหลัก  2) ความรู้สำคัญ  4 เรื่อง  3) ฐานคิดในการทำงานกับโรงเรียน  4) รูปแบบการจัดการอาหารกลางวันโรงเรียน  5) การออกแบบเมนู (หลักการพื้นฐาน)  6) การจัดการเกี่ยวกับอาหารกลางวันเด็ก 7)  ตัวอย่าง เมนูอาหารกลางวัน ที่องค์กรชุมชนคิดและทำให้เด็กนักเรียนมีกับข้าว 56 รายการ ขนมหวาน 29 รายการ

  • —หนังสือ 18 ประสบการณ์จัดการอาหารกลางวันโรงเรียน ขุมพลังขับเคลื่อนสุขภาวะ โภชนาการนักเรียนสงขลา   

สรุปสาระสำคัญได้ 9 ประเด็น ต่อไปนี้ (1)  เน้นการออกเมนูอาหารตาม โปรแกรม Thai School Lunch ล่วงหน้า 1 เดือน พิจารณาตามผลผลิตที่มีในท้องถิ่น ฤดูกาลอาหาร และผลผลิตที่โรงเรียนสามารถผลิตเองได้ (2) เน้นคุณค่าทางโภชนาการ กินอาหารครบ 5 หมู่ กินหลากหลาย (3)  อาหารกลางวันที่มีองค์ประกอบครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมด้วยการปรุงที่ถูกสุขลักษณะ ไม่เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อ และการได้รับพลังงานหรือโซเดียมสูงเกินความจำเป็น (4) โรงเรียนออกแบบการมีส่วนร่วมของเด็กช่วยเป็นแรงงานในกระบวนการจัดการได้ (5) แม่ครัวเป็นผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียน เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเป็นกรรมการสถานศึกษา  (6) ค้นหาสำหรับอาหารที่คิดว่าน่าสนใจและเด็กน่าจะชอบมาก แล้วปรับให้เข้ากับวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น (7) การรับซื้อผลผลิตจากผู้ปกครองและเกษตรกรในชุมชน เกิดการกระจายรายได้ เพิ่มโอกาสให้ชุมชน  (8) ใช้ฐานวัฒนธรรมชุมชน มาช่วยระดมทุนสร้างระบบอาหารเช้าให้นักเรียน  (9) การเพิ่มศักยภาพ เพิ่มพื้นที่การผลิตอาหารในโรงเรียน และหลากหลายมากขึ้น

เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการคุณภาพอาหารในโรงเรียน จำนวน 3 รายการ ได้แก่

  • —โปรแกรมสำเร็จรูปการจัดอหารกลางวันนักเรียน Thai School Lunch (ความรู้คาบเกี่ยวช่วงวัยเด็กเล็ก อายุ 0-5 ปี) 

  • —โปรแกรมสำเร็จรูป/เครื่องมือจัดซื้อจัดจ้างด้วยคอมพิวเตอร์โครงการอาหารกลางวันโรงเรียน       
  • —คู่มือการใช้เครื่องมือจัดซื้อจัดจ้างด้วยคอมพิวเตอร์โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน พัฒนาโดยโรงเรียน ในเครือข่ายเด็กไทยแก้มใส มูลนิธิสร้างเสริมวิถีบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ (มอส.) ภายใต้การสนับสนุนของ สสส.  สาระสำคัญ แนะนำวิธีการใช้เครื่องมือจัดซื้อจัดจ้างด้วยคอมพิวเตอร์โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน

มาตรฐานการจัดบริการ/จำหน่ายอาหาร ขนม นม เครื่องดื่ม และอาหารว่างในโรงเรียน   จำนวน  5 รายการ ประกอบด้วย   

  • —คู่มือปฏิบัติการตามมาตรฐานอาหาร ขนม นม และเครื่องดื่มในโรงเรียนประถมศึกษา (ฉบับทดลองใช้) 

  • —คู่มือการจำแนกอาหาร ขนม นม และเครื่องดื่มตามมาตรฐานโภชนาการ (ฉบับทดลองใช้ครั้งที่ 2)  สาระสำคัญ แบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 หัวข้อย่อย: (1) แนวทางการจำแนกอาหารกลางวัน (อาหารคาว)  ตามมาตรฐานโภชนาการ (2) แนวทางการจำแนกขนมและอาหารว่างตามมาตรฐานโภชนาการ (3) แนวทางการจำแนกขนมขบเคี้ยว ขนมถุง นม และเครื่องดื่มตามมาตรฐานโภชนาการ 

  • —หนังสือเมนูอ่อนหวาน  สาระสำคัญ นำเสนอตัวอย่างเมนูอาหารจานเดียวและแกงตามแนวคิด “หวานน้อย รสชาติอร่อย สะอาด มีคุณค่าทางโภชนาการ มีความคิดสร้างสรรค์” 

  • —คู่มือช่วยเด็กไทยให้กินขนมดี (ความรู้คาบเกี่ยวกับช่วงวัยเด็กเล็ก อายุ 0-5 ปี) 

  • —VDO ปรับอาหารว่างในโรงเรียน สาระสำคัญ เทคนิคการปรับอาหารว่างในโรงเรียน ลดหวานมันเค็ม ประโยชน์ของอาหารว่าง ของว่างที่ควรหลีกเลี่ยงและของว่างที่ควรเลือกรับประทาน และตัวอย่างของอาหารว่างประเภทขนมซอง ขนมไทย ผักและผลไม้  

            

3.2.3.4 ชุดความรู้และสื่อสำหรับการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านอาหารและโภชนาการ

ชุดความรู้และสื่อสำหรับการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านอาหารและโภชนาการจำนวน 5 หลักสูตร   8 รายการ ประกอบด้วย

  • —หลักสูตร “เจริญรอยตามพระยุคลบาทพัฒนาโรงเรียนต้นแบบเด็กไทยแก้มใส” 

สาระสำคัญ นำเสนอ ภาพรวมและหลักการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบเด็กไทยแก้มใสและรายละเอียดการจัดฐานการเรียนรู้ครอบคลุม 8 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การเกษตรในโรงเรียน สหกรณ์นักเรียน การจัดบริการอาหารของโรงเรียน การติดตามภาวะโภชนาการ การพัฒนาสุขนิสัยของนักเรียน การพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนให้ถูกสุขลักษณะ การจัดบริการสุขภาพในโรงเรียน การจัดการเรียนรู้เกษตร โภชนาการ และสุขภาพอนามัย

  • —หลักสูตร/คู่มือแม่ครัวอนามัยหัวใจรักเด็ก  (3 เล่ม) 

  • —คู่มือหลักสูตรการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพครู ผู้ดูแลเด็ก “สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการ” (ความรู้คาบเกี่ยวกับช่วงวัยเด็กเล็ก อายุ 0-5 ปี) 

  • —หลักสูตรสาธิตรูปแบบการจัดกิจกรรม Family Coacher การสื่อสารเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโภชนาการของนักเรียนและผู้ปกครอง 

สาระสำคัญ เน้นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ระยะเวลา 1 วัน แบ่งเป็นภาคทฤษฎีครึ่งวันและภาคปฏิบัติครึ่งวัน เรียนรู้เป็นฐาน ได้แก่ ภาคเช้าเรียนรู้ กิจกรรม Love Milk Day จัดตารางชีวิตพิชิตอ้วน เพิ่มสูง เพิ่มไอคิว เรียนรู้สุขภาพตนเองด้วย Kid Diary Application ฉลาดซื้อฉลาดกิน ด้วย Food Choice App. เรียนรู้ผลกระทบจากการกินอาหารหวานมันเค็ม กินเป็นเพิ่มสูงลดอ้วนด้วยธงโภชนาการ กิจกรรมทางกาย “เก้าอี้ขยี้พุง” ภาคบ่ายกิจกรรมฐานกุ๊กน้อยละเลงครัว แม่ครัวอนามัยหัวใจรักเด็ก และฐานการสื่อสารเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโภชนาการ

  • —VDO กิจกรรมค่ายพัฒนาศักยภาพครู โรงเรียนเด็กกินผัก (2 รายการ)  

สาระสำคัญ  เป็นค่ายที่ทำให้คุณครูได้คลายความเหนื่อยล้าจากภาระหน้าที่ กลับมาดูแลตัวเองเติมพลังกาย พลังใจ ให้ตัวเองและเพื่อนๆ เปิดโอกาสให้ตัวเอง ได้เรียนรู้ ผ่านกิจกรรมและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน สิ่งที่ได้จากค่ายคือได้เข้าใจถึงกระบวนการที่จะทำให้เกิดการเรียนการสอนแบบ Active Learning จากการทำกิจกรรมต่างๆที่กระบวนกรได้จัดขึ้น และร่วมกันถอดบทเรียนจากกิจกรรมที่ได้ทำไป ในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น คือกำลังใจที่พร้อมจะเดินไปด้วยกัน เพื่อให้เด็กๆกินผักผลไม้เพิ่มมากขึ้น และได้กินผักผลไม้ที่ปลอดภัย

 

3.2.3.5 ชุดความรู้และสื่อสำหรับการสร้างทัศนคติ ความรอบรู้ ทักษะ ด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ ที่ได้โภชนาการเหมาะสมตามวัยในกลุ่มเด็กโตและวัยรุ่น (อายุ 6-24 ปี)

ชุดความรู้และสื่อสำหรับการสร้างทัศนคติ ความรอบรู้ ทักษะ ด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ ที่ได้โภชนาการเหมาะสมตามวัยในกลุ่มเด็กโตและวัยรุ่น (อายุ 6-24 ปี)  จำนวน 100 รายการ ประกอบด้วย

การบูรณาการการเรียนการสอนสู่กลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้งใน-นอกห้องเรียน  62 รายการ ดังนี้

  • —ชุดเรียนรู้กลางเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย  ในรูปแบบสื่อหนังสืออนาล็อก & E-book  จำนวน 48 รายการ จัดกล่องแบบ Package ใน 1 Package  มี 24 รายการ 

สาระสำคัญ ประกอบด้วยชุดความรู้ 4 เรื่องที่ยังเป็นปัญหาโภชนาการของนักเรียนและจำเป็นต้องเร่งแก้ไขด่วนเพื่อให้นักเรียนมีความรอบรู้และทักษะในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและมีโภชนาการสมวัย ได้แก่ ธงโภชนาการ  ผักและผลไม้ ลดหวานมันเค็ม และโรคอ้วน ทั้ง 4 เรื่องจะมีเนื้อหาครอบคลุม 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ (สุขศึกษา พละศึกษา สังคมศึกษา การงานอาชีพ  วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์  ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1–6 ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ของกระทรวงศึกษาธิการ  แนวทางจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วย ผังมโนทัศน์ แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย แนวทางการเรียนรู้เพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย ใบความรู้ ใบงาน แบบประเมินพฤติกรรม แบบทดสอบก่อน – หลังการเรียนรู้   

  • —การจัดการเรียนรู้แบบ Healthy Edutainment 

สาระสำคัญ  เป็นการแปลงความรู้เรื่อง ธงโภชนาการ ผักผลไม้ อาหารลดหวานมันเค็ม และโรคอ้วนสู่การปฏิบัติ โดยนำเทคนิคแสง สี เสียงที่หลากหลายเร้าใจ เข้ามาสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ ตื่นตา ตื่นใจ ดึงดูดความสนใจ ในรูปแบบสื่อวิดีโอ โดย 1 ชุดความรู้ ประกอบด้วย 8 เรื่อง แบ่งเป็น 6 เพลง และ 2 คลิปสั้น ได้แก่ เพลงฟักทอง  เพลงร็อคโภชนา เพลงหวานพอดี 4 ช้อนชา เพลงอย่าเค็มเกินดี  เพลงครัวกลาง สร้างเด็กไทยโภชนาการสมวัย เพลงเด็กไทยแก้มใส คลิปอาหารว่างเพิ่มความสูง และคลิปออกกำลังเพิ่มความสูง 

  • —VDO Active Learning Link สู่ห้องเรียน 

สาระสำคัญ นำเสนอการจัดการเรียนรู้ที่ให้เด็กๆมีส่วนร่วมกับกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ ผ่านการเล่นเกมในห้องเรียน ที่ออกแบบให้เด็กๆได้เรียนรู้เรื่องต่างๆเกี่ยวกับผักผลไม้ ทำให้เด็กอยากเรียนรู้มากขึ้นและสนุกสนานไปกับการเรียนรู้ และนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ 

บทเรียนการจัดการเรียนรู้ฯ 11 รายการ ดังนี้

  • —สรุปรายงานกระบวนการเรียนรู้สำหรับเด็กประถมโดยใช้กระบวนการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม 

  • —โครงการออกแบบเนื้อหากระบวนการเรียนรู้ Food Literacy ประเด็นความปลอดภัยทางอาหารสำหรับนักเรียน 

สาระสำคัญ กระบวนการเรียนรู้สำหรับเด็กประถมโดยใช้การทำกิจกรรม 5 ฐานหลักคือ ฐานเช็คดิน ฐานดอกใบกินได้ ฐานฉัดพ่นแล้วไปไหน ฐานสัญญาณไฟบนฉลากขนม ฐานเอ๊ะ

  • —บทความ เรื่อง ถอดบทเรียนกิจกรรม “120 วัน ฮ่วมกั๋น กิ๋นดี อยู่ดี” 

สาระสำคัญ เป็นกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนในรูปแบบ Active Learning & Problem Based Learning พัฒนาทักษะชีวิตด้านเกษตร อาหาร และโภชนาการ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะเด็กวัยเรียน นำร่องในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผลการจัดกิจกรรมสามารถสร้างความตื่นรู้และตระหนักรู้ในเด็ก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบริโภคอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการได้ 

  • —หนังสือเส้นทางเรียนรู้ชวนน้องมาขยับ และกินผักผลไม้  

สาระสำคัญ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผ่านมุมมองของเด็กวัยเรียน ประกอบไปด้วยตัวอย่างกิจกรรมที่น่าสนใจ บทเรียนเล็ก ๆจากโครงการ เส้นทางเรียนรู้ และเรื่องเล่าจากเหล่าแก๊งเด็กแกนนำผู้ทำโครงการจากโรงเรียนต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนสามารถกินผักผลไม้ได้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดและมีกิจกรรมทางกายทุกวันอย่างน้อยวันละ 60 นาที ผ่านกิจกรรมการส่งเสริมความรู้/ทักษะ และ  5)  Poster สรุปบทเรียนการส่งเสริมให้เด็กกินผักผลไม้ครบ                   ตามเกณฑ์ที่กำหนด (1 ชุด 7 รายการ)  สาระสำคัญ   

 (1) การบูรณาการการเรียนการสอน เรื่องผักผลไม้ในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น นิทานทำมือ โครงงานนักเรียน  กิจกรรมวาดภาพระบายสี ออกกำลังกายแม่สูตรคูณ สร้างฐานการเรียนรู้ ตั้งชมรมอาหารพื้นบ้าน ฯลฯ และสอดแทรกการเรียนรู้ไปกับกิจกรรม 

 (2) การทำแปลงเกษตรปลอดสารพิษ ในรูปทรงต่างๆ เช่น ในล้อยาง วัสดุเหลือใช้  สวนผักแนวตั้ง คอนโดถั่วงอก ปลูกผักแบบสวนหย่อม ผักสวนครัวรั้วกินได้

(3) การปรับเมนูอาหารกลางวันนักเรียน เช่น สำรวจความชอบของนักเรียน นักเรียนช่วยคิดเมนู แม่ครัว             อาสา เชฟชวนชิม หั่นผักให้เล็กลง ทำบุพเฟ่ต์ผักผลไม้ ประกวดเมนูอาหารกลางวัน ใช้ Thai School Lunch วางแผนเมนู ใช้ผลผลิตที่เด็กปลูกมาเป็นวัตถุดิบ จัดทำอาหารรายชั้นเรียน และวิเคราะห์สารอาหาร

(4) การปรับสภาพแวดล้อม เช่น จัดเสียงตามสายในเวลาพัก ตลาดนัดสีเขียวในโรงเรียน สหกรณ์สีเขียวนักเรียนมีส่วนร่วมในการบริหาร  ป้ายคำขวัญ รณรงค์ ปรับพื้นที่ให้เด็กได้เล่น ปรับพื้นที่ในห้องเรียนให้เด็กได้ ขยับ สร้างฐานเรียนรู้รอบโรงเรียน ต้นไม้ความรู้สุขภาวะ และห้องครัวความรู้สู่สุขภาวะ

(5) ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เช่น ให้เด็กเดินเปลี่ยนห้องระหว่างชั่วโมง กิจกรรมเขตเวรสี ฯลฯ   

(6) สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน เช่น ชวนผู้ปกครองมาทำแปลงผักในโรงเรียน ตลาดนัดสีเขียวชุมชนจัดกิจกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างครอบครัวตัวอย่าง 

(7) การติดตาม เช่น สถิติการลาป่วย  นักเรียนสายตรวจอาหารปลอดภัย  Passport ติดตามการกินผักผลไม้ (ทั้ง 3 มื้อ) สมุดบันทึกรายบุคคล กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เช็คอาหารเหลือ ชั่งน้ำหนักผักก่อนทำอาหาร สังเกตการซื้ออาหารของนักเรียน และสอบถามพฤติกรรมจากผู้ปกครองและเพื่อน

 

3.2.3.6 ชุดความรู้และสื่อสำหรับการพัฒนาพื้นที่รูปธรรม/แหล่งเรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการ

ชุดความรู้และสื่อสำหรับการพัฒนาพื้นที่รูปธรรม/แหล่งเรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการ (18 รายการ : หนังสือ  รายการ VDO  รายการ)  ประกอบด้วย   

แนวทางการพัฒนาพื้นที่รูปธรรม/แหล่งเรียนรู้—

  • คู่มือการประเมินโรงเรียนโภชนาการสมวัย 

สาระสำคัญ นิยามโรงเรียนโภชนาการสมวัยระดับยอดเยี่ยม (แหล่งเรียนรู้) ขั้นตอนการประเมิน คำชี้แจงการใช้คู่มือ มาตรฐานและประเด็นการพิจารณาครอบคลุม 5 องค์ประกอบ ได้แก่ การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ การพัฒนาคุณภาพอาหารโรงเรียน การจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาพฤติกรรมโภชนาการ การเฝ้าระวังและติดตามภาวะโภชนาการ และการบริหารจัดการสู่โรงเรียนแหล่งเรียนรู้

  • —คู่มือแนวทางการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมโหนดโรงเรียนสุขภาวะ 

สาระสำคัญ แบ่งเนื้อหาเป็น 4 ส่วน ดังนี้ (1) วัตถุประสงค์ในการจัดทำคู่มือ  (2) แนวทางการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมโหนดโรงเรียนสุขภาวะ และกระบวนการสร้างพลเมืองอาหารในโรงเรียนสุขภาวะ (3) การขับเคลื่อนโรงเรียนชุมชนอาหารด้วยความรอบรู้ทางอาหาร  และ (4) ตัวแบบโหนดโรงเรียนสุขภาวะ   

  • —คู่มือแนวทางการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะระดับประถมศึกษา และ Poster โรงเรียนสุขภาวะระดับมัธยมศึกษา 

สาระสำคัญ เป็นคู่มือที่มาจากการสังเคราะห์กระบวนการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ ประกอบด้วย(1) แนวคิดพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ (2) รูปแบบการพัฒนา (3) หลักการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ (4) หลักการปรุงอาหารและบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ (5) การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และ (6) การเฝ้าระวังการเจริญเติบโตของนักเรียน

  • —หนังสือโรงเรียนผักสร้างสุข ถอดบทเรียนศูนย์เรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กกินผัก 

สาระสำคัญ เป็นรายงานผลการศึกษา ‘แนวทางการจัดการปัจจัยสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้เกิดจิตตลักษณะที่มีผลต่อการสร้างพฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้ที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเด็กระดับอนุบาลถึงประถมศึกษา เพื่อเป็นตัวอย่าง แนวคิด และวิธีปฏิบัติที่ดีของโรงเรียนที่มุ่งบริหารจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อให้เด็กนักเรียนมีสุขภาวะที่ดีจากพฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้ที่เพียงพอ (2) บทเรียนเพื่อการเติบโต แนวทางการจัดการปัจจัยสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้เกิดจิตตลักษณะที่มีผลต่อการสร้างพฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้ที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายของเด็กนักเรียน และ  (3) แนะนำศูนย์เรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กกินผัก 10 แห่ง และมี Poster  ให้ความรู้ 7 เรื่อง ประกอบด้วย ชุมชนโรงเรียนเด็กกินผัก  มาปลูกผักกวางตุ้ง  ถั่วงอกตัวขาว บะหมี่ผักหรรษา  ไข่ตุ๋นห้าดาว  ไข่ตุ๋นสหายผัก และ ลด หวาน มัน เค็ม 

  • —คู่มือแนวทางการพัฒนาโรงเรียนเด็กไทยแก้มใสเพื่อขยายผลสู่โรงเรียนเครือข่าย 

สาระสำคัญ นำเสนอเนื้อหาความรู้ในการพัฒนาโรงเรียนเครือข่ายเด็กไทยแก้มใส ครอบคลุม 8 องค์ประกอบ ได้แก่ การเกษตรในโรงเรียน สหกรณ์นักเรียน การจัดบริการอาหารนักเรียน การเฝ้าระวังและติดตามภาวะโภชนาการและสมรรถภาพทางกายของนักเรียน การพัฒนาสุขนิสัยและการส่งเสริมสุขภาพนักเรียน การพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน การจัดบริการสุขภาพนักเรียน การจัดการเรียนรู้เกษตร โภชนาการ และสุขภาพอนามัย มีเนื้อหาการดำเนินกิจกรรมที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้   

  • —หนังสือถอดบทเรียนแหล่งเรียนรู้เด็กไทยแก้มใสวิถีชีวิตสุขภาวะในโรงเรียน และชุมชน  

สาระสำคัญ (1) ความเป็นมาของโครงการฯ  (2)  องค์ประกอบของศูนย์เรียนรู้เด็กไทยแก้มใส  เน้นการพัฒนาเด็กนักเรียนให้เป็นคนที่สมบูรณ์ มีสุขภาพดีทั้งทางร่างกาย อารมณ์ จิต และปัญญา ผ่านการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติจนเกิดทักษะ ใน 8 องค์ประกอบที่มีความเชื่อมโยงกันและกัน คือ เกษตร สหกรณ์ อาหาร การเฝ้าระวังภาวะทุพโภชนาการและลดอ้วน การพัฒนาสุขนิสัยนักเรียน การอนามัย สิ่งแวดล้อมในโรงเรียน การจัดบริการสุขภาพนักเรียน และการเรียนรู้แบบบูรณาการ ในลักษณะ active learning 4 H (Head, Heart, Hand, Health) (3) การขยายผลสู่ 50 ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนอาหารและโภชนาการเด็กไทยแก้มใสสู่ความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายยกระดับการดำเนินงาน (Scaling up) ขึ้นเป็นนโยบายระดับจังหวัด หรืออำเภอ หรือท้องถิ่น และเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ สู่ความยั่งยืน  และสนับสนุนให้มีการขยายเครือข่าย (Scaling out) โรงเรียนเด็กไทยแก้มใสมากขึ้นกว่า 420 โรงเรียน ใน 27 จังหวัด โดยกำหนดให้มีการทำงานแบบเครือข่าย เชื่อมโยง โรงเรียน - บ้าน และชุมชน ที่จะส่งผลที่ดีต่อการศึกษาและคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนในระยะยาว

  • —หนังสือโครงการตามรอยพระยุคลบาทพัฒนาอาหาร โภชนาการ และสุขภาพในโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส

สาระสำคัญ (1) ความเป็นมาของโครงการ (2) ผลการประมวลองค์ความรู้ และ (3) ข้อเสนอเพื่อการขยายผลสู่ ความยั่งยืนทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ   

  • —หนังสือประมวลองค์ความรู้การจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจร ตามรอย พระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 

สาระสำคัญ นำเสนอวิธีการประมวลองค์ความรู้และผลการประมวลองค์ความรู้จากการดำเนินงาน   ของโรงเรียนในโครงการเด็กไทยแก้มใสในด้านการเข้าร่วมโครงการเด็กไทยแก้มใส การขับเคลื่อนการดำเนินงานและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในด้านต่างๆ ของโรงเรียน 

  • —หนังสือการประมวลองค์ความรู้จากประสบการณ์การดำเนินงานตามรอยพระยุคลบาทเพื่อพัฒนาด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพเด็ก ในโรงเรียนตามโครงการพระราชดำริฯ เพื่อนำไปสู่การขยายผล อย่างกว้างขวางและยั่งยืน 

สาระสำคัญ ประมวลข้อมูลและกรณีศึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ปัจจัยความสำเร็จและอุปสรรคของการพัฒนาด้านอาหาร โภชนาการและสุขภาพของเด็กในโรงเรียน พร้อมเทคนิค เกร็ดความรู้ และนวัตกรรมที่โรงเรียนได้คิดค้นพัฒนา ตลอดจนภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อช่วยในการเรีนรู้และพัฒนาของนักเรียน

  • —หนังสือเรื่องเล่าเชิงประสบการณ์เพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย 

สาระสำคัญ เป็นการรวบรวมผลงานเด่น สื่อ นวัตกรรม และเรื่องเล่าด้านการจัดการอาหาร โภชนาการ และกิจกรรมทางกายของโรงเรียน

ตัวอย่างพื้นที่รูปธรรม/พื้นที่ต้นแบบ

  • —พื้นที่ต้นแบบโรงเรียนเด็กกินผัก 

สาระสำคัญ ปัจจัยความสำเร็จของโรงเรียนเด็กกินผัก สรุปได้ 6 ประเด็น ดังนี้ (1) การส่งเสริมให้เกิดเกษตรอินทรีย์เพื่ออาหารกลางวัน การส่งเสริมให้เด็กรู้จักกินผักและการสอนให้เด็กรู้จักเลือกกินผักอย่างปลอดภัย (2) การสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายชุมชนโรงเรียนเด็กกินผัก (3) การมีกิจกรรมร่วมกันของเครือข่ายโรงเรียนเด็กกินผัก (4) การสร้างแรงบันดาลใจ (5) ความรักและความร่วมมือ” และ (6) ค่ายพัฒนาศักยภาพครู นำเสนอในรูปแบบ VDO 7 รายการ ดังนี้

  • —VDO งานเปิดรั้วโรงเรียนเด็กกินผัก 

สาระสำคัญ นำเสนอความเป็นมา วัตถุประสงค์ของโครงการและตัวอย่างโรงเรียนต้นแบบ 

  • —VDO โรงเรียนบ้านดงเกตุ โรงเรียนต้นแบบโครงการโรงเรียนเด็กกินผัก ปี 2561 

สาระสำคัญ เป็นหนึ่งในเครือข่ายของสามพรานโมเดลที่ทำโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เพื่ออาหารกลางวันในโรงเรียน ควบคู่กับการส่งเสริมให้เด็กรู้จักกินผัก และเลือกกินอย่างปลอดภัย 

  • —VDO เครือข่ายชุมชนโรงเรียนเด็กกินผัก 

สาระสำคัญ นำเสนอจุดเน้นของโครงการโรงเรียนเด็กกินผักที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ให้เด็กๆกินผักมากขึ้นเท่านั้นแต่ยังสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายชุมชนโรงเรียนเด็กกินผักด้วย โดยเชื่อว่าการทำงานเป็นเครือข่ายจะช่วยเสริมพลัง ในการขับเคลื่อนโครงการให้เป็นโครงการที่แข็งแรงและยั่งยืน  

  • —VDO ชุมชนโรงเรียนเด็กกินผัก ปี 2561 

สาระสำคัญ เผยแพร่กิจกรรมชุมชนโรงเรียนเด็กกินผัก วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561ณ หอศิลปกรุงเทพ ฯ 

  • —VDO การศึกษาเริ่มต้น เมื่อฉัน “กิน อยู่” 

สาระสำคัญ เป็นตัวอย่างความสำเร็จของโรงเรียนรุ่งอรุณ หนึ่งในโรงเรียนต้นแบบโครงการโรงเรียนเด็กกินผัก ที่สร้างแรงบันดาลใจทำให้เห็นว่าการจัดหาวัตถุดิบที่ปลอดภัยสำหรับมื้ออาหารกลางวันในโรงเรียนและการเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกที่สนับสนุนให้เด็กๆรู้จักเลือกทานอาหารที่ปลอดภัย พลังความเปลี่ยนแปลงและการเกิดขึ้นของเรื่องดีๆมักมีจุดเริ่มต้นจากความรักและความปรารถนาดีต่อกันเสมอ 

  • —VDO โครงการโรงเรียนเด็กกินผัก: ด้วยรักและความร่วมมือ 

สาระสำคัญ จะดีกว่ามั๊ย ? ถ้าเราทำให้ทุกๆมื้อของเด็กๆ ได้กินอาหารที่ดี และปลอดภัย โรงเรียนไตรพัฒน์ เป็นอีกหนึ่งโรงเรียน ที่ทำให้มีความเป็นไปได้ดังกล่าว การได้กินอาหารที่ดีในทุกๆมื้อเกิดขึ้นได้ไม่ต้องมีเงินมากมายเป็นตัวตั้ง แต่หัวใจสำคัญ คือการสอดประสานกันทั้งความคิดและการปฏิบัติที่บ้าน โรงเรียน ครู /ผู้ปกครอง   

  • —VDO งานชุมชนโรงเรียนเด็กกินผัก Organic to School Community 2020 

สาระสำคัญ เป็นกิจกรรมค่ายพัฒนาศักยภาพครู เปิดโอกาสให้ครู ได้เรียนรู้ ผ่านกิจกรรมและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สิ่งที่ได้จากค่ายคือความเข้าใจกระบวนการ Active Learning จากการทำกิจกรรมต่างๆที่กระบวนกรได้จัดขึ้น และร่วมกันถอดบทเรียน ความสัมพันธ์ดีๆที่เกิดขึ้นทำให้พร้อมจะเดินไปด้วยกันเพื่อเด็กๆได้กินผักผลไม้ที่ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น      

ชุดความรู้และสื่อสำหรับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ      (6 รายการ) ดังนี้

  • —คู่มือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สร้างสรรค์ความมั่นคงทางอาหาร โภชนาการ เพื่อเด็กวัยเรียนและครอบครัว จ.เชียงใหม่ 

สาระสำคัญ นำเสนอกรอบแนวคิด องค์ความรู้ กระบวนการ ขั้นตอนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์สร้างสรรค์  ความมั่นคงทางอาหารโภชนาการ และตัวอย่างกรณีศึกษาการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ ของจังหวัดเชียงใหม่

  • —VDO เคลื่อนนโยบายระดับโรงเรียน “ผลักดันให้ผักนำ” ในรูปแบบ VDO 5 รายการ ดังนี้ (1) VDO ผลักดันให้ผักนำ (2) ผลักดันให้ผักนำโรงเรียนวัดช่องลมวรรณาราม (สุนทรประชานุกูล) (3) VDO ผลักดันให้ผักนำโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี (4) VDO ผลักดันให้ผักนำ โรงเรียนวะดทองศาลางาม และ (5) VDO ผลักดันให้ผักนำโรงเรียนทรงวิทยาเทพารักษ์ 

สาระสำคัญ การสร้างระบบการจัดการอาหารที่ดีและปลอดภัยในโรงเรียน โดยใช้ผักเป็นตัวขับเคลื่อนโรงเรียนเด็กกินผักสู่การปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมจากครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน

   

3.2.3.7 ชุดความรู้และสื่อด้านงานวิจัยด้านอาหารและโภชนาการ

ชุดความรู้และสื่อด้านงานวิจัยด้านอาหารและโภชนาการ  7 รายการ ได้แก่งานวิจัยด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะฯ (ความมั่นคงทางอาหาร) 2 รายการ

  • —งานวิจัยรูปแบบการจัดกลไกการขับเคลื่อนระบบอาหารชุมชนในสถานศึกษาโดยใช้สถาบันการศึกษาเป็นแกนสำคัญในการวางรากฐานพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ 

สาระสำคัญ  ผลการศึกษาพบว่ากลไกสำคัญมี 2 ส่วน คือ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ และการสร้างสาระการเรียนรู้ เกี่ยวกับระบบอาหาร เป็น “ระบบเกษตร อาหารและโภชนศาสตร์ศึกษา (system of agriculture, food and nutritional education, SAFNE)” ข้อเสนอเชิงนโยบายที่สำคัญ คือ การสร้างพื้นที่การเรียนรู้ระบบอาหารชุมชนทั้งที่เป็นพื้นที่จริงและพื้นที่บนแพลตฟอร์มของเครือข่ายการเรียนรู้และให้เกิดแรงจูงใจในการปฏิบัติด้วยการสอดแทรกกิจกรรมการเรียนรู้ให้อยู่ในงานมหกรรมต่าง ๆ การประกวด งานประเพณีท้องถิ่น ด้วยรูปแบบ เนื้อหา ที่หลากหลาย เข้าถึงง่ายและเข้าใจง่าย

  • —งานวิจัยเรื่อง การพัฒนาระบบการจัดหาผักผลไม้และข้าวอินทรีย์จากชุมชนสู่อาหารของเด็กนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาด้วยกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์  

สาระสำคัญ จากการศึกษาทำให้ได้ตัวแบบเชิงกระบวนในการการพัฒนาระบบการจัดการอาหารปลอดภัยในโรงเรียนและชุมชน ประกอบด้วย  (1)  การสร้างข้อตกลงนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมและกลไกการทำงานระดับอำเภอและระดับตำบล  (2) ใช้เมนูกลางที่เหมือนกันทุกโรงเรียนทำให้สามารถคำนวณวัตถุดิบที่จะใช้ในการประกอบอาหาร และเพื่อเป็นข้อมูลส่งให้เกษตรกรผู้ผลิตเกษตรกรวางแผนการผลิต (3) ควบคุมคุณภาพด้วยระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม (PGS) และ (4) ระบบจัดการกระจายอาหารสู่ครัวโรงเรียน/ชุมชน

งานวิจัยด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ (โภชนาการ)จำนวน 5 เรื่อง   

  • —โครงการศึกษาผลของกระบวนการขับเคลื่อนและรูปแบบการใช้นโยบายสาธารณะต่อการจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนประถมศึกษาของประเทศไทย  

สาระสำคัญ ผลการวิจัยสรุปได้ว่า กระบวนการนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม ทำให้เกิดการพัฒนาโรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการจัดการอาหารและโภชนาการ ซึ่งส่งผลให้นักเรียนมีภาวะโภชนาการที่ดีขึ้น รูปแบบการดำเนินนโยบายสาธารณะสู่ระดับชาติขับเคลื่อนโครงการอาหารกลางวัน มีขั้นตอนสำคัญคือ การพัฒนาประเด็นสาธารณะ การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย และการผลักดันข้อเสนอสู่การปฏิบัติ โดยเน้นการสร้างนโยบายระดับท้องถิ่นขยายสู่นโยบายระดับชาติ เน้นการค้นหาปัญหาและแนวทางแก้ไข (Problem and solution) และการสร้างแบบอย่างที่ดีเพื่อขยายสู่นโยบาย (Best Practice towards Policy) เป็นหลักขับเคลื่อนนโยบายโดยการจัดเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติประยุกต์ (National Health Assembly-NHA Apply) ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในประเด็นเพิ่มงบประมาณอาหารกลางวันนักเรียนตามภาวะเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการ จากวันละ 13 บาทต่อคน เพิ่มเป็นวันละ 20 บาทต่อคน เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ซึ่งใช้งบประมาณทั้งสิ้น  24,775,999,200 บาทส่งผลให้นักเรียนทั่วประเทศ จำนวน  5,800,469 คนได้รับประโยชน์

  • —โครงการพัฒนาคลิปวิดีโอชุด Healthy Edutainment :  สื่อสร้างสรรค์ทางเลือกเพื่อการเรียนรู้ บนระบบออนไลน์   

สาระสำคัญ ผลการพัฒนาได้คลิปวิดีโอเพลง 7 คลิปมีเนื้อหาส่งเสริมการบริโภคอาหารสุขภาวะลดหวาน   มัน เค็ม เพิ่มการกินผักผลไม้ และการจัดอาหารกลางวัน-อาหารว่างตามมาตรฐานโภชนาการ การออกกำลังลดอ้วนเพิ่มสูง ซึ่งคลิปที่เด็กนักเรียนชอบมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ คลิปเพลงฟักทอง อย่าเค็มเกินดี และอาหารว่างเพิ่มความสูง เสียงสะท้อนจากนักเรียนและผู้ปกครองคือเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ดี ทันสมัย ชมแล้วอยากทำตาม นำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้จริง ควรมีหลักสูตรเปิดสอนให้คุณครูได้มีความรู้นำไปผลิตสื่อใช้เองได้

  • —รายงานการวิจัย เรื่องผลของโปรแกรมการส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ต่อความรู้ พฤติกรรมและปริมาณการบริโภคผักผลไม้และภาวะโภชนาการของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลายโรงเรียนสังกัดสำนักการศึกษาพื้นฐานกรุงเทพมหานคร  

สาระสำคัญ ผลการศึกษาพบว่าโปรแกรมการส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ช่วยให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการรับประทานผักผลไม้มากขึ้น ดังนั้นโรงเรียนควรจัดโปรแกรมการบริโภคผักผลไม้แก่นักเรียนอย่างต่อเนื่อง  เพื่อให้นักเรียนเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการบริโภคผักผลไม้

  • —รายงานการวิจัยเรื่องพัฒนาการของเด็กวัยเรียนจากโครงการเด็กไทยแก้มใส 

สาระสำคัญ ผลการวิจัยพบว่านักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีสัดส่วนของการทำกิจกรรมเชิงบวก การรับประทานผักและผลไม้มากกว่ากลุ่มตัวอย่างในโรงเรียนเปรียบเทียบ รวมทั้งมีทักษะทางอารมณ์และสังคมที่ดีกว่า และมีความพึงพอใจในชีวิตมากกว่ากลุ่มตัวอย่างในโรงเรียนเปรียบเทียบอีกด้วย

  • —รายงานการถอดบทเรียน เรื่องกระบวนการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ 

สาระสำคัญ ผลการถอดบทเรียน สรุปได้ว่า โรงเรียนอาหารสุขภาวะ มี 7 องค์ประกอบ ดังนี้ (1)  การร่วมมือกันระหว่างโรงเรียน บ้าน และชุมชนในการจัดหาวัตถุดิบอาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยให้ได้อย่างหลากหลายและเพียงพอ  (2) ความร่วมมือกันระหว่างโรงเรียน บ้าน และชุมชนในการปลูกฝัง โดยการฝึกทักษะเด็กในด้านการปลูก เลี้ยง แปรรูป และบริโภคอาหารท้องถิ่น ได้อย่างหลากหลาย (3) การออกแบบหลักสูตรการศึกษาที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ระบบการจัดการอาหารของโรงเรียน (4)  ความใส่ใจในการจัดเตรียมอาหาร วิธีการประกอบอาหาร การปรุงอาหารด้วยเครื่องปรุงต่างๆ  (5) การจัดสรรงบประมาณกับการจัดเตรียมอาหารให้เพียงพอทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ (6)  การส่งเสริม-สนับสนุนของ องค์กร/หน่วยงานที่มีแนวคิดความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียน /การเสริมสร้างสุขภาวะเด็ก และ (7) การเผยแพร่ บอกต่อแนวคิด ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจและความตระหนักเกี่ยวกับการสร้างความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียน บ้านและชุมชน

  • —ฐานข้อมูลด้านอาหารและโภชนาการสำหรับเด็กวัยเรียน 

สาระสำคัญ ประกอบด้วย 2 ฐานข้อมูล ในรูปแบบ Dashboard นำเสนอข้อมูลใน 2 Platforms คือ      (1)  Kid Diary เป็นฐานข้อมูลแสดงผลการประเมินภาวะโภชนาการนักเรียน และ (2) Thai School Lunch เป็นฐานข้อมูลที่แสดงคุณภาพอาหารกลางวันของโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ใช้โปรแกรม Thai School Lunch ในการจัดบริการอาหารกลางวันนักเรียนครอบคลุมทุกสังกัด   

 

3.3 สาระสำคัญ องค์ความรู้อาหารเพื่อสุขภาวะ: กลุ่มผู้ใหญ่ (อายุ 25-59 ปี)

 

3.3.1 ชุดความรู้และสื่อด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ชุดความรู้และสื่อด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  2 รายการ ได้แก่

  • —หนังสือปราชญ์ชุมชนเกษตรอินทรีย์ภาคปฏิบัติ โครงการพัฒนาผลผลิตการเกษตร ปลอดภัย เชื่อมโยงสู่ผู้บริโภค 

สาระสำคัญ เป็นการสรุปความรู้ของปราชญ์ในชุมชนในการปลูกหน่อไม้ เมล่อน การทำนา ปลูกมัลเบอรี่ และการทำปุ๋ย

  • —คู่มือฝึกอบรมหลักสูตรการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์อย่างมีส่วนร่วม “We Organic PGS”

สาระสำคัญ เป็นการเรียนรู้และฝึกทักษะกระบวนการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์อย่างมีส่วนร่วมในชื่อระบบการรับรองอย่างมีส่วนร่วม Participatory Guarantee System (PGS) เพื่อสร้างความมั่นใจในผลผลิตเกษตรอินทรีย์ จึงเกิดเป็นกระบวนการตรวจสอบย้อนหลังถึงที่มาที่ไป และเกณฑ์มาตรฐานการผลิตอินทรีย์ของชุมชน สะท้อนความร่วมมือกันในชุมชนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค

 

3.3.2 สื่อ ชุดความรู้ด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ

สื่อ ชุดความรู้ด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ 1 รายการ คือ 

  • —วิดีทัศน์การจัดการเรียนรู้สำหรับกลุ่มวัยทำงาน โครงการส่งเสริมการจัดการอาหารปลอดภัย และเกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขภาวะของผู้ผลิตและผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ  

สาระสำคัญ เนื้อหาการเรียนรู้ ฝึกทักษะสำหรับกลุ่มวัยทำงาน ในการจัดการอาหารปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์  เพื่อสุขภาวะ ประกอบด้วย 8 หมวดวิชา ได้แก่ หมวด 1 กระบวนทัศน์และวิถีเกษตรอินทรีย์ หมวด 2 การผลิตและการเพิ่มมูลค่า เช่น การวางแผน การจัดการดินและปุ๋ย  หมวด 3 มาตรฐานความปลอดภัยของผลผลิตทางการเกษตร หมวด 4 การตลาดและการกระจายสินค้า  หมวด 5 การจัดการกลุ่มและเครือข่าย หมวด 6 การสื่อสาร ประชาสัมพันธ์และเชื่อมโยงสู่ผู้บริโภค หมวด 7 อาหารและโภชนาการ และหมวด 8 วิชาเสริม เช่น สมุนไพรกับสุขภาพ การศึกษากลุ่มตัวอย่าง เช่น เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงสู่สุขภาพองค์รวมวิถีพุทธ จ.สุราษฎร์ธานี

 

3.3.3 ชุดความรู้และสื่อด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ

ชุดความรู้และสื่อด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ สำหรับใช้ในส่งเสริมการบริโภคอาหารที่ได้โภชนาการเหมาะตามกลุ่มวัย สำหรับกลุ่มผู้ใหญ่  42 รายการ ดังนี้

  • —คู่มือ Healthy Meeting ประชุมได้ผล คนได้สุขภาพ

สาระสำคัญ เป็นคู่มือที่แนะนำหลักการเลือกอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาด ปลอดภัย หวานน้อย พร้อมตัวอย่างเมนูเครื่องดื่มและอาหารว่างสุขภาพ รวมทั้งแนะนำกิจกรรมการยืดเหยียดร่างกาย ผ่อนคลายความเครียดในการประชุม/การฝึกอบรมที่ต้องใช้เวลานาน ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง สร้างความกระชับกระเฉงให้กับ ผู้เข้าประชุมและผู้จัดการประชุม มีประโยชน์ต่อการสร้างเสริมสุขภาพ ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง (NCDs)

  • —แผ่นพับ “ทำไมเราต้องกินผักผลไม้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม” 

สาระสำคัญ  ให้ความรู้เรื่องประโนชน์ของการกินผักผลไม้  การจำแนกผักผลไม้ปลอดภัย และตัวอย่างแสดงน้ำหนักของผักผลไม้แต่ละชนิด เพื่อเป็นความรู้ในการนำไปใช้ในการเลือกบริโภคผักผลไม้ให้ได้ 400 กรัม/วัน โดยผู้สนใจสามารถเรียนรู้ร่วมไปกับการฟังเทปเสียง (podcast)  เรื่อง ชีวิตดีด้วยผักผลไม้  เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในการบริโภคผักผลไม้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม รวมถึงการเลือกบริโภคผักผลไม้อย่างปลอดภัย และฟังเรื่องเล่าสร้างแรงบันดาลใจ เช่น เรื่องเล่าจากหมอเบาหวาน และกินผักวันนี้ดีกว่านอนเป็นผักในวันหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากกินผักผลไม้น้อย

  • —หนังสือกินผักสร้างสุข 

สาระสำคัญ ให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของผักผลไม้ การบริโภคผักผลไม้ตามฤดูกาลเพื่อความปลอดภัย เมนูผักผลไม้ และแนะนำวิธีการล้างผักผลไม้เก่อนกิน รวมถึงการถ่ายทอดความสำเร็จของบุคคลต้นแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้ปลอดภัยอย่างน้อยวันละ 400 กรัม และความร่วมมือในการส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ในสำนักงานต้นแบบ

  • —เกมแนะนำปริมาณผักผลไม้ 100 กรัม และ 400 กรัม เรียนรู้ด้วยตนเองผ่านเกมออนไลน์ 2 เกมคือ เกมชั่งผักรักเลย 

สาระสำคัญ : แนะนำวิธีการเล่น โดยให้เลือกผักที่ต้องการกินไม่เกิน 10 ชนิด เกมส์จะประมวลว่าครบ 400 กรัมหรือไม่ และ เกม your super food test  สาระสำคัญ : เป็นการเรียนรู้พฤติกรรมการกินผักของตนเอง และมีการประเมินระดับการกินผัก นอกจากนี้สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่านคลิปวิดิโอ แนะนำปริมาณผักและผลไม้ 100 กรัม ภายใต้สโลแกน “ดีแน่ แค่กินผัก : ผัก 100 กรัมจำให้แม่น”  

  • —ตัวอย่างเมนูอาหารเพิ่มผักผลไม้ เพิ่มคุณค่าสุขภาพ  สื่อ ชุดความรู้ประเภท หนังสือ ได้แก่         

 (ก) หนังสือ“รังสรรค์เมนูฟิวชั่นผักผลไม้ 100 กรัม” เป็นเมนูที่ได้จากการประกวด สาระสำคัญ : ระบุส่วนประกอบสำหรับ 1 ที่ และวิธีปรุงประกอบอาหาร รวม 30 เมนู จำแนกเป็นเมนูอาหารว่าง 10 เมนู เมนูอาหารหลัก 10 เมนู และเมนูเครื่องดื่ม 10 เมนู 

 (ข) คลิปวิดีโอเมนูเพิ่มผัก เพิ่มคุณค่า จำนวน 6 เมนู

 สาระสำคัญ ประกอบด้วย เมนูหน่อไม้ผักพื้นบ้าน เมนูตื่นรู้สู้  COVID เมนูผัดกระเพรา เมนูไก่มะนาว ดิปปิ้งมันม่วง  เมนูหยกลุยหิมะ  และเมนูแกงเขียวหวานแซลมอนมะเขือพวง 

 

3.3.4 ชุดความรู้และสื่อด้านงานวิจัยในกลุ่มผู้ใหญ่ (อายุ 25-59 ปี)

ชุดความรู้และสื่อด้านงานวิจัยในกลุ่มผู้ใหญ่ (อายุ 25-59 ปี)  จำนวน 5 เรื่อง รวม 18 รายการ ต่อไปนี้

3.3.4.1 งานวิจัยด้านส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ

งานวิจัยด้านส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ จำนวน  4 เรื่อง ประกอบด้วย

  • —รายงานโครงการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้ อาหารเสี่ยงต่อสุขภาพและภาวะโภชนาการ ในพื้นที่โครงการภายใต้แผนอาหารเพื่อสุขภาวะ 

สาระสำคัญ: เป็นการศึกษาแบบไปข้างหน้า เพื่อทราบถึงสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงของภาวะโภชนาการและพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีปริมาณไขมัน น้ำตาล โซเดียม และพลังงานสูง รวมถึงผักผลไม้ ของประชากรที่ศึกษาในช่วงเวลา 6 เดือน และพัฒนาเครื่องมือและระบบข้อมูลในการสํารวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารและภาวะโภชนาการ ได้แก่ แบบสอบถามที่เป็นกระดาษและแบบสอบถามบนเว็บไซต์

  • —รายงานโครงการศึกษาสถานการณ์การบริโภคผักและผลไม้ของคนไทย(ระดับประเทศ)                            

สาระสำคัญ: ประกอบด้วย (1) ความรู้และความตระหนักรู้เกี่ยวกับการกินผักและผลไม้  (2) ปริมาณการกินผักและผลไม้เฉลี่ยต่อวันและสัดส่วนการกินผักและผลไม้เพียงพอ (3) วิธีการได้มาของผักและผลไม้ (4) การรับรู้การรณรงค์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการกินผักและผลไม้ (5) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเศรษฐสังคมและปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่มีต่อการกินผักและผลไม้เพียงพอ (6) ความมั่นคงทางอาหาร และ (7) ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 

  • —รายงานโครงการศึกษาผลของการติดป้ายปริมาณแคลอรี่ต่อการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดื่มที่มีปริมาณแคลอรี่ต่ำในร้านกาแฟในหน่วยบริการสุขภาพเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 

สาระสำคัญ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจเพื่อศึกษาพฤติกรรมการเลือกเครื่องดื่มก่อนและหลังการติดป้ายแสดงปริมาณแคลอรี่ ระหว่างบุคลากรสาธารณสุขและลูกค้าทั่วไป ผลการศึกษาพบว่าหลังการติดป้ายลูกค้ามีแนวโน้มเลือกเครื่องดื่มแคลอรี่ต่ำเพิ่มขึ้น

  • —โครงการวิเคราะห์พลวัตระบบของผลกระทบมาตรการภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลต่อการบริโภคน้ำตาลและสุขภาพช่องปากของประชากรไทยวัยเด็ก 

สาระสำคัญ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประมาณการเปลี่ยนแปลงความชุกของโรคฟันผุของประชากรวัยเด็กเมื่อมีนโยบายภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เป้าหมาย ได้แก่ ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงความชุกของโรคฟันผุของประชากรวัยเด็กเมื่อมีนโยบายภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลโดยใช้การวิเคราะห์แบบจำลองพลวัตระบบ

3.3.4.2 งานวิจัยด้านการพัฒนาศักยภาพท้องถิ่นในการปฏิบัติงานโภชนาการชุมชน

งานวิจัยด้านการพัฒนาศักยภาพท้องถิ่นในการปฏิบัติงานโภชนาการชุมชน   จำนวน 1 เรื่อง  14 รายการ  คือ 

  • —รายงาน โครงการรูปแบบการพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นและผู้ปฏิบัติงานด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการในชุมชน   ประกอบด้วย 9  ชุดความรู้ ที่ชี้ให้เห็นถึงขั้นตอน กระบวนการวิจัย และเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยระดับพื้นที่

สาระสำคัญ :ประกอบด้วย (1)  การทบทวนวรรณกรรมความพร้อมและทักษะในการจัดการอาหารและโภชนาการของผู้ปฏิบัติงานส่งเสริมโภชนาการชุมชนในประเทศและต่างประเทศ (2) สร้างแบบประเมินแบบสอบถามเพื่อการสำรวจภาคสนามเชิงปริมาณเพื่อศึกษาสถานการณ์และระดับความพร้อมของทักษะและองค์ความรู้ของผู้ปฏิบัติงานด้านอาหารและโภชนาการชุมชน (3)  การพัฒนาเครื่องมือโครงสร้างคำถามเพื่อศึกษาศักยภาพและความพร้อมของท้องถิ่นในการบริหารจัดการอาหารและโภชนาการในชุมชนของกลุ่มเป้าหมายในระดับตำบล   และ (4) การจัดทำคู่มือ  6 ชุด ประกอบด้วย 

(ก) คู่มือแนวทาง และ Template การเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลและการสรุปสำหรับคณะทำงานในการลงพื้นที่ตำบลเป้าหมาย  (ข) คู่มือ และ Template การสร้างเครือข่ายที่มีศักยภาพในการดำเนินการจัดการอาหารและโภชนาการเพื่อส่งเสริมโภชนาการของชุมชน (ค)  คู่มือ และ Template แนวทางการพัฒนาศักยภาพและความพร้อมของท้องถิ่นในการบริหารจัดการอาหารและโภชนาการในชุมชนในพื้นที่ (ง)  คู่มือ และ Template แนวทางการดำเนินงานและแนวทางพัฒนาชุดความรู้การพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นเพื่อใช้เป็นคู่มือการดำเนินงานพัฒนาศักยภาพท้องถิ่นในการ ดำเนินงานพัฒนาศักยภาพท้องถิ่นในการบริหารจัดการอาหารและโภชนาการ เพื่อผลักดันไปยังหน่วยงานช่วยขยายผล  (จ) คู่มือ และ Template การประเมินความรู้ของแกนนำอาสาด้านโภชนาการและแบบประเมินภาวะโภชนาการและพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กเล็กและเด็กปฐมวัยในพื้นที่ตำบลเป้าหมาย  และ (ฉ) คู่มือ และ Template แนวทางการจัดสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีพฤติกรรมการบริโภคที่พึงประสงค์ในพื้นที่ตำบลเป้าหมาย ผลการวิจัยได้นำเสนอบทสรุปบันไดสู่ความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพท้องถิ่น และการขับเคลื่อนเครือข่ายด้านอาหารและโภชนาการชุมชน

 

3.3.5 ช่องทางการสื่อสารความรู้

ช่องทางการสื่อสารความรู้  พบ 1 ช่องทางคือ Facebook โครงการกินผักผลไม้ดี 400 กรัม สาระสำคัญ: ใช้เป็นช่องทางการให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของผักผลไม้ ปริมาณผัก ความปลอดภัยในการเลือกรับประทาน แหล่งขายผักอินทรีย์ และข่าวอื่นๆ ในแวดวงเกษตรอินทรีย์ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการฯ และกิจกรรมรณรงค์ออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงได้ในวงกว้าง

 

3.4 สาระสำคัญ องค์ความรู้อาหารเพื่อสุขภาวะ : กลุ่มผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)

 

3.4.1 สื่อ ชุดความรู้ด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ

สื่อ ชุดความรู้ด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ 1 รายการ คือ 

  • วิดีทัศน์การจัดการเรียนรู้สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ โครงการส่งเสริมการจัดการอาหารปลอดภัย และเกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขภาวะของผู้ผลิตและผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ  

สาระสำคัญ เนื้อหาการเรียนรู้ ฝึกทักษะสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ในการจัดการอาหารปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์เพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่อาหารตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ประกอบด้วย 8 หมวดวิชา เกษตรอินทรีย์  หมวด 2 การผลิตและการเพิ่มมูลค่า เช่น การวางแผน การจัดการดินและปุ๋ย  หมวด 3 การผลิตจุลินทรีย์และการใช้สารเร่ง หมวด 4 การตลาดและการกระจายสินค้า หมวด 5 การจัดการกลุ่มและเครือข่าย หมวด 6 การสื่อสาร ประชาสัมพันธ์และเชื่อมโยงสู่ผู้บริโภค หมวด 7 อาหารและโภชนาการ และหมวด 8 วิชาเสริม เช่น การจัดการพลังงานระดับเครือเรือน สมุนไพรกับสุขภาพ 

 

3.4.2 ชุดความรู้และสื่อด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ

ชุดความรู้และสื่อด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ : การบริโภคอาหารที่ได้โภชนาการเหมาะสมตามวัยสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ สื่อประเภท Infographic (1 ชุดความรู้ ประกอบด้วย 10 รายการ) ดังนี้

  • —ผู้สูงอายุอยากมีชีวิตดี โภชนาการดี ต้องมีอะไรบ้าง 

สาระสำคัญ ประกอบด้วย  ปัจจัยทางด้านจิตใจ ร่างกายและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อภาวะโภชนาการและคุณภาพชีวิตของสูงอายุ และแนวทางในการส่งเสริมสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ รวมทั้งการได้รับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ จำแนกได้ 2 กลุ่ม คือ (1) สารอาหารหลัก ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ใยอาหาร และน้ำ (2) สารอาหารรอง ได้แก่ ธาตุเหล็ก แคลเซียม สังกะสี วิตามินดี วิตามินบี 12 และโซเดียม  โดย ปริมาณพลังงานที่ผู้สูงอายุควรได้รับใน 1 วัน อยู่ระหว่าง  20-25 กิโลแคลอรีต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และ 30 กิโลแคลอรีหากออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพออาจจะพิจารณาเสริมอาหารทางการแพทย์ได้ โดยขอรับคำปรึกษาจากนักโภชนาการ/นักกำหนดอาหาร ทั้งนี้ผู้ดูแลผู้สูงอายุควร เอาใจใส่จานทำอาหารเพื่อผู้สูงวัย โดยมีแนวปฏิบัติใน 2 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 เลือกและเตรียมวัตถุดิบ เน้นสารอาหาร ขั้นที่ 2 การประกอบอาหาร  ควรคำนึงถึงการปรับรสชาติ และแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อย่อยๆเล็กๆเลือกอาหารให้หลากหลาย รวมถึงการควบคุมวัตถุดิบ การประกอบอาหารเองทำให้คัดเลือกวัตถุดิบได้และช่วยส่งเสริมบรรยากาศในการกินด้วย  และ เมื่อผู้สูงอายุกินข้าวนอกบ้าน ควรเลือกอาหารให้เหมาะสมกับสุขภาพ โดยใช้หลักการเลือกอาหารตามสูตรจานอาหาร 2:1:1 พลิกแพลงให้เหมาะสมกับประเภทของร้านอาหารต่างๆ เช่น ร้านข้าวแกง  ร้านอาหารตามสั่ง  ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ และร้านสะดวกซื้อ นอกจากนี้เพื่อการมีสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุควร  ส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ 400 กรัม/วัน โดยแนะนำให้บริโภคผลไม้/พืชผักสมุนไพรสลับกับพืชผักอื่นๆบ้าง เช่น ผักชีลาว ฟักทอง ผักติ้วขาว สับปะรด และฟักแม้ว เพื่อเพิ่มรสชาติอาหาร/คุณค่าโภชนาการและสรรพคุณทางยา  

3.4.3 ชุดความรู้และสื่อด้านปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ

ชุดความรู้และสื่อด้านปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการ 4 ด้าน (1 ชุดความรู้ ประกอบด้วย Infographic 4 รายการ)  ได้แก่ 

—การเคี้ยว จากปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น โรคเหงือก โรคฟัน ทำให้ผู้สูงอายุเคี้ยวอาหารลำบาก ส่งผลให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ  โดยมี 4 แนวทางแก้ไข (ก) ดูแลสุขภาพฟันให้ดีก่อนจะมีปัญหา (ช) พบทันตแพทย์เป็นประจำ (ค) ใส่ฟันปลอมเพื่อช่วยในการเคี้ยว และ (ง) ปรับลักษณะอาหารให้เหมาะสม   

—ท้องผูก จากหลายสาเหตุ เช่น กินใยอาหารไม่เพียงพอ ดื่มน้ำไม่เพียงพอ แนวทางแก้ไข (ก) ดื่มน้ำ ให้เพียงพอวันละ 6-8 แก้ว   (ข) ค่อยๆเพิ่มการกินผักผลไม้ให้มากขึ้น (ค) ค่อยๆเพิ่มกิจกรรมทางกาย  และ (ง) ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยา 

—การลดน้ำหนัก มีปัญหาอะไร หากผู้สูงอายุจะลดน้ำหนัก  : ผลดี-ผลเสียของการลดน้ำหนักในผู้สูงอายุและแนวทางการลดน้ำหนักในผู้สูงอายุ มีดังนี้  ควรลดน้ำหนัก ในกรณีที่ (ก) น้ำหนักตัวมากอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคอื่นๆ  (ข) การลดน้ำหนักช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้ (ค) เพิ่มความสามารถในการใช้ชีวิตด้วยตนเองลดภาวะพึ่งพิง  และ ไม่ควรลดน้ำหนัก ในกรณี  (ก) ผู้สูงอายุมักมีน้ำหนักที่ลดลงตามธรรมชาติ  (ข) ยิ่งเร่งการลดน้ำหนักกล้ามเนื้อยิ่งสลายเร็วขึ้น และ (ค) ผู้สูงอายุที่มีกล้ามเนื้อน้อย น้ำหนักน้อย เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าแนวทางแก้ไข (ก) ปรึกษาแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ก่อนลดน้ำหนัก  (ข) ไม่จำกัดพลังงานมากจนเกินไป (ค) ถ้าจะลดเน้นลดไขมันในช่องท้อง และ (ง) ถ้าจะลดไม่ควรเกิน  5-10% ของน้ำหนักตั้งต้น และ 4)  จะดูแลอย่างไร เมื่อผู้สูงวัยกล้ามเนื้อลดลง ซึ่งเป็นภาวะเสี่ยงต่อการหกล้ม และพิการ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยในผู้สูงอายุและแนวทางในการดูแล เพื่อป้องกัน/ชะลอภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย มี 2 แนวทางสำคัญคือ (ก) แนวทางด้านโภชนาการ : กินอาหารที่ให้พลังงานและโปรตีนเพียงพอ และ (ข) แนวทางด้านการออกกำลังกาย : ออกกำลังกายแบบไร้แรงต้าน อย่างน้อย 2 ครั้ง/สัปดาห์

3.4.4 ชุดความรู้และสื่อสำหรับการส่งเสริมโภชนาการในผู้สูงอายุ

ชุดความรู้และสื่อสำหรับการส่งเสริมโภชนาการในผู้สูงอายุ (ชุดความรู้ ประเภท Infographic 1 ชุด มี 3 รายการ) สรุปได้ ดังนี้ 

  • —การดูแลอาหารสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีโรคประจำตัว (โรค NCDs) และแนวทางการควบคุมอาหารเฉพาะโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคไต สาระสำคัญ การดูแลอาหารสำหรับผู้สูงอายุไม่ควรเข้มงวดเกินไป ควรคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อม สภาวะของโรค และความจำเป็นในการควบคุมอาหารร่วมด้วย 

  • —แนวทางการส่งเสริมโภชนาการในผู้สูงวัย ที่ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วยสาระสำคัญ 5 ข้อ ได้แก่ (ก) การให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง  (ข) การเสริมพลัง/เสริมแรงจูงใจ (ค) สร้างความยั่งยืน (ง) เข้าถึงได้ง่าย และ (จ) มีการนำเทคโนโลยีมาใช้  ซึ่ง เทคโนโลยีกับการส่งเสริมโภชนาการผู้สูงอายุ มีตัวอย่างงานวิจัยต่างประเทศที่ประสบผลสำเร็จ ระบุว่าปัจจัยสู่ความสำเร็จในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ประกอบด้วย แรงสนับสนุนทางสังคม คำแนะนำเฉพาะบุคคล การสื่อสารแบบสองทาง และการเข้าถึงประชากรจำนวนมาก
3.5 สาระสำคัญ องค์ความรู้อาหารเพื่อสุขภาวะ: ประชาชนทั่วไป/ทุกกลุ่มวัย

 

3.5.1 ชุดความรู้และสื่อด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ชุดความรู้และสื่อด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  440 รายการ

3.5.1.1 สื่อ ชุดความรู้ด้านวนเกษตรยางพารา

สื่อ ชุดความรู้ด้านวนเกษตรยางพารา จำนวน 3 ชุด ได้แก่

  • —หนังสือวนเกษตรยางพารา 

สาระสำคัญ นำเสนอคุณค่าและประโยชน์ของการทำวนเกษตรยางพาราที่มีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหา 6 ด้าน ประกอบด้วย  1) ช่วยแก้ปัญหาความยากจน 2) ช่วยให้ประชาชนที่มีที่ดินน้อยหรือแปลงขนาดเล็กสามารถผลิตอาหารที่หลากหลายชนิด แล้วนำมาใช้บริโภคภายในครัวเรือนได้เป็นการลดความเสี่ยงและช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น  3) ช่วยแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมของที่ดินทำกิน 4) ช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากวนเกษตรมุ่งเน้นความสำคัญในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และแบ่งเบาภัยพิบัติ 5) ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนไม้ใช้สอยที่มีผลมาจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยว  และ (6) ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนไม้เชื้อเพลิง  โดยมีรูปแบบโครงสร้างวนเกษตรยางพารา 3 แบบ ได้แก่ 

1) รูปแบบสวนวนเกษตรแบบดั้งเดิมซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยใช้พืชที่ทนต่อสภาพอากาศและภูมิประเทศได้ดี ทำได้ง่าย ใช้เวลาน้อย ใช้เงินทุนน้อย 

2) รูปแบบสวนวนเกษตรประยุกต์ วนเกษตรที่ปรับปรุงโครงสร้างและคุณภาพผลผลิตให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดตามสถานการณ์ปัจจุบัน ข้อดีคือทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดี สามารถเก็บเกี่ยวได้ง่าย เพิ่มรายได้จากการจำหน่าย 

3) รูปแบบสวนวนเกษตรสมัยใหม่ที่นำเทคนิคและวิธีการที่ทันสมัยเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการสวนวนเกษตร อาจจะใช้ระบบปลูกพืชสลับแถว สลับแถบ หรือคละกันก็ได้ การแนะนำแนวทางการสร้างสวนวนเกษตรยางพารา เช่น การนำพืชต่างชนิดมาปลูกสลับแถวกับยางพารา การปลูกพืชยืนต้นซึ่งอาจเป็นพืชเกษตร เช่น มะพร้าว  เงาะ ทุเรียน หรือพืชป่า เช่น สะเดา ยางนา ตะเคียน พยูง มาปลูกโดยรอบสวนยางเพื่อเป็นแนวป้องกันลมพายุ

  • —หนังสือแนวทางสร้างความหลากหลายในสวนยางพารา 

สาระสำคัญ นำเสนอหลักปฏิบัติ  8 ประการ ได้แก่  (1) ลดการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศย่อยในพื้นที่สวนยางพารา  (2) เลือกชนิดความหลากหลายให้เหมาะสมตามสภาพนิเวศ (3) ปลูกพืชยังชีพท้องถิ่นเป็นหลักและกินทุกอย่างที่ปลูก โดยช่วงแรกเมื่อยางอายุต่ำกว่า 3 ปี อาจปลูกพืชแซม เช่น ข้าวโพด  ข้าวฟ่าง พริก เผือก มันแกว มะเขือ ขิง ข่า ตะไคร้ ฯลฯ  (4) การปลูกพืชทนร่ม ในสวนยางพาราอายุมากหรือเปิดกรีดแล้ว (5) สวนยางที่อายุน้อย ปล่อยให้พืชอื่นเข้ามาขึ้นร่วมเองตามพาหะธรรมชาติ เช่น สะเดา ตำเสา กระพ้อ หว้า ฯลฯ แล้วคอยเลือกตัดสางชนิดที่มีประโยชน์น้อยออกไปใช้ก่อน (6) ต้องรู้จัก   ชนิดประโยชน์และนิสัยของพืช ถ้าเป็นชนิดที่ชอบแสงมาก ต้องปลูกตามช่องว่างที่เหมาะสม  (7) ในสวนยางที่เปิดกรีดแล้วต้องตัด ต้นยางพาราที่แคระแกรนออกทิ้งบ้าง และ (8) วางแผนกิจกรรมดำเนินการกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่สวนยาง

  • —รายงานฉบับสมบูรณ์ “การประเมินมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์และการเงินของระบบเกษตรสวนยางพารา ที่มีความหลากหลาย เพื่อพัฒนาทางเลือกเชิงนโยบายส่งเสริมความหลากหลายระบบเกษตรในภาคใต้” 

สาระสำคัญ เป็นชุดข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์และการเงิน  เน้นการวิเคราะห์ต้นทุน ผลตอบแทนจากการดำเนินงาน ณ ราคาตลาด ระยะเวลาคืนทุนแบบคิดลด มูลค่าปัจจุบันสุทธิ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน อัตราผลตอบแทนภายในโครงการ และสังเคราะห์เชิงคุณภาพให้เห็นถึงคุณค่าทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม ของระบบเกษตรสวนยางที่มีความหลากหลาย โดยมีข้อมูลเชิงเศรษฐกิจจากกลุ่มตัวอย่างสวนยางระบบเกษตรผสมผสานจำนวน 44 แห่งครอบคลุมจังหวัดสงขลา สำหรับเป็นแนวทางในการตัดสินใจปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกของเกษตรกรสวนยางพาราและเป็นข้อมูลในการส่งเสริมการปลูกยางพาราแบบเกษตรผสมผสานหรือวนเกษตรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

3.5.1.2 สื่อ ชุดความรู้ วิถีการผลิตตามแนวทางเกษตรนิเวศและเกษตรกรรมยั่งยืน

สื่อ ชุดความรู้ วิถีการผลิตตามแนวทางเกษตรนิเวศและเกษตรกรรมยั่งยืน บทความ 9 รายการ 

  • —ปลูกผักยืนต้น ดักฝุ่น PM 2.5 

สาระสำคัญ อธิบายกลไกการดักฝุ่นของใบไม้แบบต่าง ๆ และจำแนกชนิดของใบไม้ที่ดักฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลักษณะสำคัญที่ช่วยให้ใบไม้แต่ละชนิดสามารถดักจับฝุ่นได้ดี และแนะนำผักยืนต้นที่สามารถนำส่วนต่าง ๆ มารับประทานหรือปรุงอาหารพร้อมสรรพคุณในการดักฝุ่นอย่างยอดเยี่ยม นอกจากช่วยลดโลกร้อนและดูดซับสารพิษในอากาศ

  • —อนาคตไม้ต้นเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจยั่งยืน 

สาระสำคัญ สื่อสารแนวคิดใหม่ “ปลูกต้นไม้มีค่าผสมด้วยผักยืนต้น” โดยมุ่งเน้นความสำคัญในแง่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย แทนการพึ่งพาพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด เช่น ยาง มันสำปะหลัง อ้อย ฯลฯ โดยมีข้อมูลว่าในอีก 30 ปีข้างหน้าการปลูกไม้มีค่าและผักยืนต้นจะสามารถสร้างมูลค่าให้ประเทศไทยถึง 60 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากจีดีพีประเทศไทยปัจจุบันถึง 4 เท่า —

  • การออกแบบระบบฟาร์ม บ้าน สวน และชุมชน ยั่งยืน  

สาระสำคัญ ทำความรู้จักแนวคิด permaculture ซึ่งเป็นแนวคิดหนึ่งที่นำมาใช้ในระบบเกษตรกรรมยั่งยืน มีหลักการคือเกษตรธรรมชาติ การทำเกษตรในพื้นที่ขนาดต่าง ๆ ตามแต่ออกแบบโดยใช้ระบบต่าง ๆของธรรมชาติคอยดูแลกันเอง ใช้พลังงานภายใน เช่น แสงแดด ลม น้ำ แทนการพึ่งพลังงานภายนอก ภายใต้กระบวนการที่สำคัญ คือ กระบวนการเรียนรู้ เริ่มต้นจากการเรียนรู้บริบทและศักยภาพเชิงพื้นที่ การทำเกษตรรูปแบบนี้มีต้นทุนน้อย แต่ต้องอาศัยความรู้และเทคโนโลยีที่สามารถช่วยจัดการและแก้ไขข้อจำกัดเชิงพื้นที่ได้

  • —Permaculture แนวคิดที่เหมาะสมกับระบบนิเวศ 

สาระสำคัญ  ความสำคัญของเพอร์มาคัลเจอร์ 5 ข้อ ได้แก่ (1) การใช้ประโยชน์ทางชีวภาพเป็นหลัก (2) แต่ละองค์ประกอบต้องมีหลากหลายหน้าที่ (Multifunction) (3) ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพเป็นหลัก (4) เน้นความหลากหลายทางชีวภาพ และ (5) มีการหมุนเวียนทรัพยากรภายในอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยมีแนวทางการออกแบบระบบฟาร์ม บ้าน สวน และชุมชนยั่งยืน ประกอบด้วยการวางเป้าหมายให้ชัด รู้จักตัวเองทั้งจุดเด่น ข้อจำกัด ระบบนิเวศในแปลง สภาพดิน น้ำ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ การเลือกพืชที่เหมาะสมกับระบบนิเวศ การใช้องค์ความรู้ต่าง ๆ ในการปลูก การจัดการพื้นที่ที่มีจำกัด และการใช้วัสดุอย่างคุ้มค่า

  • —การเลี้ยงไก่ไข่สาว(แบบรวมฝูงกึ่งปล่อย) 

สาระสำคัญ เป็นการให้ความรู้เพื่อจัดการการเลี้ยงไก่ไข่สาวแบบรวมฝูงกึ่งปล่อยใน 4 หัวข้อ ได้แก่ (1) การจัดการโรงเรือน  (2) ช่วงอายุไก่   (3) อัตรารอบการออกไข่เฉลี่ยของแม่ไก่ (4) อาหารไก่ สารอาหารที่จำเป็น พืชอาหารสัตว์ที่ทำให้ไก่ได้สารอาหารครบถ้วนและสีสวย หลักการให้อาหารไก่เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สม่ำเสมอ —

  • การดูแลอนุบาลลูกไก่ 

สาระสำคัญ แนะนำวิธีการดูแลอนุบาล ได้แก่ การจัดการเล้าอนุบาลลูกไก่ (กรงอนุบาล)  วัสดุรองพื้น เล้าอนุบาล การให้ความอบอุ่นกรณีไม่ได้ฟักธรรมชาติ การจัดการอุณหภูมิที่เหมาะสมกับลูกไก่ การวางแผนอนุบาลลูกไก่ให้เป็นไปตามหลักสุขาภิบาลและการควบคุมโรคที่ดี ระบบการเลี้ยง การทำความสะอาด การพักเล้าเพื่อตัดวงจรของเชื้อโรคที่สะสมระหว่างการเลี้ยงและหมุนเวียนไก่ชุดต่อไป

  • —เลี้ยงไก่พื้นเมือง กึ่งปล่อยธรรมชาติ 

สาระสำคัญ ข้อมูลสถานการณ์ตลาดไก่พื้นเมืองมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาดไก่เนื้อทั่วไปเพราะเน้นเลี้ยงเพื่อบริโภคในครัวเรือนของกลุ่มชาวบ้านมากกว่าการเลี้ยงในระบบธุรกิจ แนวทางพัฒนาการผลิตไก่พื้นเมืองให้จำหน่ายสม่ำเสมอก็ยังไม่เป็นที่นิยมของเกษตรกร แม้จะมีแนวโน้มส่งเสริมให้ตลาดไก่พื้นเมืองเติบโตมากขึ้น บทความแนะนำให้ศึกษาวิจัยระบบการเลี้ยงในเชิงธุรกิจที่คุ้มกับการลงทุนสร้างมาตรฐานการผลิตอย่างถูกต้องตามหลักสุขลักษณะ นำจุดขายของไก่พื้นเมืองกลับมาใช้ประโยชน์ทางการค้า เช่น รสชาติดี เลี้ยงในระบบเกษตรกรรมยั่งยืนและแบบอารมณ์ดี

  • —อาหารไก่ในแบบสวนชีววิถี 

สาระสำคัญ สูตรอาหารไก่ ประกอบด้วยหยวกกล้วย เนเปียร์ วอเตอร์เครส ไชยา รำละเอียด ขมิ้นชัน ฟ้าทลายโจร บอระเพ็ด ไพล ส่วนผสมต่างๆ อาจปรับเปลี่ยนหมุนเวียนในแต่ละวัน

  • —ผีเสื้อในสวน 

สาระสำคัญ นำเสนอบทบาทของผีเสื้อที่มีต่อสิ่งแวดล้อม หนึ่งในบทบาทที่สำคัญที่สุดคือการช่วยผสมเกสรทำให้ดอกไม้สร้างเมล็ดและแพร่พันธุ์ต่อไป

 

3.5.1.3 สื่อ ชุดความรู้ เกษตรกรรมยั่งยืน: ผักยืนต้น

สื่อ ชุดความรู้ เกษตรกรรมยั่งยืน : ผักยืนต้น  รวม 8 รายการ จำแนกเป็นสื่อ Infographic  6 รายการและ VDO 2 รายการ

  • —ผักยืนต้นค้ำจุนระบบเกษตรกรรมและอาหารให้ยั่งยืน 

สาระสำคัญ คุณค่าของผักยืนต้นที่ปลูกครั้งเดียวกินไปชั่วลูกชั่วหลาน ทนทานต่อโรคแมลง ไม่ง้อสารเคมี ช่วยค้ำจุนระบบเกษตรกรรมและอาหาร แต่พืชพรรณที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศนี้กำลังสูญหายหมดความสำคัญไปอย่างรวดเร็ว

  • —เศษอาหารมีเพียงพอสำหรับเลี้ยงโลก 

สาระสำคัญ สื่อสารกระตุกความคิดเรื่องขยะอาหารจากข้อมูลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติว่าโลกไม่ได้ขาดแคลนอาหาร เนื่องจากอาหารเหลือทิ้งของโลกมีปริมาณรวมกัน 1 ใน 3 ของอาหารที่โลกผลิตได้ เพียงพอสำหรับประชากรของโลก 795 ล้านคนที่ยังขาดแคลนอาหาร ถึง 9 เท่าจึงจำเป็นต้องวิเคราะห์ปัญหาที่แท้จริงว่ามายาคติเรื่องอาหารขาดแคลนและโลกต้องผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะนำไปสู่อะไร เช่น สุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภค ปัญหาวิกฤตสิ่งแวดล้อม   

  • —ระบบอาหารโลกอยู่ในกำมือใคร?  

สาระสำคัญ สะท้อนการผูกขาดและรวมศูนย์ของระบบเกษตรกรรมและอาหารของโลก สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ พันธุ์สัตว์ ปุ๋ยเคมี และอาหารสัตว์ของโลกรวมทั้งประเทศไทยที่อยู่ในมือบริษัทไม่กี่แห่ง การวิเคราะห์การรวมศูนย์ของบริษัทไม่กี่แห่งตลอดสายของห่วงโซ่ ตั้งแต่ปัจจัยการผลิต การผลิต การแปรรูป จนถึงค้าปลีกเพื่อเห็นปัญหาเชิงโครงสร้าง อาจทำให้เราเห็นทางออกข้างหน้าของปัญหาหนี้สินและความยากจนของเกษตรกร ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ อาหารแพงแต่ไม่ปลอดภัย ภาวะทุพโภชนาการทั้งขาดและเกิน และโรคร้ายที่มีสาเหตุมาจากอาหารไม่มากก็น้อย

  • —เกษตรอินทรีย์ก่อปัญหาแกสเรือนกระจกจริงหรือ? 

สาระสำคัญ เป็นงานศึกษาประเด็นการปล่อยแกสเรือนกระจกของเกษตรเชิงเดี่ยวที่ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ การตกค้างของสารพิษในสิ่งแวดล้อมและอาหาร การปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อป้อนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับระบบวนเกษตรกรรม เกษตรผสมผสาน หรือการทำนาอินทรีย์ที่ฟื้นฟูผืนดินและระบบนิเวศ โดยงานศึกษาดังกล่าวต้องนำไปใช้อย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการแปลความหมายผิด เช่น ปลูกไม้โตเร็วอย่างยูคาลิปตัสช่วยลดโลกร้อนมากกว่ารักษาผืนป่า 

  • —อาหารสังเคราะห์ การล่มสลายของกสิกรรม?  

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลการผลิตเนื้อสังเคราะห์ อาหารทางเลือกที่ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของประชากรโลกแต่มีขีดจำกัดในการขยายพื้นที่การผลิต โดยอ้างอิงข้อดีเรื่องต้นทุนการผลิตที่ลดลง การใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการเลี้ยงสัตว์ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 96% ไม่มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ไม่มีความเสี่ยงจากปัญหาเชื้อโรคหรือสารปฎิชีวนะในสัตว์ ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคที่ปฏิเสธการบริโภคสัตว์ กำลังเป็นที่สนใจของบริษัทใหญ่และอุตสาหกรรมอาหารจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบอุตสาหกรรมการปลูกพืชอาหารสัตว์และผู้เลี้ยงสัตว์ทั้งที่เป็นผู้ผลิตขนาดใหญ่ และเกษตรกรรายย่อยหลายล้านคนทั่วโลก ทำให้เกิดคำถามว่าการผลิตอาหารสังเคราะห์เป็นมิตรต่อโลก สิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัยกว่าจริงหรือไม่ จะนำไปสู่ปัญหาใหม่ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร?

  • —เกษตรกรก็มีชีวิต 

สาระสำคัญ สื่อสารผลสำรวจความคิดเห็นของแม่โจ้โพลเรื่องเกษตรกรเกือบ 60% เห็นด้วยกับการแบนสารพิษร้ายแรง 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส  ตอกย้ำว่า "เกษตรกรก็มีชีวิต" เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่คำนึงถึงชีวิตของตนเองและคนอื่นๆ ไม่แตกต่างจากประชาชนกลุ่มอื่น สอดคล้องกับงานศึกษาวิจัยและผลสำรวจอื่น ที่สะท้อนความวิตกกังวลผลกระทบต่อสารพิษของเกษตรกร และการสนับสนุนการแบน 3 สารพิษของประชาชน ทุกสาขาอาชีพ

  • —สื่อวีดีทัศน์เกษตรกรรมยั่งยืน : ระบบอาหารยั่งยืนเพื่อความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพของทุกคน ชุดความรู้รูปแบบสื่อ VDO  2 รายการ : (1) เกษตรกรรมยั่งยืน รากฐานอาหารปลอดภัย และ (2) “ระบบอาหารที่ยั่งยืนเพื่อสุขภาพของทุกคน 

สาระสำคัญ เพื่อสร้างความเข้าใจและสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยให้ตระหนักถึงศักยภาพและร่วมสนับสนุน การทำเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งเป็นรากฐานของอาหารปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร การบริโภคอาหาร ที่ปลอดภัยและส่งผลดีต่อสุขภาพของทุกคน 

 

3.5.1.4 สื่อ ชุดความรู้ เกษตรธรรมชาติ

สื่อ ชุดความรู้ เกษตรธรรมชาติ :  สื่อ Infographic 46 รายการ ประกอบด้วย

  • —คู่มือการปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่แห้งแล้ง สื่อ Infographic 1 ชุด มี 16 รายการ 

สาระสำคัญ นำเสนอประสบการณ์การปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่แห้งแล้งของ “สวนอีสานร่มเย็น” ทุ่งเมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ภูมิปัญญาของ "อาจารย์ประภัทร ปริปุณณะ" ปราชญ์ชาวบ้านและอดีตข้าราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ซึ่งให้ความสำคัญกับ (1)  ฝนไม่ได้ตกมาจากฟ้า แต่มาจากผืนดิน  โดยให้ (2) หลักการ “ฝนไม่ตกจากฟ้า แต่มาจากพื้นดิน” คือน้ำที่มองเห็นได้และมองไม่เห็น เป็นความชื้นทั้งที่อยู่ในดินและอากาศ การปลูกพืชในพื้นที่แห้งแล้งจึงต้องให้ความสำคัญกับการจัดการน้ำในรูปแบบดังกล่าว  โดยอธิบายหลักการสำคัญ 14 ประการในการปลูกผักบนพื้นที่แห้งแล้ง ดังนี้  (1) การปรับปรุงดิน  (2) การบังไพรให้ต้นอ่อน (3) การคลุมโคนต้น  (4) พืชบังร่ม (5) ปลูกระยะชิด  (6) แนวกันลม  (7) การไถพรวนหลังหน้าฝน (8) การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ (9) ปลูกไม้รากลึก (10) รดน้ำช่วงแสงแดดอ่อน (11) การให้น้ำแบบพิเศษ  (12) ใช้ไม้ท่อนนำร่องพืชรากลึก (13) ปลูกพืชทนแล้ง และ (14) ใช้น้ำอย่างประหยัดได้ประโยชน์สูงสุด

  • —ผักยืนต้นค้ำจุนระบบนิเวศ รับมือวิกฤต  สื่อ Infographic 1 ชุด มี 21 รายการ  

สาระสำคัญ บอกเล่าเรื่องราวประโยชน์หลากหลายของผักยืนต้นที่ค้ำจุนระบบเกษตรกรรมและอาหาร เนื่องจากอายุยืนปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวได้ยาว ความทนทานต่อโรคแมลง สภาพดินฟ้าอากาศโดยไม่ต้องใช้สารเคมี เป็นสมุนไพรรักษาโรค มีศักยภาพในด้านเศรษฐกิจท้องถิ่นและตอบโจทย์การวิจัยพัฒนาเพื่อประโยชน์ในอนาคต  โดยมี 3 หัวข้อ ได้แก่  (1) ประโยชน์ของผักยืนต้น  (2) ข้อดีของผักยืนต้น ค้ำจุนระบบนิเวศ รับมือวิกฤต และ (3) แนะนำชนิดของผักยืนต้น พร้อมตัวอย่างเมนูอาหาร 20 รายการ ได้แก่ เนียง มะกอกป่า  คูณ  ฮ้วนหมู เหรียง แค ชะมวง ตะลิงปิง สะเดา สะตอ มะรุม มะดัน มะกรูด เหมียง ขี้เหล็ก ขนุน ยอ น้อยหน่า สมอไทย และกระโดน

  • —รายงานเปิดโลกวัชพืช  

สาระสำคัญ ถอดความรู้และประสบการณ์จากการลงมือปฏิบัติและส่งเสริมวิถีเกษตรกรรมในครัวเรือนของบ้านเจ้าชายผัก ที่เปิดมุมมองใหม่ให้เห็นประโยชน์ของวัชพืชที่มักถูกมองว่าเป็นศัตรูของพืชใน 7 ประเด็น ได้แก่ 1) บทบาทของวัชพืชในผืนดิน 2) การปกปักรักษาและสร้างหน้าดินในการเกษตรเชิงนิเวศ ทั้งเกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติ เกษตรฟื้นฟู และเกษตรชีวพลวัต 3) ประโยชน์ของรากวัชพืชในการปรับปรุงดินร่วมกับสรรพชีวิต ในดิน  4) วิธีปรุงดินด้วยวัชพืช  5) วัชพืชบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์และเยียวยาผืนดิน 6) วัชพืชช่วยร้างความหลากหลายทางชีวภาพและรักษาสมดุลในไร่นา  7) วัชพืช อาหารและยาจากธรรมชาติ

  • —VDO สวนยกร่องกับความหลากหลายทางชีวภาพ  1 ชุด มี 5 ตอน 

สาระสำคัญ นำเสนอความสำคัญ คุณค่า และรูปแบบของสวนยกร่องที่กำลังสูญหายไป เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักถึงการสืบทอดภูมิปัญญา สร้างการรับรู้ ความรู้ ความเข้าใจเรื่องสวนยกร่องให้กว้างขวางมากขึ้น ปรับปรุงสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 5 ตอน ประกอบด้วย (1) ผักยืนต้นในสวนยกร่อง มรดกวัฒนธรรมเกษตร โดย อ. เดชา ศิริภัทร เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการยกร่องในพื้นที่ลุ่มเพื่อการจัดการน้ำในสภาวะต่าง ๆ   (2) ข้อค้นพบ ผักยืนต้นในสวนยกร่องกับความหลากหลายทางชีวภาพ (3) ระบบนิเวศผักยืนต้นในสวนยกร่องเขตเมือง สะท้อนผ่านผลไม้ขึ้นชื่อ ได้แก่ ลิ้นจี่บางขุนเทียน ส้มบางมด ที่ทำในรูปแบบสวนเกษตรผสมผสาน (4) ทบทวนความรู้เรื่องสวนยกร่องในต่างประเทศ และ  (5) ภูมิปัญญาการจัดการสวนในเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ โดย อ.เดชา ศิริภัทร ผู้บุกเบิกเกษตรกรรมยั่งยืนในประเทศไทยได้อธิบายการฟื้นฟูมรดกวัฒนธรรมสวนยกร่อง โดยนำหลักการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาปรับใช้

 

  • —หนังสือเกษตรกรรมธรรมชาติ MOA เพื่อสุขภาวะ 

 สาระสำคัญ ประกอบด้วยชุดความรู้ 3 ส่วนสำคัญได้แก่ (1) วิถีเกษตรธรรมชาติเอ็มโอเอ เป็นการทำความรู้จักกับแนวคิดเกษตรธรรมชาติ MOA ถึงที่มาความแตกต่างกับเกษตรรูปแบบอื่น ๆ และสิ่งที่เกษตรธรรมชาติ MOA ให้ความสำคัญ เช่น ดิน ปุ๋ยหมักวิถีเกษตรธรรมชาติ การจัดการวัชพืชและโรคแมลง เป็นต้น  (2) เส้นทางสู่การรับรองมาตรฐานเกษตรธรรมชาติ MOA ประกอบด้วยหลักการและขั้นตอนสู่การเป็นผู้ประกอบการเกษตรธรรมชาติ ไปจนถึงขั้นตอน กระบวนการรับรองมาตรฐานเกษตรธรรมชาติ MOA และเป้าหมายในอนาคต  และ (3) พลิกแปลงสู่วิถีเกษตรกรรมธรรมชาติ MOA ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับดินและพืช  หลักการพื้นฐานของเกษตรธรรมชาติ MOA  การเพาะปลูกและปรับปรุงดินตลอดจนบริหารจัดการแปลงและการผลิตตามแนวคิดเกษตรธรรมชาติ MOA และกลไกการพัฒนาศักยภาพและติดตามผล  

  • —หลักสูตรอบรมด้านเกษตรธรรมชาติ รายงานโครงการส่งเสริมแหล่งผลิตอาหารสุขภาพวิถีธรรมชาติ เพื่อสุขภาวะครอบครัวและชุมชน จำนวน 2 หลักสูตร ประกอบด้วย 

  • —หลักสูตร นักส่งเสริมเกษตรธรรมชาติ 

สาระสำคัญ หลักสูตรอบรม ระยะเวลา 3 วัน เพื่อพัฒนาเกษตรกร ให้มีความรู้และทักษะการประกอบอาชีพเกษตรกรรมด้วยแนวคิดธรรมชาติผสมผสานกับระบบเกษตรกรรมพื้นบ้านเพื่อการมีรายได้ที่มั่นคง มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี อย่างมีคุณธรรม สำนึกรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคม ประกอบด้วยเนื้อหาทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในหัวข้อ 1) สถานการณ์การทำเกษตรเคมี และผลกระทบต่อเกษตรกร ผู้บริโภค สภาพแวดล้อม ความเจ็บป่วย  2) แนวคิดการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและระบบเกษตรกรรมยั่งยืน  3)วิถีสุขภาพและหลักการเกษตรธรรมชาติ MOA  4) ปรัชญาและหลักการเกษตรธรรมชาติ MOA 5) ดินและการปรับปรุงดินตามแนวทางเกษตรธรรมชาติ MOA 6)วิธีการและเทคนิคการเพาะปลูกตามแนวทางเกษตรธรรมชาติ MOA และ 7) การบริหารจัดการวัชพืช โรคพืช และแมลงศัตรูพืชตามหลักเกษตรธรรมชาติ MOAโดยเน้น ความสมดุลของระบบนิเวศในแปลงเพาะปลูกที่นอกจากจะนำมาสู่สุขภาพคนปลูก สุขภาพคนกินแล้ว ยังนำสู่สุขภาพสิ่งแวดล้อม

  • —หลักสูตรส่งเสริมการแปรรูปผลผลิต 

สาระสำคัญ เป็นคู่มือในการจัดอบรมการแปรรูปผลผลิตเกษตรธรรมชาติในท้องถิ่นด้วยวิธีธรรมชาติให้กับกลุ่มเกษตรกรและครูที่ผ่านการอบรมการผลิตอาหารสุขภาพด้วยวิถีเกษตรธรรมชาติ เพื่อลดการสูญเสีย ยกระดับราคาผลิตผล และทำให้เกิดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพวิถีเกษตรธรรมชาติที่จะเชื่อมโยงสู่ผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงอาหารสุขภาพได้สะดวกขึ้น

 

3.5.1.5 สื่อ ชุดความรู้ เกษตรอินทรีย์/ปลอดภัย

สื่อ ชุดความรู้ เกษตรอินทรีย์/ปลอดภัย  จำนวน 10 รายการ  ได้แก่ 

  • —คู่มือเกษตรบนอาคาร 

สาระสำคัญ ประกอบด้วย (1) ความเป็นมา ความหมาย ความสำคัญ และแนวคิดการทำเกษตรในเมือง (2) กรณีศึกษาเกษตรในเมืองในต่างแดน 3 ตัวอย่าง กรณีศึกษาในประเทศไทย 11 ตัวอย่าง  (3) เทคนิคการทำสวนแนวตั้ง (4) เทคนิคการทำซุ้มทางเดิน และ (5) ประสบการณ์และปัญหาการทำเกษตรในเมือง

  • —Factsheet 2 รายการ :(1) “วาระสวน อิสรภาพทางอาหาร” และ (2) สวนผักชุมชน 

สาระสำคัญ เป็นการถอดบทเรียน ประสบการณ์ และรูปธรรมการทำเกษตรในเมืองของเครือข่ายสวนผักคนเมือง ที่ทำให้ตระหนักถึงปัญหาของคนเมืองด้านอาหาร ที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพ สังคมและสิ่งแวดล้อมของเมืองและบทบาทของเกษตรในเมืองที่ช่วยพัฒนาระบบอาหารและวิถีทางเลือกที่เกื้อกูลธรรมชาติ สร้างสังคมของการอยู่ร่วมกัน จนเกิดหลักการทางความคิดและหลักปฏิบัติสำคัญที่เครือข่ายยังดำเนินการต่อเนื่องมาจนระยะ 10 ปี อาทิ ผลกระทบวิกฤตโควิด – 19 เห็นปัญหา/ ผลกระทบอะไรกับคนเมือง เส้นทางการสร้างพื้นที่อาหารสู่ความมั่นคง ตัวอย่างสวนผักชุมชนที่พลิกผืนดินรกร้างเป็นแหล่งอาหารชุมชน อาทิ สวนผักชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง 327 สวนผักดาดฟ้ากลุ่มคนงานสมานฉันท์ เป็นต้น เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับนโยบายของเมืองที่ให้ความสำคัญกับเกษตรในเมืองในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมือง

  • —VDO สวนผักคนเมือง ลดค่าใช้จ่าย เสริมรายได้ จำนวน 7 รายการ

สาระสำคัญ เป็นการพัฒนาชุดเรียนรู้การทำสวนผักคนเมืองแบบง่าย ๆ ลงทุนต่ำ ลดค่าใช้จ่ายและสร้างรายได้เสริมยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง โดยโครงการสวนผักคนเมือง เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับผลกระทบเรื่องการขาดแคลนอาหารและรายได้ที่ลดลงจากวิกฤตโควิด-19 สามารถทดลองปฏิบัติด้วยตนเองและไปปรับใช้เพื่อพึ่งตนเองด้านอาหาร รวมทั้งสร้างรายได้ในยามวิกฤต โดยเรียนรู้ผ่าน VDO  7 ตอน ประกอยด้วย  (1) เตรียมวัสดุง่ายๆใช้เพาะต้นอ่อน  (2) เพาะต้นอ่อนได้ง่ายมากกว่าที่คิด (3) เพาะเห็ดเป็นอาหาร  (4) ปรุงดินฉบับครูอุษา ปลูกอะไรก็งาม (5) ปักชำพืชหัวอย่างไรไม่ให้เสียของ  (6) ปักชำพืชยืนต้น  ผักสวนครัว และ (7) สอนทำเต้าหู้ 3D

3.5.1.6 ชุดความรู้และสื่อด้านชุมชนอาหารชาติพันธุ์

ชุดความรู้และสื่อด้านชุมชนอาหารชาติพันธุ์           5 รายการ ดังนี้

  • —หนังสือ ภูมิปัญญาในการรักษาพันธุ์พืชอาหาร และการจัดการทรัพยากรป่า 9 ชาติพันธุ์ 

สาระสำคัญ รวบรวมองค์ความรู้ด้านการรักษาพันธุ์พืชอาหารและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ของพี่น้องชาติพันธุ์ 9 ชนเผ่า ภูมิปัญญาในการรักษาพันธุ์พืชของกลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์และการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์  การปลูกซ้ำทุกปีในช่วงฤดูฝน  การประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อเพื่อบูชาเทวดาที่ดูแลรักษาพันธุ์พืช

  • —Infographic ภูมิปัญญาอาหารชาติพันธุ์

สาระสำคัญ สื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาด้านเมล็ดพันธุ์พื้นบ้านชาติพันธุ์ ส่งเสริมการขับเคลื่อนนโยบายอาหารปลอดภัยในพื้นที่ใหม่ การเพาะปลูก

  • —Infographic หลักคำสอนด้านศาสนาคริสต์(ภาษากะเหรี่ยงโปว์)

 สาระสำคัญ องค์ความรู้ด้านมิติความเชื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายอาหารปลอดภัย การเพาะปลูก สร้างความตระหนักเรื่องการบริโภคต่อสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต และสิ่งแวดล้อมชุมชน

  • —Infographic หลักคำสอนด้านศาสนาคริสต์ (ภาษาลาหู่) 

สาระสำคัญ องค์ความรู้ด้านมิติความเชื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายอาหารปลอดภัย  การเพาะปลูก สร้างความตระหนักเรื่องการบริโภคต่อสุขภาพร่างกายสุขภาพจิตและสิ่งแวดล้อมชุมชน

  • —VDO วีดีทัศน์พื้นที่วัฒนธรรมวิถีภูมิปัญญาด้านอาหารชาติพันธุ์

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลการสร้างผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ให้เป็นกลไกการขับเคลื่อนเรื่องอาหารปลอดภัยในชุมชนชาติพันธุ์ และพัฒนาการเข้าถึงแหล่งบริการอาหารปลอดภัยในชุมชนชาติพันธุ์และเพื่อบูรณาการงานอาหารปลอดภัยในชุมชนชาติพันธุ์ร่วมกับเครือข่ายงานคุ้มครองผู้บริโภค

3.5.1.7 ชุดความรู้และสื่อด้านการสร้างพื้นที่อาหารในภาวะวิกฤติ

ชุดความรู้และสื่อด้านการสร้างพื้นที่อาหารในภาวะวิกฤต  14 รายการ ได้แก่

  • —VDO หลักสูตรออนไลน์ ฝึกทักษะการจัดการอาหารในภาวะวิกฤต 8 รายการ/หลักสูตร ได้แก่ 

(1) เพาะต้นอ่อนไมโครกรีน  เพาะเห็ดในบ้าน และการปรุงดินปลูกผัก

(2) การปลูกผัก หมักปุ๋ย 

(3) วิธีปลูกผักบนกำแพง และการเลือกพืชปลูกในภาชนะ 

(4) หลักสูตรออนไลน์ การเพาะกล้า และการเตรียมต้นกล้าผักแบบละเอียด 

(5) แนะนำวิธีการทำแปลงบนพื้นดิน วิธีการปรุงดิน การปลูกลงดิน และการปลูกผักบุ้งให้ได้ทานภายใน 20 วัน 

(6) หลักสูตรออนไลน์ การทำแปลงผักยกพื้น การปลูกผักในภาชนะรูปแบบต่างๆ การทำจุลินทรีย์

สังเคราะห์แสง 

(7) หลักสูตรออนไลน์ การทำซีอิ๊วใบหม่อน นำกากจากการหมักซีอิ๊วไปมำอาหาร และการเตรียมเครื่องปรุงพร้อมใช้ทำหการทำอาหารทางเองที่บ้านง่ายขึ้น

(8) หลักสูตรออนไลน์ การทำน้ำยาเอนกประสงค์ ทำสบู่ซักล้างจากน้ำมันใช้แล้ว

  • —VDO แปลง . ปลูก . ปัน สวนผักคนเมือง City Farm Workshop Live จำนวน 6 รายการ

 (1) City Farm Workshop Live สาระสำคัญ  ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สวนผักคนเมืองได้พัฒนาชุดความรู้เกี่ยวกับแนวทางการสร้างพื้นที่อาหารแบบเร่งด่วนที่ทุกชุมชนในเมืองสามารถสร้างพื้นที่อาหารขนาด 100 ตารางเมตรได้โดยมีเนื้อหาครอบคลุม 5 เรื่อง ได้แก่  (1) การออกแบบพื้นที่  (2) การปรับปรุงดินปลูกให้พร้อมปลูกผัก (3) การเตรียมปัจจัยการผลิต ดินหมัก ปุ๋ยหมัก หมุนเวียนใช้ในแปลงปลูก (4) การเพาะกล้าผักให้แข็งแรง  และ (5) การดูแล รดน้ำ  ให้ผักเติบโต

(2)  VDO รายการโทรทัศน์  คนค้นฅน : แบ่งทุกข์ ปันสุข...ยุคโควิด  สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลการแบ่งปันอาหารต่อให้กับเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน รวมถึงในชุมชนเล็กๆอย่าง “บูรพา7” ที่มีพื้นที่อาหารในชุมชนของตัวเองและได้แบ่งปันผลผลิตให้กับคนในชุมชนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก เพื่อมีชีวิตรอดในช่วงวิกฤตโควิดไปด้วยกัน

 

3.5.1.8 ชุดความรู้และสื่อด้านการจัดการหนี้ชาวนา

ชุดความรู้และสื่อด้านการจัดการหนี้ชาวนา  20 รายการ ประกอบด้วย

  • —คู่มือกระบวนการทำงานขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ของกลุ่มชาวนาที่มีหนี้สิน 

สาระสำคัญ การปรับระบบการผลิตและตลาดสู่วิถีอินทรีย์ของชาวนาที่มีหนี้สิน  การปรับตัวในการผลิตสู่ระบบอินทรีย์ การปรับตัวการผลิตและบริหารจัดการใช้ประโยชน์ที่ดิน การพัฒนาช่องทางการตลาดผลผลิตอินทรีย์ที่หลากหลาย และการปรับตัวในลักษณะของการพึ่งตนเองและเกษตรแบบวิถีชีวิตพอเพียง

  • —หนังสือ ถอดรหัสคดีหนี้ชาวนา 

สาระสำคัญ บทเรียนกระบวนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ชาวนา แนวทางการแก้หนี้ชาวนาเพื่อรักษาที่ดินผืนสุดท้าย

  • —รายงาน การศึกษาพฤติกรรมและสถานการณ์ทางการเงินของครัวเรือนที่มีปัญหาหนี้สิน และแนวทางการปรับตัวของครัวเรือนที่มีปัญหาหนี้สิน  

สาระสำคัญ ศึกษาพฤติกรรมการออม การกู้ยืมเงื่อนไขการจ่ายคืนเงินกู้เป็นไปอย่างสอดคล้องกับลักษณะรายได้ การประเมินสถานะทางการเงินโดยพิจารณายอดหนี้สินคงค้าง และยอดที่จะต้องชำระ เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ ข้อจำกัดหรือเริ่มติดขัดในการจ่ายคืนหนี้

—VDO หนี้สินชาวนา 3 รายการ 

(1) ชาวนากับอาชีพเสริม บทเรียนการปรับตัวเพื่อแก้หนี้ชาวนา 

(2) ของขวัญจากผืนนา ชาวนาผู้มีหนี้ สู่ผู้บริโภค 

(3) เกษตรอินทรีย์ แก้หนี้ชาวนาได้จริงหรือ?

  • —Infographic หนี้สินชาวนา 13 รายการ ประกอบด้วย

(1) ชีวิตชาวนาเช่า ชีวิตเสี่ยง เปราะบาง 

(2) ความไม่เป็นธรรมของสัญญาสินเชื่อ ธ.ก.ส. ข้อควรรู้เกษตรกร ก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ 

(4) 7 ปัจจัยสู่ความสำเร็จ การแก้หนี้และรักษาที่ดินของเกษตรกร

(5) 3 ทางออกชาวนา เมื่อถูกฟ้องคดี และไม่อยาก "สูญเสียที่ดิน" 

(6) ภัยแล้ง โควิดซ้ำเติม โครงการพักชำระหนี้ของรัฐบาล เพียงพอกับวิกฤตชาวนามาก แค่ไหน โควิด-19 ส่งผลอย่างไรต่อเกษตรกร 

(7) เสวนาวิชาการสาธารณะ "ชีวิตหนี้ นิยามใหม่การปรับตัวชาวนายุคโควิด-19"

(8) สินเชื่อแบบไหน? ตอบโจทย์การแก้หนี้ชาวนายุคโควิด-19

  • —หนังสือ พลังสังคมอินทรีย์ แก้หนี้ชาวนา  

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลความรู้ปัญหาหนี้สินของเกษตรกร  การกลับตัวออกจากวงจรหนี้สินของชาวนาไทย และการเชื่อมโยงผู้บริโภคเข้ากับผู้ผลิตในระบบอาหารปลอดภัย 

3.5.1.9 ชุดความรู้และสื่อด้านกระบวนการออกแบบนวัตกรรมสังคมด้านอาหาร

ชุดความรู้และสื่อด้านกระบวนการออกแบบนวัตกรรมสังคมด้านอาหาร  9 รายการ ประกอบด้วย

  • —E-book ชุดบทเรียนความรู้ โมดูลเยาวชนกับอาหาร Young Food กระบวนการออกแบบนวัตกรรมสังคม”

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลอาหาร Young Food กระบวนการออกแบบนวัตกรรมสังคม  Module 1: โครงการในพื้นที่‘โครงการชีวิต’  Module 2 : โครงการเชื่อมโยง (Transversal Projects-TrP)  และ Module 3 : โครงการสื่อสาร (Communication Project-CP)

  • —รายงาน โครงการพัฒนาความเชื่อมโยงอาหารปลอดภัยและโภชนาการสู่คุณภาพชีวิตที่ดี จ.น่าน 

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลผลงานวิจัยรูปแบบการขับเคลื่อนระบบอาหารชุมชน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ภายใต้กรอบโครงการพัฒนาความเชื่อมโยงอาหารปลอดภัยและโภชนาการสู่คุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้ ความร่วมมือของ 3 ภาคีเครือข่ายหลัก ได้แก่  (1) หน่วยงานภาคท้องถิ่น ภาครัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่ (2) ภาคีเครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่และโรงแรม และ (3)  ภาคีเครือข่ายกลุ่มเกษตรกร 

  • —VDO โครงการพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังสารตกค้าง ขับเคลื่อนนโยบายและสื่อสารทางเลือกในการผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อสุขภาวะ จำนวน 7 รายการ  

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลการปลูกพืชผักผลไม้อินทรีย์ ได้แก่ (1) องค์ความรู้อ้อยอินทรีย์  (2) องค์ความรู้สับปะรดอินทรีย์ (3) องค์ความรู้ยางพาราอินทรีย์  (4) องค์ความรู้มันสำปะหลังอินทรีย์  (5) องค์ความรู้มะม่วงอินทรีย์  (6) องค์ความรู้ปาล์มอินทรีย์  และ (7) องค์ความรู้ทุเรียนอินทรีย์

 


 

3.5.2 สื่อ ชุดความรู้ด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ

สื่อ ชุดความรู้ด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ  จำนวน  93 รายการ

3.5.2.1 สื่อ ชุดความรู้ด้านตลาดทางเลือกและแหล่งให้บริการอาหารเพื่อสุขภาวะ

สื่อ ชุดความรู้ด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ จำนวน  93 รายการ  ประกอบด้วย

สื่อชุดความรู้ด้านตลาดทางเลือกและแหล่งให้บริการอาหารเพื่อสุขภาวะ  29 รายการ ดังนี้

  • —Infographic ชุดสถานการณ์การกระจายอาหารและการตลาดที่กระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร 1 ชุด มี 8 รายการ ดังนี้ (1) ค้าปลีกรายย่อยอาการหนัก รายใหญ่ควบรวมกิจการ  (2) ความร่วงโรยในการส่งออกเกษตรกรรมในรอบหนึ่งทศวรรษ (3) คนจนเมือง ความเปราะบางของชีวิตในสถานการณ์โควิดระลอกสาม (4) ตื่นวิกฤติอาหาร สถานการณ์ของประเทศต่างๆทั่วโลก (5) โลกของหมู 19 ชนิด มีเพียง 1 ชนิดที่ไม่ต้านทานอหิวาต์แอฟริกัน (6) เส้นทางสายหมู สายพันธุ์หมูเพื่อการค้าทั่วโลกมีต้นกำเนิดจากหมูป่าเอเชียอาคเนย์  (7) สถานะหมูใกล้สูญพันธุ์และ (8) ประวัติ ศาสตร์ของไก่ เดินทางจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังทั่วโลก 

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูล ความรู้สถานการณ์/การผูกขาดทางการค้า ที่ส่งผลต่อการกระจายและการตลาด และส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงอาหาร ความมั่นคงทางอาหาร ที่มีส่วนร่วมในการสนับสนุนระบบการค้าที่เป็นธรรม ตลาดทางเลือก และนโยบายที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากอาหารที่เรากินมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือส่วนใหญ่ในบางชนิดถูกผลิตหรือควบคุมการค้าโดยบริษัทยักษ์ใหญ่การเกษตรไม่ใช่เกษตรกรรายย่อยหรือชุมชนท้องถิ่นอีกต่อไป มีแนวโน้มว่าการกระจายอาหารในระบบ “โมเดิร์นเทรด” จะทำให้อาหารเข้าไปอยู่ในมือของบริษัทขนาดใหญ่เพียง 2-3 บริษัทเท่านั้น  ระบบตลาดทางเลือก ซึ่งมีคำขวัญว่า “เป็นผลผลิตจากท้องถิ่น คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เกื้อกูลสุขภาพ และเป็นธรรม” อาจมิใช่เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็นทางออกสำคัญของระบบอาหารที่ควรจะเป็น 

  • —บทความ ตลาดสด ตลาดนัด ความสำคัญต่อปากท้องของคนไทย  

สาระสำคัญ  ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการดำรงอยู่ของตลาด  สรุป ได้ 7 ปัจจัยต่อไปนี้ (1) ความสามารถ ในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกชนชั้น สะดวกและ ง่ายต่อการซื้อสินค้า (2) ความสามารถในการเชื่อมต่อสินค้าและบริการจากผู้ผลิต ตลาดขายส่ง จนถึงผู้บริโภค (3) ความ สามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค (4)  ตลาดสดยังคงเป็นพื้นที่กลางทางสังคมในการขับเคลื่อนกิจกรรม  (5) การเกิดขึ้นของตลาดสดสอดคล้องกับการขยายตัวหรือการเคลื่อนย้ายประชากร  (6) ตลาดสดเป็นตัวสะท้อนถึงวัฒนธรรมของพื้นที่หรือกลุ่มประชากร และ (7) ตลาดสดมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

  • —Infographic ทำไมต้องตลาดทางเลือก 

สาระสำคัญ เปรียบเทียบให้เห็นข้อดีในการสนับสนุนตลาดทางเลือกที่ส่งผลต่อระบบอาหารและสุขภาพ โดยนำเสนอ 4 กรณี  (1) การสนับสนุนตลาดทางเลือกจะลดการใช้พลังงานในการขนส่ง การเก็บรักษา ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน ไม่ต้องขนส่งอาหารทางไกล (2)  อาหารจากตลาดทางเลือก อาหารมีความสด หลากหลาย รสชาติดี ปลอดภัยกว่า “โมเดิร์นเทรด” ซึ่งมีสารเคมีตกค้างในผักและผลไม้เกินมาตรฐาน (3) อาหารจากตลาดทางเลือก ผู้บริโภคมีความสัมพันธ์โดยตรงกับเกษตรกร เอื้ออำนวยให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด และสร้างสัมพันธ์ที่เสมอภาคกัน ในขณะที่ “โมเดิร์นเทรด”ผูกขาดทางการค้า ทำให้อาหารขาดความหลากหลาย ผ่านการแปรรูป ปรุงแต่ง จนสูญเสียความสด และคุณค่าทางโภชนาการ และ (4) ตลาดทางเลือกส่งเสริมกิจกรรมและความเข้มแข็งของเกษตรกรรายย่อยและชุมชนท้องถิ่น ส่วนระบบกระจายอาหาร“โมเดิร์นเทรด” รวมศูนย์ อยู่ในเมือของค้าปลีกเพียง 2 -3 ราย

  • —บทความแนะนำตลาดเขียว ตลาดทางเลือก 

สาระสำคัญ  แนะนำตลาดเขียว ตลาดทางเลือกในพื้นที่ 8 แห่ง ได้แก่ (1) ตลาดสีเขียวยโสธร และหลาดใต้โหนด (2) ตลาดนัดสีเขียวกินสบายใจ จ.อุบลราชธานี  (3) ตลาดเกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา  (4) City Farm Market  (5)  สวนผักกลางเมือง  (6) กินสบายใจช็อป (7) ตลาดเกษตรกรออนไลน์ และ (8) ตลาดขนเผ่า เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาวะ และสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย ระบบอาหารท้องถิ่น เพื่อชักชวนให้ทุกคนลองเปลี่ยนสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีพลัง 

  • —รายงานโมเดลการบริหารจัดการโซ่อุปทานสีเขียว 

สาระสำคัญ โมเดล ประกอบด้วย (1) Green Design หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์เชิงนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยพิจารณาถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ตลอดช่วงอายุ (2) Green Supply หรือ Green Procurement คือ ความพยายามในการจัดซื้อ จัดหาจากผู้ส่งมอบสีเขียว ด้วยวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  (3) Green Manufacturing หรือการผลิตด้วยเทคโนโลยีสะอาด โดยมุ่งใช้ปัจจัยการผลิตให้คุ้มค่ามากที่สุด (4)  Green Logistics หรือโลจิสติกส์สีเขียว คือ ความพยายามในการเคลื่อนย้าย จัดเก็บหรือขนส่งวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ หรือซากผลิตภัณฑ์ โดยมีต้นทุนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด (5) Green Consumption คือ การอุปโภคบริโภคผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภคให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด (6) Green Recycling คือ กระบวนการนำซากผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่โดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และ (7) การจัดการโซ่อุปทานตามแนวทางของ SCOR Model หลักการสำหรับแนวปฏิบัติเป็นเลิศด้าน Green Supply Chain กรณีปลูกผัก ผลไม้และข้าวอินทรีย์ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การวางแผน  การจัดซื้อจัดหา  การผลิต การส่งมอบ และการส่งคืน 

  • —การขับเคลื่อนตลาดสุขใจ “การบริหารจัดการตลาดสีเขียว”  

สาระสำคัญ สรุปได้ 6 ประเด็น ดังนี้ (1)  ผู้บริโภคสามารถซื้อ–ขายตรงกับเกษตรกรได้โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง  (2) เกษตรกรสามารถกำหนดราคาผลผลิตเองได้โดยอยู่บนพื้นฐานที่เป็นธรรม  (3) ใช้ระบบการรับรองแบบ มีส่วนร่วม (PGS) ในการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค (4) สร้างกลไกผู้นำร่วมให้เกิดขึ้นเพื่อบริหารจัดการงานตลาดสุขใจ โดยจัดตั้งคณะกรรมการตลาดสุขใจ   (5) สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค โดยเชิญลูกค้ามาเป็นกรรมการผู้บริโภคเพื่อสะท้อนความคิดเห็นของผู้บริโภค และ (6) มีการประชาสัมพันธ์สื่อสารอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทางการสื่อสารอย่างมืออาชีพและเป็นระบบ 

  • —บทเรียนรูปแบบการจัดการตลาดเขียวท้องถิ่น เพื่อพัฒนาระบบอาหารสุขภาวะอย่างยั่งยืน เพื่อขยายผล  

สาระสำคัญ สรุปได้ 10 ประเด็น (1) กลยุทธ์การตลาดของตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในระดับท้องถิ่น (2) รูปแบบการจัดการตลาดเขียวท้องถิ่นเพื่อพัฒนาระบบอาหารสุขภาวะอย่างยั่งยืน (3) ใคร คือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตลาด (4) คุณค่า ที่ตลาดต้องการนําเสนอ (5) อัตลักษณ์ของตลาดคืออะไร (6) ความหลากหลายของสินค้าในตลาด (7) กลยุทธ์การตลาดประสบผลสำเร็จหรือไม่ (8) ความท้าทายของตลาดเขียว (9) การตลาดสมัยใหม่ โอกาสและข้อจํากัด และ (10) ตลาดเขียวในฐานะเครื่องมือในการแก้ปัญหาหนี้สิน

  • —รายงานโครงการปฐม เชื่อมโยงอาหารอินทรีย์สู่ผู้บริโภค (Organic Express) 

สาระสำคัญ Organic Express คือกระบวนการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงผลผลิตเกษตรอินทรีย์สู่การบริโภคผักและผลไม้อย่างเพียงพอของผู้บริโภค ได้แก่  (1) ออกแบบเมนูอาหารกล่องเพื่อสุขภาพ โดยกําหนดให้ในแต่ละกล่องมีปริมาณผักและผลไม้ 400-600 กรัม  (2) การแสดงฉลากระบุข้อมูลโภชนาการ รวมไปถึงปริมาณน้ำหนักผักและผลไม้ในบรรจุภัณฑ์ (3) แหล่งบริการอาหาร ชื่อ ร้านปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง เป็นจุดเชื่อมโยงผลผลิตไปสู่ผู้บริโภค (4) การเชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกรรายย่อย เพื่อเชื่อมโยงผลผลิตสู่ผู้บริโภค  และ (5) การจัดตลาดสีเขียว ตลาดสังคมสุขใจเพื่อเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค

  • —รายงานโครงการ "From Farm To Firm" เชื่อมสังคมอย่างยั่งยืนผ่านโซ่อุปทานอาหารอินทรีย์  

สาระสำคัญ เป็นโครงการที่เชื่อมโยงผู้ผลิตอาหารอินทรีย์สู่ผู้บริโภคโดยตรง สนับสนุนให้ผู้ผลิต และผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีจากการผลิตและบริโภคอาหารอินทรีย์ โดยการวางแผนให้มีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอาหารอินทรีย์ออนไลน์และพัฒนาเกษตรกรผู้ผลิต โดยมีกระบวนการ ดังนี้  (1)  การสำรวจและเก็บข้อมูลเบื้องต้น  (2) การวางแผนการดำเนินงาน  (3) การพัฒนาเว็บไซต์และอบรมการใช้งานเว็บไซต์ (4) การให้ความรู้ และคำปรึกษาด้านการจัดการหลังเก็บเกี่ยว (5) การรับสมัครสมาชิก (6) การประชาสัมพันธ์โครงการ  (7) การวางแผนจัดการการขนส่ง  (8) การรับรองแบบ มีส่วนร่วม (PGS)  และ (9) ถอดบทเรียนทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง

  • —VDO โครงการยุทธศาสตร์การบูรณาการแผนอาหารและพื้นที่สร้างเสริมสุขภาวะ 1 ชุด มี 7 รายการ 

สาระสำคัญ (1) รู้จักเราโครงการพัฒนายุทธศาสตร์บูรณาการแผนอาหารและพื้นที่สร้างเสริมสุขภาวะเพื่อการขยายผล และ (2)  แนะนำโครการพื้นที่/ประเด็นของการขับเคลื่อนโครงการยุทธศาสตร์การบูรณาการแผนอาหารและพื้นที่สร้างเสริมสุขภาวะ พื้นที่ต้นแบบ 6 แห่ง ดังนี้ :

 (ก) โรงพยาบาลเชียงแสน จ.เชียงราย โรงพยาบาลสีเขียว   

 (ข) ตลาดกองคนม่วน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย 

 (ค) เกษตรกรเมืองสุรินทร์กับอาหารปลอดภัยในโรงเรียน   

 (ง) กรณี ศึกษาชุมชนอาหารดาวเด่น จ.พะเยา 

 (จ) บทบาทของแม่ครัวโรงเรียนบ้านต๊ำพระแล จ.พะเยา การจัดการอาหารปลอดภัยในโรงเรียน 

 (ฉ) การสร้างเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน อ อ่าวลึก จ.กระบี่

 

3.5.2.2 สื่อ ชุดความรู้ด้านแหล่งข้อมูล/ช่องทางการสื่อสารคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร

สื่อ ชุดความรู้ด้านแหล่งข้อมูล/ช่องทางการสื่อสารคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร  จำนวน 10 รายการ ประกอบด้วย—Application แผนที่อาหารเมือง (Thai city farm Interactive Map) พัฒนา/เผยแพร่บน website โดยโครงการสวนผักคนเมือง  สาระสำคัญ แผนที่อาหารเมืองเป็นเครื่องมือที่จะพาไปสำรวจพื้นที่สร้างอาหารที่กระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯและในหลายจังหวัด เพื่อให้ผู้สนใจสามารถค้นหา/ทำความรู้จักสวนผักใกล้ตัว กว่า 317 แห่ง สามารถเพิ่มเติมข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ ศึกษา ดูงาน ทำกิจกรรมด้านการผลิตการทำเกษตรในเมืองเพื่อการเข้าถึงอาหารปลอดภัย และเป็นระบบฐานข้อมูลการเข้าถึงอาหารในภาวะวิกฤต 

  • —การสื่อสารสาธารณะผ่านช่องทาง Facebook จำนวน 8 รายการ 

สาระสำคัญ 

 (1) เพจ สามพรานโมเดล สำหรับประชาชนทั่วไปมีช่องทางการเข้าถึงข้อมูลแหล่งอาหารปลอดภัยสำหรับการบริโภค

 (2) เพจ Trust Food Good Truck” เป็นช่องทางการสื่อสารข้อมูลดำเนินงานของโครงการกับประชาชนทั่วไปได้ มีความรู้เรื่องการกินอาหารที่ปลอดภัย และเข้าถึงแหล่งอาหารปลอดภัย 

 (3) เพจ “เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN)” สำหรับสื่อสารกับเกษตรกร  ผู้บริโภค และประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ ผลิต และบริโภคอาหารที่ปลอดภัย เผยแพร่ข้อมูลการศึกษาทางวิชาการ การทำงานในระดับพื้นที่ เน้นการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช การกระจายอาหารผ่านตลาดให้ความรู้ผ่านการบริโภคสื่อของโครงการ 

(4) เพจ “Organic food for all เป็นแหล่งที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลดำเนินงานโครงการเชื่อมโยงผลผลิตอินทรีย์และอาหารสุขภาพเข้าสู่สถานประกอบการเพื่อสุขภาพของคนวัยทำงาน สำหรับประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ มีข้อมูลเรื่องการกิน/การผลิต ที่ปลอดภัย สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง 

(5)  เพจ  Food safety เป็นช่องทางที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลดำเนินงานโครงการพัฒนาการผลิตอาหารปลอดภัยในชุมชนและเครือข่ายด้วยการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ มีข้อมูลเรื่องการกิน/การผลิตที่ปลอดภัย สามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ 

(6) เพจ สมาคมเยาวชนจังหวัดสงขลา เป็นช่องทางในการสื่อสารข้อมูลดำเนินงานโครงการนำสงขลาสู่ครัวโลก  ด้วยการสร้างระบบอาหารคุณภาพอย่างยั่งยืน สำหรับประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ มีข้อมูลการทำงานของสมาคมและสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้         

(7)  เพจ Chiang Rai Green Network เป็นช่องทางในการสื่อสารข้อมูลการดำเนินงานโครงการเกษตรสีเขียว อาหารปลอดภัย เชียงรายเป็นสุข สำหรับประชาชนทั่วไปได้สืบค้นข้อมูล ความรู้เพื่อนำไปปรับใช้ในการเข้าถึง/บริโภคอาหารปลอดภัย 

(8) เพจ ชุมชนคนอันดามันบริโภคผัก ผลไม้อินทรีย์ ปลอดภัย ยั่งยืน  เป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลและช่องทางการสื่อสารกิจกรรมดำเนินงานโครงการรณรงค์เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้เพื่อสุขภาวะของประชากรในจังหวัดภูเก็ต พังงา สำหรับประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ ข้อมูลเรื่องการกินอาหารที่ปลอดภัยสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ 

—website 1 รายการ คือ “เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN)” สำหรับสื่อสารกับเกษตรกร ผู้บริโภค และประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ ผลิต และบริโภคอาหารที่ปลอดภัย โดยเผยแพร่ข้อมูลการศึกษาทางวิชาการ การทำงานในระดับพื้นที่ โดยเน้นการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช การกระจายอาหารผ่านตลาดให้ความรู้ผ่านการบริโภคสื่อของโครงการ

 

3.5.2.3 สื่อ ชุดความรู้การจัดการด้านการกระจายและการตลาดอาหารในภาวะวิกฤติ

สื่อ ชุดความรู้การจัดการด้านการกระจายและการตลาดอาหารในภาวะวิกฤต  18 รายการ ได้แก่

  • —Infographic สถานการณ์โควิด-19: สุขภาพ อาหาร และความเหลื่อมล้ำ 1 ชุด มี 18 รายการ 

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลและแนะนำวิธีการรับมือในภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความมั่นคงทางอาหารในผู้คนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ดังนั้นสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนรู้การสำรองอาหาร การผลิตอาหาร การเชื่อมโยงแหล่งจำหน่ายอาหาร และการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์พร้อมกับนำบทเรียนดังกล่าวไปผลักดันให้เกิดการเตรียมรับมือกับวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต   ชุดสื่อประกอบด้วย 

(1) COVID-19 ผลกระทบต่อเกษตรกรรม & ความมั่นคงทางอาหาร 

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร ปัญหาการขาดแคลนอาหาร และการผลิตในหลายมณฑลของจีน อิตาลี ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องในการส่งออกผักผลไม้และการท่องเที่ยวของไทย วิถีเกษตรกรรมที่ยั่งยืนและการคำนึงถึงความมั่นคงทางอาหารของครอบครัว ชุมชน และประเทศ จะเป็นกุญแจของความอยู่รอดของประเทศไทย

(2) อยู่อย่างไรให้ได้นาน 1 เดือน? เสบียงอาหาร เมื่อมีการประกาศเขตกักกัน COVID-19 

สาระสำคัญ ให้คำแนะนำสำหรับประชาชนหากโรคไวรัสระบาดในระดับที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางหรือทำให้ต้องประกาศเขตกักกันโรค โดยให้ข้อมูลสำหรับประชาชนเตรียมเสบียงอาหารเอาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หลังจากThe Centers for Disease Control and Prevention (CDC) เตือนชาวอเมริกันให้รับมือหากมีการระบาดเกิดขึ้น

(3) ความมั่นคงทางอาหารในห้วงวิกฤติ คนจนกระทบมากที่สุด 

สาระสำคัญ นำเสนอข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ระบุว่ากลุ่มผู้มีรายได้น้อย มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านอาหารสูงถึง 48.8% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้สูง มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านอาหารประมาณ 25.1% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผู้มีรายได้น้อยและคนยากคนจนอาจต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือวิกฤติที่เกิดขึ้น

(4) ประวัติศาสตร์ผลกระทบทางเศรษฐกิจเมื่อไวรัสระบาด กรณีศึกษาในสหรัฐอเมริกา  

สาระสำคัญ บทความชี้ว่าโรคระบาดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ใน 3  ลักษณะคือ (1) ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน การลงทุน (2) ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และ (3) ผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตสินค้าของโรงงานและการให้บริการต่างๆ ข้อมูลที่น่าสนใจคือแม้สหรัฐอเมริกาจะอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางการระบาด แต่ยังได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ซึ่งในทางภูมิศาสตร์และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับศูนย์กลางการระบาดใกล้ชิด ผลกระทบน่าจะหนักหนาสาหัสมากกว่าหลายเท่า

(5) ไวรัสระบาดกับความมั่นคงทางอาหาร 

สาระสำคัญ ชี้ให้เห็นถึงการระบาดของโรคส่งผลกระทบต่อราคาข้าว ราคามันสำปะหลัง การสูญเสียของครอบครัวและการขาดรายได้จากผลกระทบของปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกับการระบาด และปัญหาซ้ำเติมจากผลผลิตทางการเกษตรได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้อาหารไม่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ จึงไม่ควรประมาทกับวิกฤตที่เกิดขึ้น 

(6) จับตา 90 วันอันตราย  6 วิกฤตส่งผลกระทบความมั่นคงทางอาหาร 

สาระสำคัญ  (1) การระบาดของ COVID-19 ไปไกลถึงขั้น WHO ประกาศเป็นการระบาดครั้งใหญ่ของโลก (pandemic) (2) คณะ กรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เตรียมเสนอรัฐบาลให้เข้าร่วม CPTPP ซึ่งมีเงื่อนไขให้ต้องเข้าร่วมอนุสัญญา UPOV1991 ส่งผลกระทบทั้งต่อเกษตรกรซื้อเมล็ดพันธุ์ราคาแพงขึ้น 2-6 เท่า ลดทอนสิทธิการเก็บรักษาพันธุ์พืชไปปลูกต่อ และผูกขาดยาจากสมุนไพรผ่านการผูกขาดสายพันธุ์ (3) ภัยแล้งร้ายแรง ส่งผลกระทบ ต่อเกษตรกรที่ทำนาปรัง ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง และไม้ผล (4) ช่วงเวลา 90 วัน เป็นเส้นเวลาตามกฎหมาย ที่คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าต้องประกาศว่าการที่ซีพีซื้อเทสโก้โลตัสและทำให้สัดส่วนตลาดของบรรษัทนี้สูงถึง 75% ของโมเดิร์นเทรดอาหารและเชนคอนวีเนียนสโตร์มีผลต่ออำนาจเหนือตลาดหรือไม่  (5) เช่นเดียวกับกรณีการแบนสารพิษร้ายแรงซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้แบนพาราควอต คลอร์ไพริฟอส แต่ไม่แบนไกลโฟเซต   (6)  ฝุ่นพิษที่ปกคลุมกรุงเทพและภาคกลาง ขณะนี้ขยายออกไปภาคเหนือ บางพื้นที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานถึง 10 เท่า ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อประชาชน ซ้ำเติมปัญหาการระบาดของไวรัสซึ่งมีผลกระทบทำลายปอดและทางเดินหายใจ วิกฤตเหล่านี้จะนำไปสู่การตั้งคำถามต่อความชอบธรรมในการบริหารประเทศของรัฐบาล ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยให้ทรุดโทรมลงไปยิ่งขึ้น ตอกย้ำปัญหาโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจ/ระบบทางการเมืองที่ขาดความชอบธรรม และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่ 

(7) เมื่อไหร่ต้องสำรองอาหาร 

สาระสำคัญ คำแนะนำในกรณีที่คนในครอบครัวติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงต้องกักกันตนเอง (1)  ให้เตรียมอาหารและน้ำไว้สำหรับ 2 สัปดาห์  (2) ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น 1 เดือน (3)  เตรียมแผนสำหรับครอบครัว ในกรณีที่โรงเรียนประกาศปิดและ (4) เตรียมความพร้อมกรณีที่ต้องทำงานที่บ้านโดยไม่ต้องเดินทางไปทำงานนอกบ้าน

(8) เกษตรกรรมและอาหาร รับมือวิกฤต 

สาระสำคัญ วิกฤตไวรัส ภัยแล้ง ฝุ่นพิษ เศรษฐกิจถดถอย รับมือได้โดยการสร้างระบบเกษตรกรรมที่ยั่งยืน  เพื่อความมั่นคงทางอาหารให้เกิดขึ้น ประกอบด้วย (1)  เมล็ดพันธุ์คือหัวใจสำคัญ (2)  ผักยืนต้น ไม้ยืนต้น  คือองค์ประกอบที่สำคัญของระบบนิเวศตามธรรมชาติ บางชนิดปลูกไว้ครั้งเดียวเก็บไว้กินได้ชั่วชีวิต (3) เกษตรกรรายย่อยจะอยู่รอดได้ ต้องเปลี่ยนเกษตรกรรมเชิงเดี่ยวที่ปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์อย่างเดียวมาเป็นเกษตรกรรมผสมผสาน ลดการก่อมลพิษ/ฝุ่นพิษ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ สร้างอาหารให้กับครอบครัว และยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดภายนอก เพื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตเศรษฐกิจ  (4) ปลูกผักในบ้านและสร้างอาหารในเมือง โดยสนับสนุนให้มีตลาดเกษตรกร หรือติดต่อรับซื้อผลผลิตอาหารโดยตรงช่วยค้ำจุนสองฝ่ายอยู่ได้อย่างเสมอภาค

(9) ข้อเสนอเรื่องความมั่นคงทางอาหาร เผชิญหน้า COVID-19 

สาระสำคัญ ข้อเสนอระยะสั้น ต้องจัดการไม่ให้มีการกักตุน-การผูกขาดเก็งกำไร การสนับสนุนผู้ประกอบการให้อยู่ได้โดยไม่ต้องเอาคนออกจากงาน การสนับสนุนรายได้และถุงยังชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย และเพิ่มการพึ่งพาตนเองทางอาหารของครอบครัว ระยะยาวสนับสนุนเงินกู้และปัจจัยอื่นๆให้คนที่กลับไปทำการเกษตรและเกษตรกรรายย่อย บังคับใช้กฎหมายป้องกันการผูกขาดอย่างเข้มข้น มิให้มีการรวมศูนย์ผูกขาดในระบบการผลิตและการกระจายอาหารดังที่เป็นอยู่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กมีโอกาสเข้าสู่ธุรกิจ และผู้บริโภคมีทางเลือกบริโภคอาหารที่หลากหลายในราคา  ที่เป็นธรรม

(10) ปลูกผักรับวันวิกฤต 

สาระสำคัญ การ "เพาะ-ปลูก" ผัก ไว้กินอย่างยั่งยืนในทุกวิกฤต สามารถเลือกได้จากผัก 3 ประเภทคือ (1)  ผักจากเมล็ดเพาะงอก ที่เมล็ดไม่คลุกสารเคมีบรรจุซอง เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง  (2) ผักล้มลุกที่สามารถเด็ดกินใบได้ และ (3)  ผักยืนต้น ปลูกไว้สักต้นอาจกินไปได้นานหลายปี บางต้นอาจมีชีวิตอยู่จนถึงชั่วลูกชั่วหลาน เชิญชวนมาร่วมกันแชร์ความรู้ เพื่อผ่านพ้นวิกฤตที่เผชิญอยู่และวิกฤตที่อยู่ข้างหน้าไปด้วยกัน

(11) ไข่แพง ผู้เล่นสำคัญในห่วงโซ่การผลิต&ตลาดไข่ และ (12) ไข่แพงแต่เกษตรกรไม่ได้ประโยชน์   สาระสำคัญ จากความต้องการของผู้บริโภคที่ซื้อไข่เพื่อสะสมเสบียงรองรับมาตรการล็อคดาวน์ การฉวยโอกาสแสวงหากำไรของผู้ประกอบการจากสถานการณ์โรคระบาดหรือไม่ ? ผู้เล่นรายใหญ่ในห่วงโซ่การผลิตไข่ คือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งครอบครองส่วนแบ่งมากที่สุด หากไข่มีราคาแพงตลอดช่วงสถานการณ์วิกฤตไวรัสระบาดเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่น่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อหักต้นทุนค่าพันธุ์ ค่าอาหารสัตว์ และสารพัดค่าใช้จ่ายก่อนไปสู่ตลาดได้ คงไม่ได้มากมายอะไร

(12) จับตาผลกระทบต่อเกษตรกร ราคาสินค้าเกษตร 1 เดือนหลังไวรัสระบาด 

สาระสำคัญ ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่มีราคาปรับลดลง หนักสุดคืออ้อยและยางพารา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ จนถึงการคาดการณ์เศรษฐกิจถดถอยอันเกิดจากไวรัสระบาด ข้าวเป็นสินค้าที่มีราคาขยับสูงขึ้น ในตลาดโลกราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 3% การผลิตเพื่อความมั่นคงทางอาหาร น่าจะเป็นทางออกและทางรอดของเกษตรกรในอนาคต

(13) รถพุ่มพวง เสริมสร้างความมั่นคงและอธิปไตยทางอาหารข้ามผ่านวิกฤต  

สาระสำคัญ รถพุ่มพวงเป็นช่องทางสำคัญในการกระจายผลผลิตจากเกษตรกรรายย่อยโดยซื้อจากตลาดค้าส่งต่างๆ จึงควรส่งเสริม/ยกระดับความปลอดภัยอาหารของรถพุ่มพวงอย่างจริงจังตามข้อเสนอของกรมอนามัย เพราะ (1)  ลดการเดินทาง เอื้อการจัดการระยะห่างทางสังคม (2) ผักและอาหารหลากหลาย ตอบโจทย์โภชนาการ (3) ผักสดปลอดภัยไม่ต่างจากห้างใหญ่ (4) ราคา ยุติธรรม เข้าถึงง่าย ไม่ต้องจ่ายค่าเดินทาง  (5) ช่องทางอาชีพคนเล็กคนน้อย  (6) ลดการรวมศูนย์ระบบค้าปลีกสมัยใหม่  (7) เกษตรกรรายย่อยได้เข้าถึงตลาด (8) สร้างสัมพันธ์คนซื้อคนขาย และ (9) อากาศไหลเวียน ลดจำนวนเชื้อ

(14)สร้างความมั่นคงทางอาหารยามวิกฤตด้วยพลังของคนเล็กคนน้อย 

สาระสำคัญ แนะนำวิธีการพึ่งพาตนเองและเสริมสร้างความเข้มแข็งในยามวิกฤตเมื่อต้องอยู่บ้านมากขึ้น โดยการปลูกผักกินเอง เลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ผักพื้นบ้านหรือกล้าผักยืนต้น อุดหนุนตลาดสด ตลาดนัดท้องถิ่น หรือรถพุ่มพวงไม่สะดวกทำอาหารเอง ใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ใกล้บ้าน สั่งอาหารจากรถเข็น ร้านอาหารข้างทาง หรือร้านอาหารโปรด ทุกคนจะได้มีงาน มีรายได้ อยู่รอดไปด้วยกัน

(15) ปัญหาและทางออกของเกษตรกรรมและความมั่นคงทางอาหาร 

สาระสำคัญ ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ต่อเกษตรกรรมและอาหาร จะเกิดขึ้น 3 ระยะ : ระยะแรก ในภาวะตื่นตระหนก เกิดการสะสมเสบียงและกักตุนอาหาร ผู้ค้าฉวยโอกาสแสวงหากำไร แต่เกษตรกรไม่ได้รับประโยชน์ ระยะกลาง กินเวลาตั้งแต่เริ่มการล็อคดาวน์ไปจนกว่าจะควบคุมการระบาดได้ ปัญหาเกิดขึ้นตลอดห่วงโซ่ตั้งแต่การผลิต โรงงานแปรรูปขาดแคลนแรงงาน หรือมาตรการกักกันโรคส่งผลกระทบต่อการทำงาน การขนส่ง และกระจายผลิตผล รวมทั้งเมื่อร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวปิดกิจการ ผู้บริโภคเดินทางไม่สะดวก กินอาหารไม่หลากหลาย ผู้มีรายได้น้อย/คนตกงานไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหาร 

(16) ค้าปลีกได้ประโยชน์มากที่สุด ระหว่างล็อคดาวน์ 

สาระสำคัญ ระหว่างล็อคดาวน์ในประเทศไทยระบบค้าปลีกสมัยใหม่เข้ามาแทนที่ระบบค้าปลีกแบบดั้งเดิมกว่า 70% ผู้ที่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 50% ของค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ประเภท HSC คือซีพี รองลงมา คือเทสโก้-โลตัส ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 25% ท่ามกลางวิกฤตนี้คนยากจนและผู้มีรายได้น้อยจะย่ำแย่ แต่สำหรับบางกลุ่มธุรกิจ วิกฤตนี้คือโอกาสต่างหาก

(17) ไม่ควรมีใครต้องอดเพราะโรคระบาด 

สาระสำคัญ ประชาชนนับร้อยคนที่บุกไปกระทรวงการคลังเพื่อร้องเรียนการไม่ได้รับสิทธิรับเงินเยียวยา เนื่องจากขาดรายได้จากมาตรการล็อคดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 จนกระทั่งแทบไม่มีเงินซื้ออาหาร คือสัญญาณอันตรายเรื่องวิกฤตความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปเลี้ยงประชากรโลกมาหลายทศวรรษ จึงไม่ควรมีใครสักคนในแผ่นดินนี้ที่ต้องอดอาหารเพราะการระบาดของโรค รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการเพื่อสร้างหลักประกันเรื่องความมั่นคงทางอาหาร

 

3.5.2.4 การปรับตัวของชาวนาในภาวะวิกฤตยุคโควิด-19 : จากผู้ผลิตสู่ผู้จำหน่าย

การปรับตัวของชาวนาในภาวะวิกฤตยุคโควิด-19  : จากผู้ผลิตสู่ผู้จำหน่าย  9 รายการ  ในรูปแบบสื่อ VDO, Infographic ประกอบด้วย

  • —VDO ตัวอย่างการปรับตัวของชาวนา ภายใต้ธุรกิจการจำหน่ายข้าวสาร ผ่านตลาดออนไลน์ และตลาดพรีออเดอร์เกษตรอินทรีย์ อุ่นใจคนปลูกสุขใจคนกิน ผลจากการปรับตัวชาวนาสามารถยกระดับรายได้ของเกษตรกร ช่วยบรรเทาปัญหาหนี้สิน และก่อเกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน  

สาระสำคัญ  จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ และภาวะวิกฤตเดิมที่สั่งสมและเรื้อรังมานาน ชาวนาจึงมีความจำเป็นต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอดสู่การผลิตสินค้าทางการเกษตรที่ปลอดภัยมีคุณภาพ สร้างความเชื่อถือให้กับผู้บริโภค ศึกษาเทคโนโลยี และแนวทางการตลาดมากขึ้น" เช่น 

(1) เมื่อชาวนาขายข้าวเอง : กรณีตัวอย่าง ชรินทร์ ยิ้มศรี "ชาวนาที่ขายข้าวเอง มีความมั่นคงแน่นอน เพราะเรามีรายได้จากการขายข้าวเพิ่มขึ้น สุขภาพของเราดีขึ้น และเรามีของกินตลอดทั้งปี"       

(2) ตลาดออนไลน์ ทางรอดเกษตรกรยุคโควิด-19 :  กรณีตัวอย่าง บุญชู มณีวงษ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาตลาดออนไลน์สร้างรายได้ที่สามารถตั้งราคาสินค้าของตนเองได้โดยไม่ขึ้นอยู่กับคนกลาง

(3) บทเรียนการพัฒนาตลาดและผลิตภัณฑ์ชุมชนพอใจในวิถีพอเพียง : เกษตรกรอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี คิดร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยปรับเปลี่ยนการทำเกษตรเคมีสู่อินทรีย์ ลด ละ เลิก 

(4) ตลาดพรีออเดอร์เกษตรอินทรีย์ อุ่นใจคนปลูก สุขใจคนกิน : กรณีตัวอย่าง บ้านสวนลมโชย เป็นเกษตรกร รายย่อย อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ที่ทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน ทั้งปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ จัดส่งผลผลิตเป็น "ตลาดสดเดลิเวอรี่" แบบบริการจัดส่งถึงที่ โดยนำผลผลิตจากฟาร์มและจากเกษตรกรอินทรีย์รายย่อยที่ฟาร์มสู่ผู้บริโภคโดยตรง “เพราะเชื่อว่า...อาหารที่ดีต้องมาจากวัตถุดิบที่ดี จึงดูแลทุกสิ่งเพื่ออาหารที่มีคุณภาพให้กับคุณ”

  • —Infographic โมเดลธุรกิจแก้หนี้ชาวนา: การจำหน่ายข้าวสาร 

สาระสำคัญ ประกอบด้วย 4 หลักคิด 6 แนวทางการปรับตัว ดังนี้   

(1)  การสร้างกรอบคิด “การจำหน่ายข้าวสาร” ด้วยการตั้งคำถามต่อไปนี้ (ก) จะต้องทำอะไรบ้าง (ข) ต้องใช้อะไรบ้าง (ค) ทำอย่างไรให้ลูกค้าติดใจเรา (ง) รายได้ รายได้หลัก รายได้รอง  (จ) ต้นทุน และค่าใช้จ่าย 

(2)  "ชาวนาผู้ประกอบการ" การปรับตัวเพื่อความอยู่รอด จะต้อง (ก) คิดใหม่ ทำใหม่ สร้างโอกาสทางอาชีพใหม่ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ (ข) ชาวนาต้องกำหนดเป้าหมายการผลิตและการตลาดเอง (ค) วางแผนธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมาย แก้หนี้และพัฒนาคุณภาพชีวิต

(3) ปัจจัยสู่ความสำเร็จ 10 ประการ ของตลาดท้องถิ่นเกษตรกร: (ก) สะท้อนถึงเอกลักษณ์และวิถีชีวิตของชุมชน (ข)ปลูกเอง ผลิตเอง ขายเอง (ค) สินค้ามีความหลากหลาย (ง) สินค้าราคาไม่แพง (จ) เกิดปฎิสัมพันธ์ (ฉ) มีจุดดึงดูดใจ (ช)ช่วงเวลาขายมีความต่อเนื่อง (ซ) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (ฌ) สมาชิกตลาดช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และ (ฏ) การมีส่วนร่วมของชุมชน 

(4)  กราฟชีวิต: วิเคราะห์ความสุขของชาวนา 7 ด้าน รายได้-รายจ่าย-หนี้สิน เงินออม การประกันความเสี่ยง สุขภาพ อาชีพ ทุน และความสัมพันธ์ในครอบครัว 

โดยมี 6 แนวทางการปรับตัวของเกษตรกรอินทรีย์ช่วงสถานการณ์โควิด-19  ดังนี้ 

(1) การประเมินสถานการณ์ก่อน (2) วางแผนการผลิตใหม่ (3) เพิ่มช่องทางการตลาดอื่นๆ เปลี่ยนรูปแบบ การขาย (4) ปรับกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์  (5) เปลี่ยนรูปแบบการผลิตจากขายสดสู่การแปรรูป   และ(6) ให้คำแนะนำที่เหมาะสมตามสถานการณ์

 

3.5.2.5 การยกระดับเกษตรอินทรีย์รุ่นใหม่

การยกระดับเกษตรอินทรีย์รุ่นใหม่   2 รายการ ในรูปแบบสื่อ Infographic และงานวิจัย

  • —Infographic 5 เคล็ดลับสู่การยกระดับเกษตรกรอินทรีย์รุ่นใหม่ยุคไทยแลนด์ 4.0 

สาระสำคัญ เครื่องมือสำคัญในการสื่อสารที่เกษตรกรรุ่นใหม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ประกอบด้วย (1) ข้อความต้องโดนใจ (2) ภาพต้องสะกดใจ (3) สร้างสรรค์ประทับใจ (4) แฟนเพจต้องเข้าถึง และ (5) ปิดการขายทันที เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมดแล้ว และต้องติดตามการขายทุกครั้ง 

  • —รายงานการศึกษาจากผู้บริโภคสู่พลเมืองอาหาร พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงในระบบอาหาร 

สาระสำคัญ การสร้างพลเมืองอาหารที่ตื่นตัวมากกว่าการเป็นผู้บริโภคอย่างเดียว ประกอบด้วย (1)  การส่งเสริมสนับสนุนสร้างเวทีการเรียนรู้ให้แก่ผู้บริโภค ทั้งเชิญนักวิชาการมาให้ความรู้สม่ำเสมอ จัดทัวร์ให้ผู้บริโภคได้เรียนรู้รากเหง้าปัญหาผ่านผู้ผลิตอาหารที่เขาซื้อกินเป็นประจำ  (2) จัดกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึก  (3) มีการสร้างช่องทางการสื่อสารทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อเชื่อมต่อและเสริมสร้างความรู้ระบบอาหารที่ไม่เป็นธรรม และชักชวนยกระดับให้ผู้บริโภคเข้ามาร่วมในการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในอาหาร  (4) การสร้างอำนาจของคนเล็กคนน้อยให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดระบบอาหาร และ (5) ขยายการสร้างพลเมืองอาหารที่ก้าวหน้าออกไปสู่ชุมชนและสังคมให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะสานร้อยเชื่อมพลังเป็นภาคีเครือข่ายที่จะสร้างระบบอาหารที่ปลอดภัยยั่งยืนและเป็นธรรมให้เกิดเป็นจริง

 

3.5.2.6 สื่อ ชุดความรู้สำหรับการพัฒนาพื้นที่รูปธรรม/ต้นแบบการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ

สื่อ ชุดความรู้สำหรับการพัฒนาพื้นที่รูปธรรม/ต้นแบบการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ ชุดความรู้ จำนวน 25 รายการ 

  • —หนังสือตลาดปลอดสารอาหารปลอดภัยบทเรียนการยกระดับมาตรฐานคุณภาพตลาดต้นแบบยุคใหม่สงขลา 

สาระสำคัญ นำเสนอบทเรียน การดำเนินงานของตลาดต้นแบบเพื่อสุขภาพ จำนวน 8 แห่ง ที่ ม.อ. เข้าไปขับเคลื่อนสู่ตลาดอาหารปลอดภัย ระหว่างปี พ.ศ.2557-2561 ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาและยุทธศาสตร์ระบบอาหารจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย (1) ตลาดเกษตร ม.อ.ต้นแบบพัฒนาตลาดครบวงจร มีการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรต่อเนื่องเข้าสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ พัฒนาระบบตลาดครบวงจร (Matching Model) โดยอาหารของชุมชนต้องกระจายไปสู่ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและตลาดชุมชน(2) อุทยานอาหารปลอดภัยโอเดียน ทำเพื่อชุมชนเมือง ห้างโอเดียนแฟชั่นมอลล์ ผู้บริหารมมีแนวคิดหลักเน้นขายอาหารท้องถิ่นและผู้ประกอบการต้องมาเป็นผู้ปรุงเองขายเอง  (3) ตลาดต้นปริกโดยชุมชน เพื่อชุมชน ใช้แนวคิดตลาดควรบริหารจัดการโดยภาคประชาชน  (4) ตลาดกรีนเวย์อาหารปลอดภัยเล่นกับคนรุ่นใหม่ ใช้ระบบการจัดเก็บรายได้ตามจำนวนเปอร์เซ็นต์ของยอดขายมีกิจกรรมสร้างการเรียนรู้ร่วมกันของร้านค้า และผู้บริโภค  (5) ตลาดเปิดท้ายอาเซียน ยุคปลอดโฟม-ยกคุณภาพชีวิต (6) ตลาดเปิดท้าย ตลาดเกาะหมี โดยผลักดันแนวคิด “ตลาดนัดเกาะหมี ตลาดวิถีไท” (7) ตลาดน้ำคลองแห ตลาดน้ำแห่งแรกของภาคใต้  สร้างความตระหนักให้กับร้านค้าเรื่องเมนูสุขภาพ เพื่อสร้างจุดขายใหม่ และ (8) ตลาดทัวร์รัถการ บทบาทเทศบาลหาดใหญ่ พัฒนาแผงขายให้มีมาตรฐาน อาหารปลอดภัย

  • —บทเรียนตลาดเขียว ตลาดอาหารปลอดภัย ตลาดทางเลือก โครงการขับเคลื่อนนโยบายความมั่นคงทางอาหารและการบริโภคผักผลไม้ที่ปลอดภัย เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ยั่งยืน 

สาระสำคัญ ตลาดเขียว เป็นนวัตกรรมการสร้างความรอบรู้ด้านอาหาร สานสัมพันธ์ผู้ผลิตและผู้บริโภคทำให้มีโอกาสรู้จักที่มาของอาหาร เข้าใจกระบวนการผลิต เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน สร้างความมั่นคงทางอาหารที่ยั่งยืน  โดยให้ความสำคัญกับ 4 ประเด็น ต่อไปนี้  (1)  แนวคิดหลัก ตลาดเขียวเป็นตลาดที่เชื่อมโยงผู้ผลิตและผู้บริโภค สร้างระบบการกระจายอาหารปลอดภัยหลากหลาย สะท้อนวัฒนธรรมอาหาร เป็นฐานความมั่นคงทางอาหาร และสร้างเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น ฟื้นฟูวิถีชีวิต สร้างพฤติกรรมการผลิต การบริโภคที่เอื้อต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดี  (2) ตลาดเขียวต้องมีความรู้ 4 เรื่อง คือ ความรู้ในการจัดตั้งตลาดทางเลือก  ตลาดสร้างความรู้ ตลาดมีชีวิต และเท่าทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง (3)  10 ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเป็นที่นิยม  (4)  รายชื่อตลาดเขียว(ใหม่) 10 แห่ง 

  • —ชุดบทเรียนต้นแบบของแหล่งจำหน่ายและแหล่งให้บริการ ผัก ผลไม้เพื่อการบริโภคที่ปลอดสารพิษ/ปลอดภัย โครงการพัฒนาความรู้และปฏิบัติการขับเคลื่อนระบบเกษตรกรรมยั่งยืนและอาหารปลอดภัยเพื่อสุขภาวะ

สาระสำคัญ สรุปบทเรียนได้ 4 ประเด็น ดังนี้  (1) ต้องมีการทำตลาดที่หลากหลายรูปแบบหลากหลายระดับ (2) ตลาดหรือช่องทางการตลาดที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายและต้องเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนกลุ่มไหนบ้าง (3) การรับรองมาตรฐานมีความจำเป็น สำหรับช่องทางการตลาดเพราะเสมือนเป็นใบรับรองให้วางสินค้าหรือขายสินค้าภายใต้เงื่อนไขมาตรฐานของช่องทางนั้นๆ  และ (4) ให้ตลาดเป็นมากกว่าตลาดการแลกเปลี่ยนซื้อสินค้า แต่ตลาดกลายเป็นพื้นที่สร้างการเรียนรู้ในแง่ต่างๆ หลายประการ

  • —คู่มือการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการกระจายและบริการอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภค 

สาระสำคัญ ผลการวิจัยสรุปได้ 6 กระบวนการ ดังนี้  (1) ศึกษาข้อมูลการกระจายและบริการอาหาร ปลอดภัย สู่ผู้บริโภค (2) ประชุมหารือร่วมกับกลุ่มเกษตรกรเพื่อหารูปแบบการกระจายและบริการอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภค (3) จัดทำ/ทบทวนแผนธุรกิจการกระจายและบริการอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภค  (4) พัฒนาและยกระดับการกระจายและบริการอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภค  (5) พัฒนาผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ และ (6) ติดตาม ประเมินผล และถอดบทเรียนเสริมพลัง (Empowerment) ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องบนฐานทุน ศักยภาพ และภูมิปัญญาของเกษตรกร

  • —VDO. EP 150 ร้านอาหาร เพิ่มบุญ จ. ฉะเชิงเทรา 

สาระสำคัญ  ร้านอาหารเพิ่มบุญ เป็นร้านอาหารเมนูเพื่อสุขภาพ มีการแนะนำเมนูอาหารของร้านที่เน้นให้ครบตามสูตรเมนูชูสุขภาพ ไม่ใช้เนื้อสัตว์ใช้อาหารทดแทนโปรตีน และใช้ผักจากชุมชนปลอดสารพิษ 

  • —บทเรียนความรู้พื้นที่ดาวเด่น แนวทางการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมโหนดโรงพยาบาลสีเขียว 

สาระสำคัญ    สรุปได้ ดังนี้ 

 (1) การวิเคราะห์จุดคานงัดและทางออกที่ส่งผลให้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วย           

 (ก) การสร้างภาคีพี่เลี้ยง ต้องมองหาคนที่จะเป็นแกนนำหลักในพื้นที่สามารถสร้างพลังหนุนเสริมให้แกนนำหลัก   (ข) สร้างและขยายเครือข่ายได้ทั้งในและนอกพื้นที่ (ค) มีแพลตฟอร์ม (Platform) กลางที่ช่วยในการพัฒนาระบบงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเชื่อมโยงข้อมูลได้ในทุกระดับ ทุกหน่วยงานสามารถเข้าถึง และนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้  (ง) ข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใส แปลความหมายได้ และ (จ) มีโครงสร้าง กลไก นโยบาย  เพื่อกำหนดทิศทาง ความร่วมมือในการขับเคลื่อนงาน และเปิดโอกาสให้พื้นที่ทำงานเชิงบูรณาการข้ามหน่วยงาน  ข้ามกระทรวง 

 (2) กระบวนการแก้ปัญหา :  (ก) ด้านนโยบาย ผลักดันให้เกิดนโยบายทั้ง 2 ระดับ คือ ระดับกระทรวงและระดับโรงพยาบาล (ข) ด้านกลไกบริหารจัดการ สร้างระบบการจัดการการรับซื้อผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรให้มีขั้นตอนที่เป็นระบบและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีความสะดวกในการส่งผลผลิตแนวทางการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมโหนดโรงพยาบาลสีเขียว ให้แก่โรงพยาบาล เนื่องจากขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่าย ยังมีความซับซ้อนทำให้เกษตรกรไม่อยากส่งผลผลิตให้แก่โรงพยาบาล  (ค) ด้านองค์ความรู้ การให้ความรู้ และความแตกต่างในด้านของการฟื้นฟูและป้องกันแก่ผู้ป่วยในจากการรับประทานอาหารตามมาตรฐานคุณภาพของโภชนาการและความปลอดภัยในอาหารของโรงพยาบาล  และ (ง) เครือข่ายความร่วมมือ ทำข้อตกลงร่วมระหว่างโรงพยาบาลกับเครือข่ายเกษตรกรที่ผลิตผลผลิตปลอดสารพิษ

  • —VDO. และ Infographic แนะนำโครงการพัฒนาราชบุรีโมเดล (12 รายการ) 

สาระสำคัญ  ราชบุรีโมเดล คือ การพัฒนารูปแบบการเชื่อมโยงผู้ผลิตผู้บริโภคเกษตรอินทรีย์เชิงบูรณาการ หมายถึง การพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยวิถีการบริโภคเกษตรอินทรีย์บนจิตสำนึกรับผิดชอบของสมาชิก ในบรรยากาศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปัน การร่วมออกแบบที่เหมาะสม สอดคล้องกับวิถีชีวิต/วัฒนธรรมชุมชน 

  • —ผังการเชื่อมโยงการผลิตการบริโภคพืชผักอินทรีย์ (ราชบุรีโมเดล) 

สาระสำคัญ เป็นการบูรณาการครอบคลุมทั้งต้นน้ำ (แหล่งผลิต) กลางน้ำ (การเชื่อมโยง) และปลายน้ำ (แหล่งบริโภค) เพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างมั่นคงคงและยั่งยืน ประกอบด้วย (1) แหล่งผลิตเกษตรอินทรีย์ คือผู้ผลิตที่สำนึกรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ได้แก่ (ก) พัฒนากระบวนการผลิต/ทักษะการผลิต (ข)  แปรรูปผลผลิตตามหลักโภชนาการ (ค) นำข้อแนะนำผู้บริโภคมาวิเคราะห์ ออกแบบและพัฒนาการผลิต  (ง) ดำเนินการพัฒนาแหล่งผลิต ออกแบบการเพาะปลูกต่อเนื่องตามชนิดพืชผัก ผลไม้ และ (จ) ติดตาม ประเมิน เพื่อพัฒนากระบวนการผลิต  (2) ระบบ/จุดเชื่อมโยง หมายถึง การเชื่อมสัมพันธ์ผู้ผลิตผู้บริโภค :  (ก) การสื่อสาร/การขนส่งเชื่อมโยงที่เหมาะสม (ข)  การจัดจุดเชื่อมโยงต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารเชิงบวกระหว่างผู้ผลิต-ผู้บริโภค (ค) การจัดจุดเชื่อมโยงแบบเคลื่อนที่ตามหน่วยงาน/ตามโอกาส  และ (ง) การพัฒนาบบรรจุภัณฑ์/รูปแบบที่ตอบสมนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภค  (3) แหล่งบริโภค หมายถึง ผู้บริโภค ที่ร่วมรับผิดชอบต่อผู้ผลิต :  (ก) ในพื้นที่/ชุมชน  (ข) ในชุมชนที่มีวิถีชีวิตเฉพาะ/ช่วงวัย  (ค) ในสถานศึกษา/สถานพยาบาล/หน่วยงาน (ง) ผู้บริโภคตามจุดเชื่อมโยงต่างๆ  และ (4)  สื่อสำหรับกลุ่มวัยต่างๆ เช่น กินผักดี เป็นเด็กดี (สื่อสำหรับเด็ก) ของดีมีในผัก (สื่อวัยทำงาน) กินผักดี มีประโยชน์ (สื่อผู้สูงอายุ) และของดีมีในผัก (สื่อสำหรับแรงงานเมียนมาร์) 

  • —รายงานกระบวนการพัฒนาราชบุรีโมเดล การเชื่อมโยงผู้ผลิตผู้บริโภคเกษตรอินทรีย์อย่างเป็นบูรณาการ 

สาระสำคัญ ประกอบด้วย 7 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่  (1) กิจกรรมการสำรวจ ศึกษาข้อมูล การลงพื้นที่ การเตรียมทีมงาน (2) กิจกรรมการศึกษา และแลกเปลี่ยนเรียนรู้/เผยแพร่แนวคิดเกษตรแบ่งปันแก่ผู้ผลิต-ผู้บริโภคที่สนใจเข้าโครงการฯ  (3) กิจกรรมการจัดทำร่าง-ออกแบบ-พัฒนากระบวนการผลิต รูปแบบระบบ/ศูนย์เชื่อมสัมพันธ์ ผู้ผลิตและผู้บริโภคผลผลิตเกษตรอินทรีย์โดยตรงในจังหวัดราชบุรี (ราชบุรีโมเดล)  (4) กิจกรรมการจัดทำร่าง-ออกแบบ-พัฒนา ขยายระบบเครือข่ายแหล่งผลิตและแหล่งจำหน่ายผู้บริโภคเกษตรอินทรีย์ ในเขตจังหวัดราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงระบบและกลไกความเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต/ผู้บริโภคผ่านสื่อ/หน่วยเคลื่อนที่   (5) กิจกรรมถอดบทเรียน/องค์ความรู้ตามหน่วยงาน/ภาคี/เครือข่ายสู่การขยาย/พัฒนา “ราชบุรีโมเดล”  (6) กิจกรรมการขับเคลื่อนและสื่อสารแกนนำชุมชน/ท้องถิ่น  เพื่อการขับเคลื่อนระดับนโยบาย  และ (7) กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายอาหารรุ่นใหม่ ประกอบด้วย ร่วมกันถอดบทเรียน เยี่ยมเยียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างกำลังใจแก่ภาคีเครือข่ายอาหารรุ่นใหม่ 

  • —Infographic สถานีเกษตรแบ่งปัน ณ ราชบุรี 

สาระสำคัญ ประกอบด้วย 3 หมวด 7 กิจกรรม ดังนี้  หมวดที่ 1 ระบบสารสนเทศเพื่อรองรับการต่อยอดขยายผลการพัฒนาชุมชนต้นแบบฯ มี 3 กิจกรรม : (1) การศึกษาวิจัยเพื่อต่อยอดและยกระดับพื้นที่ชุมชนต้นแบบอาหารเพื่อสุขภาวะตามแนวทาง “ราชบุรีโมเดล” (2) การศึกษาวิจัยเพื่อปรับปรุงรูปแบบ “ราชบุรีโมเดล” ให้ครอบคลุมวิกฤติโควิด และ (3)  การศึกษาวิจัยเพื่อติดตามประเมินผลลัพธ์ที่นำสู่การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเป้าหมาย หมวดที่ 2 ระบบฐานข้อมูลสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการฯ มี 2 กิจกรรม : (4)  การออกแบบหลักสูตร/กิจกรรม เพื่อพัฒนาแกนนำ/สมาชิกชุมชน และ (5) การออกแบบเครื่องมือรองรับการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิต สู่การบริโภค หมวดที่ 3 ระบบฐานข้อมูลเศรษฐกิจชุมชนอาหารของชุมชน มี 2 กิจกรรม : (6) การออกแบบระบบฐานข้อมูล/เครื่องมือรองรับการออกแบบ “ระบบเศรษฐกิจชุมชน” และ (7) การจัดการความรู้และศึกษาวิจัยเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์และสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน 

  • —E-book โมเดลเกษตรแบ่งปัน 

สาระสำคัญเป็น 4 ส่วน ดังนี้  (1) กรอบคิด เป็นการปรับปรุงราชบุรีโมเดล โดยการปรับปรุงชื่อ แต่ยังคงเน้นการบูรณาการ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ + บูรณาการสู่บริบทชีวิต(ช่วงอายุ - กลุ่มปกติ-กลุ่มเฉพาะ-กลุ่มเปราะบาง) เพิ่มการครอบคลุมสมาชิกในชุมชนและต่างพื้นที่ (2)  การขับเคลื่อนสมาชิกชุมชนมุ่ง สู่พลเมืองอาหาร ภายใต้ระบบอาหารที่ยั่งยืน ด้วยการขับเคลื่อนชุมชนต้นแบบอาหารเพื่อสุขภาวะ ออกแบบระบบเศรษฐกิจชุมชนอาหารเน้นการบูรณาการ แหล่งผลิต จุดเชื่อมโยง และแหล่งบริโภค (3) นิยามศัพท์ : กลุ่มเฉพาะกลุ่มที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ แรงงานต่างด้าว กลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่มีข้อจำกัดในการดำเนินชีวิต รวมถึงสมาชิกและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน น.อักเนส สถานีแบ่งปัน และ (4) ภารกิจ/บทบาท (ก) การขับเคลื่อนและขยายผลชุมชนอาหารเพื่อสุข (ข) การเสริมสร้างชุมชนอาหารเพื่อสุขภาวะ                            และ (ค)  การพัฒนาชุมชนอาหารเพื่อสุขภาวะ กระบวนการของการเปลี่ยนแปลงในด้านสุขภาวะที่ดีของสมาชิกในชุมชน/เครือข่ายนอกพื้นที่/เครือข่ายอาหารเพื่อสุขภาวะ

  • —รายงานโครงการชุมชนเกื้อเกษตรอินทรีย์ โมเดลเกษตรอินทรีย์แบ่งปันสู่เศรษฐกิจแบ่งปัน

สาระสำคัญ กระบวนการพัฒนาชุมชนเกื้อเกษตรอินทรีย์ นวัตกรรมใหม่ ที่เชื่อมผู้ผลิตและผู้บริโภคเข้าด้วยกันด้วยระบบ Community Support Agriculture (CSA) ซึ่งมีการทำข้อตกลงว่า ผู้บริโภคและผู้ผลิตคือหุ้นส่วนผู้สนับสนุนความอยู่รอดของกันและกัน โดยผู้บริโภคต้องจ่ายเงินก่อนล่วงหน้าเพื่อสนับสนุนเกษตรกร ในระบบเคมีให้ปรับเปลี่ยนวิถีการผลิตมาเป็นเกษตรอินทรีย์ ประกอบด้วย 3 กระบวนการ คือ (1) กระบวนการ ค้นหาเตรียมความพร้อมชุมชนเกษตรอินทรีย์  (2) กระบวนการ ค้นหาและระดมทุนผู้บริโภคสีเขียว  และ (3) กระบวนการ เชื่อมโยงเกษตรอินทรีย์และผู้บริโภคสีเขียว 

  • —หนังสือเรื่องราวในผืนดิน โครงการเกษตรแบ่งปัน: จากชุมชนเกื้อเกษตรอินทรีย์สู่เศรษฐกิจแบ่งปัน 

สาระสำคัญ  เกิดจากการนำแนวคิดนำระบบเกษตรกรรมที่สนับสนุนโดยชุมชนเกื้อเกษตรอินทรีย์ มาปรับใช้ ในการสร้างความตระหนักเรื่องความมั่นคงทางอาหาร การแก้ปัญหาการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งปัญหาหนี้สินของเกษตรกร โดยมีระบบซื้อขายภายใต้ชื่อทางการค้าว่า  “ The Basket” ด้วยความเชื่อว่า “คนอยู่ได้ ป่าก็อยู่ได้” โดยการสร้างความตระหนักและเชื่อมโยงผู้บริโภคเข้ามาร่วมรับผิดชอบดูแลพื้นที่ป่าร่วมกับเกษตรกร ได้แก่ ผู้บริโภคในเมืองได้ประโยชน์จากป่าครอบครัว มีน้ำปราศจากการปนเปื้อน ก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ในการรักษาป่าครอบครัว แปลงละ 1,000 บาท แลกกับการดูแลรักษาพื้นที่ป่าคอรบครัวของเกษตรกรและแบ่งปันผลผลิตจากผืนป่าตามมูลค่าการสนับสนุนเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยให้ความสำคัญกับ (1) เศรษฐกิจแบ่งปัน  (2) อากาศแปรปรวน  (3) โครงการป่าครอบครัว  (4) เกษตรอินทรีย์จะไปต่อได้ต้องมุ่งเน้นความเป็นชุมชน/ผลผลิตท้องถิ่น แบ่งปันผลผลิตตามฤดูกาล และสมาชิกรับผลผลิตรายปีหรือรายเดือน และ (5) จุดอ่อน ของการพัฒนา ใน 3 ประเด็นคือ   (ก) ขาดฐานผู้บริโภคที่เข้มแข็ง (ข) การไม่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ส่งผลให้เกิดการทำงานแยกส่วน  และ (ค) ผู้บริโภคต้องเข้าใจธรรมชาติของผลผลิตเกษตรอินทรีย์

  • —รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการตลาดตะลั๊กเกี๊ยะ การเชื่อมโยงผู้ผลิต ตลาด และผู้บริโภค 

สาระสำคัญ การใช้ตลาดเป็นจุดจัดการและเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต / เครือข่ายด้านอาหารและสุขภาพสู่กลุ่มผู้บริโภค และมีการจัดกิจกรรมเพื่อเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดข้อมูลความรู้ด้านอาหารปลอดภัยและการส่งเสริมสุขภาพ ประกอบด้วย (1) การจัดตลาดที่เชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้จัดหาอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภค (2) การจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องอาหารและสุขภาพ โดยเชื่อมโยงเครือข่ายภาคีด้านสุขภาพของ สสส. เช่น โครงการคนไทยไร้พุง โครงการเด็กไทยไม่กินหวาน เครือข่ายลดเค็ม โครงการ Trust Food Good Truck  (3) การถอดบทเรียนความสำเร็จของการทำตลาด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาตลาดให้กับพื้นที่พอื่นๆ สรุปบทเรียนได้ 6 ประเด็นสำคัญ คือ (ก) การจัดตลาดอย่างสม่ำเสมอและเป็นพื้นที่รองรับการผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพที่ผู้ผลิตได้พบกับผู้ซื้อโดยตรง  (ข) การส่งเสริมตลาดสุขภาพ เปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ได้เข้ามาทดลองขายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ค) เครือข่ายเกิดการเชื่อมั่นในการทำงานหนุนเสริมซึ่งกันและกันสร้างการรับรู้ร่วมกัน  (ง) พื้นที่แห่งการถ่ายทอดความรู้เรื่องสุขภาพ อาหารปลอดภัย (จ) การสร้างตลาดไม่ควรคำนึงเฉพาะแค่มิติทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวแต่ต้องสำคัญถึงมิติเชิงสังคมที่จะสนับสนุนให้คนทุกช่วงวัยมาใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ  และ (ฉ) พื้นที่ตลาดสุขภาพในเขตเมืองต้องเป็นสินค้าคนในย่านที่ไม่ได้ปรุงอาหารเอง เน้นอาหารสำเร็จรูปที่ปลอดภัย

 

3.5.3 สื่อ ชุดความรู้ด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ

สื่อ ชุดความรู้ด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ  จำนวน 384 รายการ  

3.5.3.1 สื่อ ชุดความรู้ด้านฐานทรัพยากร/วิถีชุมชน

สื่อ ชุดความรู้ด้านฐานทรัพยากร/วิถีชุมชน 99 รายการ ประกอบด้วย

  • —หนังสือ เรื่อง ทุเรียนสวนเรา  

สาระสำคัญ ประวัติศาสตร์ ความหลากหลายของสายพันธุ์ทุเรียนที่พบในประเทศไทย และการนำความจริงทางวิทยาศาสตร์ มาช่วยวิเคราะห์ นำเสนอความหลากหลายทางพันธุกรรม การนำทุเรียนไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยงกับคุณค่าที่ลึกซึ้งของทุเรียน เพื่อให้ได้เข้าใจและมองเห็นความมหัศจรรย์ ความงดงาม และคุณค่าของทุเรียนที่มีอยู่ ในสวนของเรา เพื่อช่วยกันปกปักรักษา อนุรักษ์ และใช้ประโยชน์ เพื่อให้ความหลากหลายของทุเรียนอยู่คู่กับเราและสังคมต่อไป  

—ชุดความหลากหลายทางชีวภาพ และการบริโภคที่ยั่งยืน จำนวน 36 ชุด จัดกลุ่มดังนี้

(1) ขนุนและพี่น้อง สาระสำคัญ พืชในสกุลเดียวกันขนุนและจำปาดะที่เรารู้จักกันดี คือ สาเก มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกตะวันออก และแพร่หลายไปทั่วเขตร้อน โดยสายพันธุ์ที่ปลูกแพร่หลายในบ้านเราเรียก สาเกพันธุ์ข้าวเหนียว มีผลใหญ่ ผลสุกเนื้อเหนียว นิยมนำไปทำขนม เช่น แกงบวด สาเกเชื่อมซึ่งให้พลังงานสูง มีคุณค่าอาหารทั้งแคลเซียม และวิตามินหลากหลายชนิด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดระดับคอเลสเตอรอล ไตรกลี  เซอไรด์ และน้ำตาลในเลือด

(2) มะยงชิดและญาติความหลากหลายของสายพันธุ์ที่รังสรรค์โดยเกษตรกรรายย่อย สาระสำคัญ มะยงชิดเป็นสกุลเดียวกันกับ มะปริง มะปราง  เมื่อสุกจะมีสีเหลืองส้มหรือสีแดง ขนาดผลเท่าๆกับมะปรางไปจนถึงใหญ่กว่าไข่ไก่ ปลูกโดยใช้เมล็ดเป็นหลัก มีความหลากหลายของสายพันธุ์ต่างๆ ปลูกกันอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ที่ลุ่มภาคกลาง ภาคตะวันออก ไปจนถึงภาคเหนือ และภาคใต้   มีคุณค่าทางโภชนาการ ได้แก่ เบต้าแคโรทีน และวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันทำให้ไม่เจ็บป่วยง่าย เช่นโรคหวัดเป็นต้น

  • —สาแหรกของพืชสกุลส้ม และประวัติศาสตร์ของส้ม

 สาระสำคัญ  พืชสกุลส้มเกิดขึ้นบนโลกเมื่อประมาณ 12-15 ล้านปีก่อนโดยชนิดพันธุ์ (species) ของส้มแผ่ขยายออกไปครอบคลุมเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก  สกุลส้มมีชนิดหลักๆ  อยู่ 5 ชนิด ได้แก่  (1) ส้มโอ (Citrus maxima) ซึ่งมีแหล่งกำเนิดในประเทศไทยและแผ่นดินใหญ่ของคาบสมุทรอินโดจีน (2)  ส้มแมนดารินสายพันธุ์ดั้งเดิม (Citrus reticulata]) มีแหล่งกำเนิดในเอเชียตะวันออก (3)  มะงั่วหรือมะนาวควาย หรือส้มโอมือ (Citrus medica) แหล่งกำเนิดน่าจะอยู่ในเอเชียใต้ (4)  ส้มมิครานธา (Citrus micrantha) รูปร่างคล้ายมะกรูด แหล่งกำเนิดอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย และ (5) ส้มเปลือกหวานหรือส้มกิมจ๊อ "กัมควอท" 

  • —กระท่อมและญาติ พืชสกุล Mitra Gyna ในประเทศไทย

สาระสำคัญ พืชสกุลนี้พบในประเทศไทย  มีทั้งหมด 5 ชนิด (ในโลกมี 8 ชนิด) เป็นสมุนไพรมีประโยชน์ ได้แก่  (1) กระทุ่มน้ำ ใบแก้ท้องร่วง แก้ปวดมวนท้อง (2) กระทุ่มโคก เปลือกลำต้น ผสมรากก้านเหลือง รากต่อไส้  รากพีพ่าย และรากกะเจียน ต้มน้ำดื่ม แก้ปวดเมื่อย บำรุงเลือด (3) กระทุ่มใบเล็ก ยางจากใบรักษาดีซ่าน ใบบรรเทาปวดบวมรักษาแผล แก้ปวดกล้ามเนื้อ (4) กระทุ่มเนิน  เปลือก ต้มกินแก้ปวดแข้งปวดขา แก่น ต้มดื่มแก้ปวดท้อง แก้วิงเวียนศีรษะ (5) กระท่อม  ใบแก้ปวด ปวดท้อง รักษาเบาหวานแก้ไข้ ส่วนพืชในสกุลเดียวกันชนิดอื่นๆ ที่พบในโลกมีอีก 3 ชนิด ได้แก่ Mitra Gyna inermis (Willd.) Kuntze, Mitragyna tubulosa (Arn.) Kuntze, Mitragyna stipulosa (Dc.) Kuntze

  • —มะไฟและญาติ ผลไม้สกุล Baccaurea ที่รอวันเติบโต

สาระสำคัญ ผลไม้ในสกุลนี้พบในประเทศจีน เอเชียใต้ และตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทย พืชในสกุลนี้สามารถนำมาปลูกในระบบเกษตรผสมผสานร่วมกับไม้ผล ไม้ยืนต้นอื่นๆได้ดี ในประเทศไทยพบพืชในสกุลนี้ 12 ชนิด โดยชนิดที่รู้จักกันมีอยู่ 5 ชนิดได้แก่ (1) มะไฟ/ขี้หมี/ส้มไฟ    (2) มะไฟกา/มะไฟเต่า/ส้มไฟดิน  (3) มะไฟฝรั่ง/ละไม (4) จำปูลิง /จังโหร และ(5) ลังแข/ลำแข/มะแข

  • —รู้ก่อนนอนโรง'บาล ผลไม้บำบัด 

สาระสำคัญ ผลไม้บำบัด ผลไม้กลุ่มที่มีรสเปรี้ยว กลุ่มบำบัดและสรรพคุณทางยา  (ก) ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ระกำ  สะกำ สะลัก สละ หลุมพี มะม่วง มะดัน มะเฟือง สับปะรด มะกอก ส้มจื๊ด มะมุด กระท้อน  และ (ข) ผลไม้กลุ่มบำบัด เช่น ลิ้นจี่ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งอาการปวด กล้วย ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร  เงาะ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ  ชมพู่ ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง  ทับทิม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์  ฝรั่ง ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าน้ำผลไม้อื่นๆ ลดน้ำตาลในเลือดได้ มะเฟือง ชะลอความเสื่อมของร่างกาย ลดน้ำตาล ลดไขมันในเลือด  มังคุด ลดความเสี่ยงเส้นเลือดอุดตัน ป้องกันตับ และต้านเอดส์ และ ลำไย ให้พลังงาน วิตามิน ส่วนเนื้อและเมล็ดแห้งป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่

  • —รู้จักญาติๆของทุเรียน 30 ชนิด จักรวาลของทุเรียน และสารต้านอนุมูลอิสระ 

สาระสำคัญ  (ก) การปลูกทุเรียนของไทยพบมากหลายพื้นที่เกือบทุกภาค มีทั้งทุเรียนป่า ทุเรียนบ้าน ทุเรียนพันธุ์ 

 (ข) ลักษณะของต้นทุเรียนเป็นไม้ต้นไม่ผลัดใบ เมื่อมีอายุมากจะมีขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 40-60 เมตร   ผลของทุเรียนรูปทรงมีหลากหลาย เนื้อทุเรียนมีหลากสี หลายรส (ค) ความหลากหลายของพันธุ์ทุเรียน หากนำมาจัดแบ่งตามอายุจะแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่  ทุเรียนเบา เช่น กระดุมทอง  ทุเรียนกลาง เช่น ก้านยาว และทุเรียนหนัก เช่น พันธุ์กำปั่น 

การกินทุเรียนหมอนทองกับอาหารที่มีคลอเรสเตอรอล  ช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้ 16 % ลด LDL  ได้ 31.3 % ทุเรียนเป็นอาหารสุขภาพที่ให้คุณค่าในแง่พลังงาน มีโปรตีนมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ ให้ไฟเบอร์ แร่ธาตุอาหารต่างๆ ได้แก่ แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โปแตสเซียม เหล็ก สังกะสี แมงกานีส และทองแดง 

—Infographic ผักเซียงดา ราชินีผักพื้นบ้านภาคเหนือ จำนวน 5 ชุด แบ่งกลุ่ม ดังนี้

(1)  ผักเชียงดา ราชินีผักพื้นบ้านภาคเหนือ มีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือดได้ดี ลดความร้อนในร่างกายและมีวิตามินอีสูง                                                                         

(2) ฤดูกาลผักเชียงดาและการเก็บ  สาระสำคัญ ผักเชียงดา ปลูกง่าย ทนแล้ง สามารถปลูกได้แทบทุกภูมิภาค ยิ่งตัดแต่งเถา เด็ดยอด ก็ยิ่งแตกยอดได้ตลอดปี จะติดดอกในช่วงหน้าแล้ง(มกราคม-เมษายน) การเก็บรักษาเด็ดยอดและดอกที่ต้องการ ล้างทำความสะอาดตั้งน้ำให้เดือด ลวกในน้ำเดือด ประมาณ 3 นาที ตักขึ้นน๊อคด้วยน้ำเย็น  สีจะเขียวสดน่ากิน สะเด็ดน้ำ บีบน้ำออกให้มากที่สุด เก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็น

(3) เมนูอาหารจากเชียงดา สาระสำคัญ เมนูอาหารจากเชียงดา นอกจากแกงใส่ปลาแห้งแบบคนเหนือ ยังทำอะไรกินได้อีกมากมายหลายเมนูเลยทีเดียว ด้วยรสหวาน ออกขมนิดๆ สามารถนำมาทำแกงจืดออกมารสคล้ายแกงจืดตำลึงเอามาปรุงเป็นเมนูอื่นๆ  ก็ทำได้ เช่น เมนูผัดวุ้นเส้นผักเชียงดา เมนูดอกเชียงดาผัดไข่ เมนูหมูบะช่อดอกเชียงดา

  • —หนังสือ ปลูกด้วยรัก ปรุงด้วยใจ 

สาระสำคัญ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของอาหารที่ทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้นว่าอาหารมีความสัมพันธ์ต่อมนุษย์และธรรมชาติมากไปกว่าการกินเพื่อให้อิ่มท้องแต่เพียงอย่างเดียว เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้ทุกคนได้คิดถึงอาหารในแง่มุมใหม่ที่แตกต่างจากการรับรู้ในสังคม ส่งเสริมการบริโภคอาหารที่มีคุณภาพ และมีความสุขกับการมีชีวิตที่อิสระ และเลือกเองได้

  • —Poster เมนูปลูกด้วยรัก ปรุงด้วยใจ จำนวน 7 ชุด 

สาระสำคัญ การนำแรงบันดาลใจในการปรุงอาหารจากเข้าร่วมส่งร่วมประกวดผ่านกิจกรรมของห้องครัวคนเมือง นำมาสู่ 7 เมนู ปรุงอาหารกินเองที่บ้าน ได้แก่  (1) บะหมี่โมโรเฮยะแห้งคลุกน้ำมันงากระเทียมสด   (2) เกี๊ยวซ่าดอกแค  (3) แสร้งว่า fast food   (4) ยำละไม (5) แกงเลียงเบญจรงค์  (6)  ทอดมันผักข้างบ้าน  และ (7) ปลาอบพริกแกง

 

  • —หนังสือเรื่อง ผักยืนต้น กินผักอายุยืน โลกอายุยาว 

สาระสำคัญ หนังสือที่แนะนำให้รู้จัก 89 ชนิดผักยืนต้น โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับชื่อเรียกที่หลากหลายในแต่ละพื้นที่ วงค์ ชื่อวิทยาศาสตร์ ภาพวาดรายละเอียดของลักษณะ ลักษณะการปลูก การเจริญเติบโต รสชาติของผักยืนต้นแต่ละชนิด และวิธีการนำไปทำอาหารที่เคยรับรู้ และ 40 จานอร่อยผักยืนต้น

  • —หนังสือเรื่อง 50 สูตรอร่อยกับผักยืนต้นจาก 8 พื้นที่ความมั่นคงทางอาหาร 

สาระสำคัญ เป็นการรวบรวมและคัดเลือกสูตรอาหารที่ชุมชนชอบ ทำกินบ่อย มาเป็นฐานข้อมูลความหลากหลายของผักพื้นบ้าน ในจานอาหารแสนอร่อย เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการลองกิน ลองปรุง ค้นคว้าเสาะหาสูตรอาหาร และผักพื้นบ้านเพิ่มเติมยิ่งๆ ขึ้นไป โดยผักยืนต้นที่คัดเลือกมานำเสนอทั้งสิ้น 30 ชนิด เช่น แคป่า ชะมวง เชียงดา ทองหลาง ทำมัง ทุเรียนเทศ เพกา เม่า ส้มแขก หัวครก และเลียบ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยา

  • —ภาพพลิก “ปฏิทินข้าวใหม่” จำนวน 13 ชุด 

สาระสำคัญ รวบรวมข้าวราว 40 สายพันธุ์จากเครือข่ายพี่น้องชาวนาอินทรีย์ทั่วไทยมานำเสนอในแต่ละเดือนไม่ว่าจะข้าวนุ่มแสนอร่อย ข้าวร่วนที่เหมาะนำไปทำขนมหรือเส้นแป้ง หรือข้าวดอยเนื้อหนึบก็มีให้เลือกลองพร้อมช่องทางการติดต่อเกษตรกรโดยตรงให้ได้สนับสนุนกัน

  • —หนังสือเรื่อง กินดีมีสุข 2 แกงส้มจากป่านาเลเมืองพัทลุง 

สาระสำคัญ หนังสือที่นำเสนอความหมายและคุณค่าของแกงส้ม วิถีแกงส้มของคนพัทลุงซึ่งมีระบบนิเวศหลากหลาย ป่า นา เล เมนูอาหารพื้นบ้านแสนอร่อยของชาวใต้

  • —หนังสือเรื่อง น้ำพริกฐานทรัพยากรอาหาร วิถีชุมชน ภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ 

สาระสำคัญ หนังสือที่นำเสนอข้อมูลความเป็นมาและความสำคัญของน้ำพริก ความหมายและการจำแนกส่วนประกอบของน้ำพริก จากการรวบรวมสูตรน้ำพริก 312 สูตร ประเภทของน้ำพริก ความหลากหลายของทรัพยากรอาหารที่มีอยู่ในท้องถิ่น  พื้นที่ปลูก คุณค่าทางโภชนาการของน้ำพริก และความหลากหลายของสูตรน้ำพริกจาก 4 ภาค

  • —บทความ กินเปลี่ยนโลก กินอย่างรู้ที่มา จำนวน 11 บทความ 

สาระสำคัญ บทความในเว็บไซด์ชักชวนให้ทุกคนลองเปลี่ยนสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการปลูก การเลี้ยง ขนส่ง แปรรูป ขาย ตลอดจนสิ่งที่เกิดตามมา หลังจากเรากินเข้าไปแล้ว เช่น ปัญหาสุขภาพ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงความเหลื่อมล้ำ ความอยุติธรรมในสังคม ดังรายชื่อบทความ  และสาระสำคัญ 

  • —หนังสือนิราศอาหาร วิถีเกษตรกรรมธรรมชาติ 

สาระสำคัญ เป็นเรื่องราวการเดินทางตามหาวัตถุดิบเกษตรธรรมชาติ ในพื้นที่ของ MOA ไปขับเคลื่อนให้เกิดพื้นที่เกษตรธรรมชาติ นำกลับมาปรุงเป็น 11 เมนูอาหาร ได้แก่  (1) น้ำสต๊อกผัก  (2) น้ำพริกขี้กา (3) ทุเรียนเชื่อม (4)แกงกะหรี่ช็อกโกแลต (5) ต้มกะทิหน่อไม้สะตอกุ้งแห้ง (6) น้ำสลัดส้ม  (7) ผักกาดจอ  (8) แกงหลอกแห้วเนื้อน่องลาย (9) ข้าวจี่ (10) กาแฟดริป และ (11) ขนมจีนน้ำเงี้ยวสูตรชาวกรุง

  • —หนังสือ เรื่องเล่าเพื่อการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารชุมชนชาติพันธุ์และเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมือง  

สาระสำคัญ เป็นเรื่องเล่าเพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารชุมชนชาติพันธุ์และเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมือง เรื่องราวของอาหาร และเมนูอาหารของชนเผ่าต่างๆที่แสดงถึงคุณค่า วัฒนธรรม ความเชื่อด้านอาหารและความดีงามของชุมชน มีการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นจากผู้สูงอายุสู่คนรุ่นใหม่ คนในชุมชนมีสุขภาพดี

—VDO ครัวหลังเขา เมนูอาหาร 18 ชาติพันธุ์ จำนวน 18 ชุด สำหรับเผยแพร่ให้สังคมได้เรียนรู้ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมด้านอาหารของชุมชนช 18 ชาติพันธุ์ผ่านเมนูอาหาร

—หนังสือครัวหลังเขา คุณค่าอาหารพื้นบ้าน 15 ชาติพันธุ์ 

สาระสำคัญ หนังสือที่นำเสนอความมั่นคงทางอาหาร ทั้ง 15 ชาติพันธุ์ คือ อาข่า ม้ง เมี่ยน ลีซู ลัวะ ดาราอาง ลาหู่ ปกาเกอญอ ไทลื้อ บีซู ขมุ คะฉิ่น ไทใหญ่ ไตหญ่า และถิ่น ที่ได้มาจากธรรมชาติ ระบบการเกษตรในไร่นาและการผลิตในรูปแบบการเกษตร ที่สั่งสมถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ตามวิถีชุมชน ซึ่งสัมพันธ์กับจารีตประเพณีที่แตกต่างกัน

  • —หนังสืออาณาจักรผักพื้นถิ่น จากวัฒนธรรมสู่นวัตกรรมการกิน  

สาระสำคัญ นำเสนอการเดินทางและสำรวจระบบนิเวศอาหารของสังคม ภูมิวัฒนธรรม นำสู่วิถีผักพื้นถิ่น ที่มีความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ มีวัฒนธรรม ประเพณี และอัตลักษณ์ของตนเองในการจัดการวัตถุดิบในการประกอบอาหารจากธรรมชาติ ซึ่งวัตถุดิบอาหารก็เป็นสมุนไพรในการรักษาหรือเป็นยาด้วยเช่นกัน โดยมีรายละเอียดของผักพื้นถิ่นจำแนกตามภาค/ภูมิศาสตร์/ภูมินิเวศ ตัวอย่างเมนูอาหารและเครื่องปรุงรสจากผักพื้นถิ่น  สรรพคุณ/ประโยชน์ของผักพื้นถิ่นต่อสุขภาพ  ตัวอย่างผักพื้นถิ่นตามฤดูกาล และตัวอย่างนวัตกรรมอาหารชนเผ่า

 

3.5.3.2 สื่อ ชุดความรู้ด้านการบริโภคอาหารที่ได้โภชนาการเหมาะสมตามวัย สำหรับประชาชนทั่วไป

สื่อ ชุดความรู้ด้านการบริโภคอาหารที่ได้โภชนาการเหมาะสมตามวัย สำหรับประชาชนทั่วไป จำนวน  221  รายการ 

ความรู้พื้นฐานด้านอาหารและโภชนาการสำหรับประชาชนทั่วไป 18 รายการ ดังนี้

  • —Infographic 1 ชุด มี 2 รายการ (1) เลือกอาหารอย่างไรให้บริโภคอย่างปลอดภัย และ (2) กินเท่าไหร่ถึงพอดี ปริมาณอาหารของคนแต่ละกลุ่มใน 1 วัน  

สาระสำคัญ แนะนำแนวทางการการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัยและแนวทางการจัดอาหารสำหรับกลุ่มวัยต่างๆ ดังนี้ ทารกแรกเกิด-6 เดือน แนะนำให้นมแม่ดีที่สุดเพราะนมแม่มีสารอาหารต่างๆที่ทารกต้องการครบถ้วน  วัยเด็ก ควรป้อนอาหารมื้อเล็กๆและอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้สด  แครอท แตงกวา วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และวัยสูงอายุ ควรจัดอาหารในปริมาณและสัดส่วนตามคำแนะนำของธงโภชนาการ 

  • —Roll up 1 ชุด มี 2 รายการ ได้แก่ (1) เนื้อสัตว์แปรรูป (Processed Meat และ (2) ข้อแนะนำการบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปในรูปแบบที่ไม่ก่อความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพ 

สาระสำคัญ ความหมายของเนื้อสัตว์แปรรูป วิธีการแปรรูปเนื้อสัตว์ ตัวอย่างอาหารแปรรูป อันตรายจากเนื้อสัตว์แปรรูป และข้อแนะนำการบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปในรูปแบบที่ไม่ก่อความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพ 

  • —Poster 1 ชุด มี 2 รายการ ได้แก่ (1) เนื้อสัตว์แปรรูปที่นิยมใช้เกลือไนไทรต์ สาระสำคัญ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เนื้อสัตว์แปรรูปที่นิยมใช้เกลือไนไทรต์ สารกันเสีย สารคงสภาพของสี และวัตถุเจือปนอาหารอื่นๆ (2) สารก่อมะเร็งจากกระบวนการปิ้ง ย่างเนื้อสัตว์แปรรูปจนไหม้เกรียม และกินเยอะไปไม่ดีนะ ถ้าจะกิน เลือกแบบไหน สาระสำคัญ แนะนำทางเลือกในการบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปที่ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ 3 รูปแบบ คือ แบบที่ หลีกเลี่ยงการปิ้ง ย่าง เนื้อสัตว์แปรรูปบนเตาถ่าน หรือการทอดไฟแรงจนเกรียมไหม้ ควรใช้ใบตองรอง เพื่อป้องกันอาหารไหม้เกรียม  แบบที่ 2 ก่อนปิ้ง ย่าง ทอด ควรหมักเนื้อสัตว์ด้วยสมุนไพร ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น กระเทียม กะเพรา โหระพา สาระแหน่ ขมิ้น ผักชี ฯ เพื่อลดปริมาณสารก่อมะเร็ง ที่เกิดจากการปิ้ง ย่าง ทอด  และ แบบที่ 3 ควรบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปร่วมกับผักผลไม้หลากสี ซึ่งมีสารต้านมะเร็ง เพื่อลดผลเสียต่อสุขภาพ

  • —Infographic หวาน มัน เค็ม " ใครกันแน่ร้ายกว่ากัน?” 

สาระสำคัญ นำเสนอประโยชน์และโทษของน้ำตาล น้ำมัน โซเดียม และปริมาณน้ำตาล น้ำมัน โซเดียม ที่ควรบริโภคใน 1 วัน ซึ่งแนะนำให้มีสัดส่วนของ น้ำตาล:น้ำมัน:โซเดียม= 6:6:1 ช้อนชา/วัน และควรออกกำลังกาย 30 นาที 5 วัน/สัปดาห์ กินผักผลไม้วันละ 5 ขีด)

  • —หนังสือ Healthy Food Hospital Model

สาระสำคัญ ถ่ายทอดบทเรียนการพัฒนาต้นแบบโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพในด้านการจัดบริการอาหารสุขภาพลดหวาน มัน เค็ม จาก 10 โรงพยาบาล จากการถอดบทเรียนสามารถสรุปออกมาเป็นโมเดลต้นแบบที่เข้าใจง่าย  “Healthy Canteen” ซึ่งสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ เพื่อให้เกิดเป็นโรงพยาบาล/สถานให้บริการของรัฐที่ให้บริการอาหารสุขภาพลดหวานมันเค็ม ที่มีความเหมาะสมตามหลักโภชนาการ

  • —Poster เมนูชูสุขภาพ 2:1:1 คืออะไร....!?! 

สาระสำคัญ ลดหวาน มัน เค็ม ลดพุง ลดโรค ด้วยการบริโภคให้ถูกส่วนในอัตรา 2:1:1 โดยแบ่งขนาดของ จานข้าวออกเป็น 4 ส่วน คือผักผลไม้ 2 ส่วน เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ 1 ส่วน ข้าวและแป้ง 1 ส่วน ใน 1 จานควรให้พลังงาน ไม่เกิน 400 กิโลแคลอรี่

  • —หนังสือเมนูชูสุขภาพ อาหารไทย 4 ภาค 

สาระสำคัญ รวบรวมข้อมูลสูตรอาหารสุขภาพ ที่ได้จัดเตรียมและปรุงขึ้นตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการขับเคลื่อนโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพในด้านการจัดบริการอาหารสุขภาพลดหวาน มัน เค็ม ประกอบด้วยวิธีทำ โดยละเอียดพร้อมข้อมูลโภชนาการ 

  • —Tent card แสดงค่าแคลอรี แกงส้มผักรวม 

สาระสำคัญ แสดงค่าพลังงาน (แคลอรี) ของเมนูอาหารแต่ละจาน (โดยนักวิชาการด้านโภชนาการกรมอนามัย) เช่น เมนูแกงส้มผักรวม บ้านภูลิตา จำนวน 4 คน/เมนู พลังงานที่ได้รับ 117 แคลอรี่/คน

  • —แผ่นรองจาน 4 รายการ 

 (1) ไม่เติมแล้วนะ จะหวานไปถุงไหน สาระสำคัญ คำเตือนลดหวาน หยุดพฤติกรรมเสี่ยงเบาหวาน ลดการบริโภคหวาน มัน เค็ม ลดพุง ลดโรค 

(2) เยิ้มมาเชียว มันเยอะมาก สาระสำคัญ คำเตือนลดมัน หยุดพฤติกรรมเสี่ยงโรคหลอดเลือดแดงหัวใจ ลดการบริโภคหวาน มัน เค็ม ลดพุง ลดโรค  

(3) เบามือหน่อยเค็มเกินไปแล้ว สาระสำคัญ คำเตือนลดเค็ม หยุดพฤติกรรมเสี่ยงโรคความดันโลหิตและไตวาย ลดการบริโภคหวาน มัน เค็ม ลดพุง ลดโรค 

(4) หยุด! พฤติกรรมเสี่ยงโรค ลดบริโภคหวาน มัน เค็ม สาระสำคัญ คำเตือนหยุดพฤติกรรมเสี่ยงโรคด้วยลดบริโภคหวาน มัน เค็ม ลดการบริโภคข้าว-แป้ง เลือกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้

  • —Roll up 3 รายการ 

 (1) กินหวานแค่ไหนไม่ป่วย สาระสำคัญ อันตรายและผลเสียต่อสุขภาพของการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปคือโรคอ้วน ปริมาณน้ำตาล ที่เหมาะสมใน 1 วัน ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาหรือ 24 กรัม และเทคนิคง่ายๆในการบริโภคเพื่อลดหวาน 6 ข้อ ประกอบด้วย (ก) ชิมอาหารก่อนเติมเครื่องปรุงทุกครั้ง  (ข) ไม่เติมน้ำตาลหรือรสหวานเพิ่มในอาหาร  (ค) ลดบริโภคแป้งขาว ธัญพืชขัดสี เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว (ง) หลีกเลี่ยงขนมหวานจัด เปลี่ยนมาเป็นบริโภคผลไม้หวานน้อย (จ) หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวาน เช่น น้ำอัดลม ชา กาแฟ (ฉ) ควรอ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทุกครั้ง

(2) กินมันแค่ไหนไม่ป่วย สาระสำคัญ อันตรายและผลเสียต่อสุขภาพของการบริโภคไขมันที่มากเกินไปคือเสี่ยงต่อสภาวะอ้วนลงพุง โรคหัวใจและหลอดเลือด ปริมาณน้ำมันที่เหมาะสมใน 1 วัน ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาหรือ 30 กรัม และแหล่งที่มาของไขมันและน้ำมันในอาหาร มี 3 แหล่ง คือ  จากธรรมชาติ (น้ำมันหมู หนังไก่) จากการปรุงอาหาร (การทอด การผัด) และจากการแปรรูปอาหาร  (ไส้กรอก เบเกอรี่ กุนเชียง) 

(3) กินเค็มแค่ไหนไม่ป่วย สาระสำคัญ อันตรายและผลเสียต่อสุขภาพของการบริโภคเค็มมากเกินไปคือโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจฯปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมใน 1 วัน ไม่ควรเกิน 1 ช้อนชา หรือ 2,000 มิลลิกรัม และแหล่งของโซเดียมในอาหารมี 5 แหล่ง คือ จากธรรมชาติ การปรุงอาหาร  การแปรรูปอาหาร  อาหารสำเร็จรูป และจากขนมขบเคี้ยว

สื่อ ชุดความรู้สำหรับลดพฤติกรรมการบริโภคหวาน   Infographic  40 รายการ  ประกอบด้วย

  • —น้ำตาล ยิ่งกิน ยิ่งง่วง 

สาระสำคัญ ให้ความรู้เรื่องผลของน้ำตาลต่อสมองของเด็ก เช่นกระตุ้นการหลั่งสารเซโรโทนิน ส่งผลให้รู้สึกง่วงนอน เฉือยชา เด็กที่กินหวานมากๆมีโอกาสขาดสารอาหารชนิดอื่น เช่น วิตามินบีและแคลเซียม ส่งผลต่อพัฒนาการและการเติบโตได้ 

  • —เช็คด่วน คุณกำลังติดหวาน อยู่หรือเปล่า

สาระสำคัญ  พฤติกรรม 10 ข้อที่บ่งบอกว่ากำลังติดหวาน : (1) รู้สึกว่าอยากขนมหวานอยู่เรื่อยๆ (2) รู้สึกเหนื่อยล้า หงุดหงิด (3) รู้สึกหิวบ่อย (4) คิดถึงอาหารอยู่เรื่อยๆ (5) กินคาวแล้วตามด้วยหวานเป็นประจำ (6) มีของหวานติดตู้เย็นเสมอ (7) ชอบผลไม้รสหวาน  (8) ชอบผลไม้แห้ง ดอง หรือแช่อิ่ม (9) เติมน้ำตาลในอาหารทุกจาน และ (10) เลือกดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม แทนน้ำเปล่า 

  • —ดื่มน้ำเปล่า ไม่เปล่าประโยชน์ 

สาระสำคัญ ควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดวันละ 8 แก้ว เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากการเสียเหงื่อ ระบบขับถ่าย และการหายใจออก ประโยชน์ของการดื่มน้ำเปล่า เช่น ช่วยให้ผิวพรรณสุขภาพดี  เจือจางแร่ธาตุลดความเสี่ยงโรคนิ่วในไต ดูแลระบบเผาผลาญอาหารและไขมัน 

  • —เครื่องดื่ม 0 แคล ทำไมยิ่งดื่ม ถึงยิ่งอ้วน

สาระสำคัญ ผลของน้ำตาลเทียมต่อความเสี่ยงภาวะอ้วนลงพุงและตัวอย่างเครื่องดื่มที่ช่วยให้สดชื่นโดยไม่มีน้ำตาล เช่น น้ำเปล่า โซดาไม่ผสมน้ำตาลหรือน้ำแร่อัดก๊าช เครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล และน้ำผลไม้คั้นสด 

  • —ดาร์กชอกโกแลต กินแล้วดี ช่วยลดน้ำตาล 

สาระสำคัญ ประโยชน์ของดาร์กชอกโกแลต เป็นแหล่งของสารพอลิฟินนอล และกาก้า ให้เส้นใยอาหาร ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดกลิ่นปาก ลดความเครียด มีสมาธิ ป้องกันโรคภูมิแพ้ ในแต่ละวันแนะนำให้กินได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัม (พลังงานประมาณ 500 กิโลแคลอรี)

  • —ชานมไข่มุก” ปากได้อร่อย แล้วร่างกายได้อะไร

สาระสำคัญ ชานมไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงาน 240-360 กิโลแคลอรี ใกล้เคียงการกินเย็นตาโฟ 1 ชาม น้ำตาลเท่ากับข้าว 3-4 ทัพพี 

  • —เครื่องดื่ม 3 in 1 แฝงอะไรมาบ้าง 

สาระสำคัญ 90% เป็นครีมเทียม และน้ำตาล อีก 10% เป็นกาแฟ โกโก้ และอื่นๆ ผลกระทบต่อสุขภาพ ครีมเทียม มีไขมันทรานส์ เสี่ยงเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และ 3 in 1 มีน้ำตาลมากเสี่ยงโรคอ้วน โรคฟันผุ  และติดหวาน

  • —“นมข้นหวาน” เปลี๊ยนไป๋?!? แถมไม่ดีต่อสุขภาพยิ่งกว่าเดิม 

สาระสำคัญ อาหารที่มีนมข้นหวาน เช่น เครื่องดื่มชง ราดบนขนม และจิ้มขนม ส่วนประกอบของนมข้นหวานเปลี่ยนไป จากเดิมผลิตจากนมและน้ำตาล ปัจจุบันผลิตจากน้ำมันปาล์ม กูลโคสไซรับ นมผงขาดมันเนย บัตเตอร์มิลค์ผง เวย์ผง กลายเป็นครีมเทียมข้นหวาน เป็นแหล่งรวมศัตรูของสุขภาพเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน และไขมันอุดตันเส้นเลือด

  • —ทำไม ไม่ควรให้เด็กกินแต่ “นมรสหวาน” 

สาระสำคัญ นำเสนอผลเสียจากนมรสหวาน เช่น โตมาติดหวาน น้ำหนักเกินเสี่ยงโรคอ้วน โรคเบาหวาน ฟันผุ แนะนำวิธีป้องกันเด็กติดหวาน เช่น ดื่มนมวัว นมถั่วเหลือง และวิธีการแก้ไขเด็กติดหวาน เช่น ใส่ผลไม้ในนมรสจืด  ค่อยๆลดปริมาณรสหวาน 

  • —รวมตัวแถมอันตรายที่มากับของหวาน 

สาระสำคัญ สารอันตรายที่แฝงมากับของหวานและผลเสียในระยะยาวต่อร่างกาย เช่น ชาเย็น แถมคาเฟอีน ทำให้นอนไม่หลับ ใจสั่น ไม่มีสมาธิ น้ำอัดลม แถมกรดคาร์บอนิก มีผลกัดกร่อนกระดูกและฟัน ขนมปังสอดไส้ แถมสารกันบูด ทำให้คลื่นไส้ ปวดท้อง อาเจียน

  • —คุกกี้ 🍪 เสี่ยง (อันตราย) อาจเป็นโรคได้นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย!

 สาระสำคัญ คุกกี้เพิ่มความเสี่ยงต่อร่างกาย เช่น มีไขมันทรานส์ น้ำตาลสูงและสารกันบูด สะสมในร่างกายเสี่ยง เบาหวาน มะเร็ง และโรคไต

  • —ชุดความรู้ ทำไมเราถึง “ติดหวาน” 1 ชุด มี 5 รายการ (1) 4 ขั้นตอนของการติดหวาน

 สาระสำคัญ ขั้นตอนที่ 1 เวลากินของหวาน สมองจะกระตุ้นให้หลั่ง “โดปามิน” ทำให้มีความสุข  ขั้นตอนที่ 2 กินบ่อยๆจนสมองชินกับรสหวาน จนไม่รู้สึกหวาน” และกินหวานเพิ่มขึ้น ขั้นตอนที่ 3 เพื่อให้มีความสุข เท่าเดิมร่างกายจึงต้องการ “ความหวานมากขึ้น” ขั้นตอนที่ 4 อยากของหวานมากขึ้นเรื่อยๆ   (2) เราอยู่ช่วงไหนสรุประดับของความติดหวาน สาระสำคัญ มี 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 “กินก็ได้ ไม่กิน ก็ดี”  ระดับที่ 2 “กินคาว ต้องกินหวาน” และ ระดับที่ 3 “เสพหวานเป็นมื้อหลัก”  (3)  เราจะเลิกติดหวานได้อย่างไร  และ (4) ติดหวานสู่เลิกหวาน  (5) วิธีเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สาระสำคัญ ไม่ปรุงรสเพิ่ม เลือกผักผลไม้ไม่หวานมากมีไฟเบอร์สูง  ดื่มน้ำเปล่า 8-10 แก้ว/วัน ค่อยๆปรับลดขนมหวานจากทุกวันเป็นวันเว้นวัน แล้วลดลงไปเรื่อยๆ  เลิกซื้อขนมมาตุนไว้  และอ่านฉลากเลือกซื้อที่มีน้ำตาลต่ำ 

  • —“กินอย่างไร” ให้ติดหวานน้อยลง  1 ชุด มี 6 รายการ : (1) จัดน้ำเปล่าแทนน้ำหวาน (2) ฝึกอ่านฉลาก 

สาระสำคัญ 4 วิธี/เทคนิคฝึกตนให้ติดหวานน้อยลง ดังนี้ ให้โควต้าดื่มน้ำหวานที่เหลือดื่มน้ำเปล่า ตั้งราคาน้ำหวานให้สูงกว่าราคาน้ำเปล่า จัดเครื่องดื่มในตู้เย็นให้มีแต่น้ำเปล่า และฝึกอ่านฉลากโภชนาการ  (3) เริ่มจากปรับพฤติกรรมหวานน้อยสั่งได้  สาระสำคัญ แนะนำให้เลือกอาหารที่มีน้ำตาลน้อย โดยลดความหวานแบบค่อยเป็นค่อยไป และปรับระดับความหวานทุกๆ 1 อาทิตย์จะเริ่มชินกับการไม่กินหวาน เช่น ปรับความหวานจากระดับ 3 >50% (4 ช้อนชา) มาเป็นระดับ 2 ความหวานระหว่าง 25-50% (2 ช้อนชา) ระดับ 1 ความหวาน <25% (1 ช้อนชา) และระดับ 0 (ครึ่งช้อนชา) รวมทั้ง (4) เลือกอาหารที่มีน้ำตาลน้อย สาระสำคัญ  แนะนำอาหารที่มีน้ำตาลน้อย เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท กินธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง นมรสจืด ผลไม้สดน้ำตาลน้อย  น้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาล  นอกจากนี้เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวานได้จัดทำ (6) VDO เพลงหวานน้อยสั่งได้ สำหรับใช้ในการรณรงค์ลดความหวานในการบริโภคเครื่องดื่ม ที่มีน้ำตาลตามร้านกาแฟหรือร้านที่จำหน่ายเครื่องดื่มชง เพื่อให้ประชาชนลดพฤติกรรมการบริโภคหวานได้อย่างต่อเนื่อง   

  • —ความลับของน้ำตาล แต่ละชนิด (1 ชุด มี 6 รายการ) 

สาระสำคัญ แนะนำให้รู้จักน้ำตาล 5 ชนิด ได้แก่ น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลไอซิง และน้ำตาลในผลไม้ โดยอธิบายถึงแหล่งที่มา แหล่งที่พบ และข้อควรระวังในการบริโภค 

  • —สรุปผลไม้ต่างๆ มีน้ำตาลหวานน้อยแค่ไหน

สาระสำคัญ แบ่งระดับความหวานของผลไม้ออกเป็น 4 ระดับ คือ หวานมาก (น้ำตาลมากกว่า 6 ช้อนชา) เช่น อินทผาลัม ลูกเกด ลูกชิดแห้ง พุทราจีน หวานปานกลาง (น้ำตาล 4.1-6 ช้อนชา) เช่น ลิ้นจี่ กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า มะม่วง หวานน้อย (น้ำตาล 2.1-4 ช้อนชา) เช่น น้อยหน่า พลับ เชอรี แก้วมังกร และหวานน้อยมาก (น้ำตาล 0-2 ช้อนชา) เช่น ฝรั่ง แตงโม มะพร้าวอ่อน แตงไท

  • —น้ำตาลผัก ผลไม้ VS น้ำตาลเติมเอง  

สาระสำคัญ เปรียบเทียบน้ำตาลจากธรรมชาติในผักผลไม้และน้ำตาลที่เติมในอาหารในด้านปริมาณ ผลต่อสุขภาพ และปริมาณที่ควรบริโภค ซึ่งผลการเปรียบเทียบชี้ชัดว่าน้ำตาลจากผักผลไม้สดจะมีปริมาณน้อยกว่าจากเครื่องดื่มชาไข่มุก ช็อกโกแลต และน้ำอัดลม ประมาณ  2–6 เท่า และผักผลไม้สดจะมีผลดีต่อสุขภาพมากกว่า เช่น ดูดซึมช้า มีไฟเบอร์ วิตามิน อิ่มท้องนาน ปริมาณผักผลไม้ที่ประชาชนควรบริโภคเพื่อการมีสุขภาพดีอย่างน้อยวันละ 400 กรัม สำหรับน้ำตาลไม่ควรเกินวันละ 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม

  • —ขนมไทยแต่ละชนิด หวานแค่ไหน

สาระสำคัญ นำเสนอตัวอย่างปริมาณน้ำตาลในขนมไทย 100 กรัม และแบ่งเระดับความหวานของขนมไทยเป็น 4 ระดับ ดังนี้  หวานมาก (น้ำตาล > 24 กรัม) เช่น ขนมหม้อแกงไข่ ขนมชั้น ขนมฝอยทอง  ขนมทองหยอด  หวานค่อนข้างมาก (น้ำตาล 16.1-24 กรัม) เช่น ข้าวเหนียวสังขยา ขนมเปียกปูน วุ้นกะทิ ลูกชุบ หวานปานกลาง (น้ำตาล 8.1-16 กรัม) เช่น ลอดช่องน้ำกะทิ ขนมถ้วย ข้าวต้มมัดไส้กล้วย ขนมบ้าบิ่น  หวานน้อย (น้ำตาล 0-8 กรัม) เช่น ขนมถั่วแปบ ขนมครก เฉาก๊วย เผือกฉาบ 

  • —กินไม่ติดหวาน รู้จักเลือกทาน ตามอาหาร 4 สี  

สาระสำคัญ เป็นการแบ่งอาหารออกเป็นโซนสี 4 สี ตามความมาก-น้อยของปริมาณน้ำตาล ไขมัน เกลือ  โดยโซนสีเขียว ควรกิน เป็นอาหารที่ไม่มีน้ำตาล มีไขมัน เกลือต่ำ (เครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล ผักผลไม้ แป้งหยาบ  เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว ธัญพืช  โซนสีเหลือง กินได้บางครั้ง เป็นอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน เกลือต่ำ (เครื่องดื่มน้ำตาลต่ำ ผลไม้แปรรูปไม่ผสมน้ำตาล ขนมไทยรสไม่หวานจัด โซนสีส้ม กินน้อยๆนานๆที เป็นอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน เกลือสูง แต่มีประโยชน์ เช่น เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 5% ผักผลไม้แปรรูป/แยม กล้วยเชื่อม เนื้อสัตว์ ถั่ว โซนสีแดง ไม่ควรกิน เป็นอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน เกลือสูง ไม่มีประโยชน์ เช่น น้ำหวาน ลูกอม เยลลี ขนมหวาน เนื้อสัตว์แปรรูปที่ผลิตจากเศษเนื้อปนไขมันสูงผสมสารเคมีและเกลือสูง 

  • —กินคาว ไม่กินหวาน ไม่เป็นไร 

สาระสำคัญ ให้ความรู้เรื่องผลเสียของการติดกินหวานที่นำไปสู่โรคอ้วน โรคเบาหวานและภาวะเสพติดความหวาน และแนะนำแนวทางการเลือกอาหารที่มีสารอาหารทดแทนกันได้ดีต่อสุขภาพ/ให้ประโยชน์มากกว่า  เช่น เลือกขนมปังโฮสวีท แทนขนมปังปิ้งราดน้ำตาล  เลือกวุ้นกะทิ แทนโดนัท เค้ก

  • —รวมของ “แทนกันได้ ” อยากกินขนมแต่ไม่อยากอ้วน 1 ชุด มี 6 รายการ 

สาระสำคัญ แนะนำอาหารที่รับประทานทดแทนกันได้ โดยเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับจากอาหารทดแทนแต่ละชนิด เช่น เลือกขนมปังโฮลวีท (มีใยอาหารสูง)แทนขนมปังที่ทำจากแป้งสาลีขัดขาว เลือกเค้กช็อกโกแลตอะโวคาโดสูตรหวานน้อยไร้เนยที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารจำเป็น (โฟเลท โซเดียม โพแทสเซียม) แทนเค้กช็อกโกแลตใส่เนย ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวสูงและคอเลสเตอรอลสูง เลือกกินกล้วยบด อินทผาลัมแทนช็อกโกแลตชิพ เลือกอัลมอนด์สไลด์แทนช็อกโกแลตชิพ เลือกครีมโยเกริ์ตแทนวิปครีม

ชุดความรู้และสื่อสำหรับลดพฤติกรรมการบริโภคไขมัน   Infographic 38 รายการ  ประกอบด้วย           

  • —มารู้จักไขมันกัน 6 รายการ (1) หนังสือ มารู้จักไขมันกัน  (2) VDO มารู้จักไขมันกัน Ep.1  (3) มารู้จักไขมันกัน (Infographic 3 รายการ) และ (4) VDO ไขมันคืออะไร ทำไมต้องพอดี 

สาระสำคัญ ให้ความรู้เรื่องไขมันคืออะไร  หน้าที่ของไขมัน ชนิดของไขมันในอาหาร ชนิดของไขมันในเลือด ผลของไขมันแต่ละชนิดต่อร่างกาย ผลกระทบต่อสุขภาพจากการกินอาหารคอเลสเตอรอลสูง ปริมาณไขมันที่ควรได้รับใน 1 วัน และข้อแนะนำการบริโภค 

  • —ไขมันในอาหาร Infographic 1 รายการ 

สาระสำคัญ ประกอบด้วยกรดไขมันหลายชนิด มักเรียกชื่อตามกรดไขมัน (Fatty acid) ที่พบ แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ (ก) กรดไขมันดี ได้แก่ กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (ข) กรดไขมันร้ายๆดี ได้แก่ กรดไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล (HDL-C คอเลสเตอรอลดัวดี  LDL-C คอเลสเตอรอลตัวร้าย) อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงจะมีคอเลสเตอรอลสูงด้วย  และ (ค) กรดไขมันวายร้ายแน่ๆ ได้แก่  ไขมันทรานส์ 

  • —ชนิดของไขมัน Infographic 6 รายการ  (1) ไตรกลีเซอไรด์ (2) ไขมันทรานส์ (3) คอเลสเตอรอล (4) HDL & LDL สาระสำคัญ ไขมันแต่ละชนิดคืออะไร แหล่งอาหารที่มีไขมันแต่ละชนิด ผลกระทบต่อสุขภาพหากมีไขมันในเลือดสูง และข้อแนะนำในการบริโภคไขมันที่ดีต่อสุขภาพ (5) คอเลสเตอรอลมันดีหรือร้ายกันนะ  และ (6)  กินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงมากไปมีผลเสียนะ 

สาระสำคัญ  คอเลสเตอรอลในเลือดคืออะไร แหล่งอาหารที่มีคอเลสเตอรอล ชนิดของคอเลสเตอรอลในเลือด แหล่งที่มาของคอเลสเตอรอลในเลือด หน้าที่ต่อร่างกาย และผลกระทบของคอเลสเตอรอลในเลือดสูงต่อร่างกาย 

  • —ไขมันอิ่มตัว  (Saturated fat) 

สาระสำคัญ แหล่งอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวพบได้ทั้งไขมันจากสัตว์ เช่น เนื้อติดมัน หนังไก่ นม เนย เนื้อสัตว์แปรรูป และไขมันจากพืชบางชนิด เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ หรือขนมที่ทำจากเนย นม ไข่ กะทิ น้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวมากเหมาะสำหรับทอดอาหาร ข้อควรระวังคือ กินมากเกินไปมีผลต่อการเพิ่ม LDL ตัวร้าย และ HDL ตัวดี ในเลือด เพิ่มโอกาสเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือด เสี่ยงโรคหัวใจ

  • —ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat)  

สาระสำคัญ  แบ่งเป็น 2 ชนิด คือกรดไขมันไม่อิ่ม ตัวเชิงเดี่ยว (Mono-unsaturated fatty acid) พบมากในไขมันจากพืชประเภทมะกอก อโวคาโด นัท ถั่วลิสง  และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Poly-unsaturated fatty acid) พบมากในไขมันจากพืชประเภท ถั่วชนิดต่างๆ นัท ข้าวโพด เมล็ดทานตะวันรำข้าว นอกจากนี้ยังพบในไขมันปลาบางชนิด เช่น แซนม อน ทูนา ซาร์ดิน หากกินในปริมาณที่เหมาะสมจะมีประโยชน์ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกาย ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดอุดตัน โดยเฉพาะไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงได้มากกว่าเชิงซ้อน

  • —ไขมันทรานส์ 4 รายการ Infographic 2 รายการ (1) ไขมันทรานส์ ระวัง Trans fat ไว้ให้ดี (2) ไขมัน ทรานส์ตัวร้าย  และ VDO 2 รายการ  "ไขมันทรานส์" คืออะไร มาทำความรู้จักกัน!! และ เพื่อนๆ ที่ชอบกินเบเกอรีโดยเฉพาะ ครัวซองต์  มาฟังทางนี้หน่อยครับ!!!  

สาระสำคัญ  ไขมันทรานส์เป็นกรดไขมันชนิดหนึ่ง เป็นไขมันตัวร้ายที่ส่งผลเสีย ต่อสุขภาพมากกว่าไขมันอิ่มตัว ส่งผลต่อการเพิ่ม LDL & HDL ทำให้เกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดสูง จากงานวิจัย การสำรวจและเฝ้าระวังปริมาณไขมันทรานส์ในอาหารและจัดทำมาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสมในประเทศไทยพบว่า ไขมันทรานส์พบมากที่สุดในครัวซองต์ WHO แนะนำให้บริโภคไขมันทรานส์ไม่เกิน 1% ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน (หรือ 0.5 กรัมต่อมื้อ) 

  • —เมื่อไขมันเข้าสู่ร่างกาย 3 รายการ Infographic 2 รายการ VDO 1 รายการ (1) เมื่อไขมันเข้าสู่ร่างกายจะเกิดอะไรขึ้นนะ และ (2) ค่าไขมันในใบตรวจสุขภาพบอกอะไรเราได้บ้าง 

สาระสำคัญ ให้ความรู้เรื่องชนิดของไขมันในเลือด ค่าที่เหมาะสมของไขมันในเลือดแต่ละชนิด ความเสี่ยงเมื่อค่าไขมันในเลือดแต่ละชนิดผิดปกติ และแนวทางการควบคุมไขมันในเลือดเบื้องต้น ซึ่งค่าไขมันในเลือดที่เหมาะสม สรุปได้ ดังนี้ ไตรกลีเซอไรด์ ไม่ควรเกิน 150 มก./ดล. คอเลสเตอรอลรวม ไม่ควรเกิน 200 มก./มล. LDL-Cholesterol (คอเลสเตอรอลไม่ดี) ไม่ควรเกิน 100 มก./มล. HDL-Cholesterol (คอเลสเตอรอลดี) ผู้ชาย ควรมากกว่า 40 มก./ดล. และผู้หญิง ควรมากกว่า 50 มก./มล. สำหรับ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรมีค่า LDL น้อยกว่า 70 -100 มก./มล. หรือตามแพทย์พิจารณาเป็นรายๆไป 

  • —การบริโภคไขมันที่ดีต่อสุขภาพ Infographic 11 รายการ (1) กินไขมันให้พอดีต้องกินอย่างนี้ (2) กินไขมัน ให้พ้นโรค (3) ใน 1 วันควรบริโภคอาหารที่มีไขมันเท่าไรถึงจะดีต่อสุขภาพ (4) ข้อแนะนำในการกินไขมัน (5) กิน ไขมันในปริมาณไขมันที่เหมะสม  (6) ระวังอย่ากินเยอะ  (7)  กินไขมันอิ่มตัวในปริมาณน้อย ร้อยละ 10  (8) หลีก เลี่ยงอาหารไขมันสูง  (9) ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว  (10) กินอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวทดแทนไขมันอิ่มตัว (11) Good fat  for Good Life  

สาระสำคัญ ปริมาณไขมันในอาหารที่เหมาะสมและการแบ่งสัดส่วนการกินไขมัน  ชนิดของไขมันในอาหาร กล่าวคือ ใน 1 วัน แนะนำให้เลือกบริโภคอาหารที่มีไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสม บริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวในปริมาณน้อย และบริโภคอาหารไขมันไม่อิ่มตัวทดแทนไขมันอิ่มตัว ไม่ควรบริโภคไขมันเกินร้อยละ 30  ของพลังงานทั้งหมด วัยรุ่นและชายวัยทำงานควรได้รับพลังงานจากอาหาร วันละ 2,000 กิโลแคลอรี ได้รับไขมันไม่เกิน  600 แคลอรี หรือประมาณ  65 กรัม/วัน  สำหรับเด็กอายุ 6-13 ปีและหญิงวัยทำงาน ควรได้รับพลังงานจากอาหารวันละ 1,600 กิโลแคลอรี ได้รับไขมันไม่เกิน 480 แคลอรี หรือประมาณ 53 กรัม/วัน  โดยแบ่งสัดส่วนการกินไขมัน ดังนี้ ไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10%  ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 10-20% และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 6-10% ชนิดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น ไข่นกกระทาทอด  5 ฟอง (50 กรัม) มีไขมันอิ่มตัว 3 กรัม คอเลสเตอรอล 255 มิลลิกรัม น้ำมันหมู 1 ช้อนกินข้าว (12 มล.) มีไขมันอิ่มตัว5 กรัม 

  • —Infographic 3 รายการ  (1) % Thai RDI 

สาระสำคัญ คือร้อยละของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อ 1 วัน ของคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป โดยแนะนำปริมาณไขมันชนิดต่างๆสำหรับผู้ที่ต้องการพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี่  ควรได้รับต่อวัน ดังนี้ ไขมันรวม 65 กรัม ไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า 20 กรัม ไขมันทรานส์ น้อยกว่า 2 กรัม  และคอเลสเตอรอล น้อยกว่า 300 มิลลิกรัม  (2) ตัวอย่างอาหารจานโปรดของคุณจะมีไขมันเท่าไหร่กันนะ (3)  แกงเขียวหวาน อาหารจานโปรด  1 ถ้วยตวง มีไขมันรวม 11.6 กรัม  ไขมันอิ่มตัว 7 กรัม คอเลสเตอรอล 59 มิลลิกรัม ไม่มีไขมันทรานส์   

  • —กินอย่างไรถึงจะดีนะ ข้อแนะนำการกินไขมันในปริมาณเหมาะสม ไขมันอิ่มตัวน้อย กินไขมันไม่อิ่มตัวทดแทนไขมันอิ่มตัว ลดการกินอาหารไขมันสูง และออกกำลังกาย เพิ่มอาหารที่มีไขมันต่ำ ผักผลไม้ โดยมีเทคนิค 7 ข้อที่ควรปฏิบัติ ดังนี้ (1) เลือกกินอาหารไขมันไม่อิ่มตัวแทนไขมันอิ่มตัว เช่น กินธัญพืชที่มีใยอาหารสูง เช่น ข้าวกล้อง (2) ดื่มนมพร่องมันเนยแทนนมสดชนิดที่มีไขมันสูง  (3) กินเนื้อปลามากกว่ากินเนื้อสัตว์อื่น เพราะไขมันปลามีคุณภาพดีกว่าไขมันในหมู วัว ไก่ (4) กินโปรตีนจากพืชสลับกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้  (5) ถั่วชนิดต่างๆมีไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่าไขมันอิ่มตัว  (6) เพิ่มอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ผักผลไม้ โดยเฉพาะที่ให้กากใย เช่น คะน้า ผักกาดขาว ฝรั่ง ส้ม และ (7) ลดอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว เช่น เนื้อสัตว์ทอด อาหาร จานด่วน

ชุดความรู้และสื่อสำหรับลดพฤติกรรมการบริโภคเค็ม   7 รายการ ประกอบด้วย

  • —Infographic 2 รายการ (1) การสำรวจโซเดียมในอาหาร และ (2) ผลการสำรวจปริมาณโซเดียม แยกตามหมวดประเภทอาหาร (มก./100 มล.) 

สาระสำคัญ ความสำคัญของการสำรวจปริมาณโซเดียมในอาหาร วิธีใช้เครื่องวัดความเค็ม CHEM METER และผลการสำรวจปริมาณโซเดียมในอาหารพบว่าปริมาณโซเดียมในอาหารรวม   ทุกหมวดมีค่ามัธยฐาน เท่ากับ 306.56 มก./100 มล. อยู่ในระดับเริ่มเค็ม หมวดอาหารที่มีค่ามัธยฐานโซเดียมมากที่สุด คือหมวดส้มตำ และหมวดอาหารที่มีการตรวจพบปริมาณโซเดียมน้อยที่สุดคือหมวดผัด 

  • —รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการการสำรวจปริมาณโซเดียมและโซเดียมคลอไรด์ในผลิตภัณฑ์ประเภท ผงปรุงรส  

สาระสำคัญ รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์ประเภทผงปรุงรส ได้แก่ ซุปก้อน  ผงปรุงรส ผงปรุงอาหารสำเร็จรูป ผงชูรส ผงทำน้ำซุป และผงปรุงรสสำหรับขนมขบเคี้ยวที่จำหน่ายในเชิงพาณิชย์ จำนวน 252 ตัวอย่าง ผลการสำรวจระบุว่ามีโซเดียมเฉลี่ยสูงถึง 815 มก./1 ช้อนชา (ผงปรุงรส) หรือ 1,760 มก./1 ก่อน (ซุปก้อน)

  • —Infographic โซเดียมแฝง ที่ไม่ใช่เกลือ 

สาระสำคัญ แนะนำอาหารที่มีโซเดียมสูงจากส่วนประกอบที่มาจากโซเดียมแฝงในรูปแบบของสารที่ทำให้เนื้อสัมผัสนุ่ม สารกันบูด ผงฟู เช่น แฮม กุนเชียง แหนม น้ำสลัด แยม 

  • —Infographic วิธีใช้เครื่องวัดความเค็ม CHEM METER 

สาระสำคัญ แนะนำวิธีใช้เครื่องวัดความเค็ม CHEM METER ซึ่งร้านอาหาร/ประชาชนที่สนใจสามารถประเมินโซเดียมในอาหารได้โดยใช้เครื่องวัดความเค็มจุ่มลง ไปในอาหารเหลวที่ไม่ร้อน กดปุ่มเปิดเครื่องค้างไว้ หน้าจอจะแสดงผลค่าความเข้มข้นของเกลือโซเดียมเป็น %  (มก./100 มล.) ความเค็มและแสดงใบหน้า ดังภาพ จากนั้นปล่อยปุ่มเพื่อปิดเครื่อง ทำความสะอาดเครื่อง และเช็ดให้แห้ง

  • —รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการลดเค็มเลือกได้ (การอบรมเพื่อพัฒนาเมนูอาหารลดโซเดียมแก่ผู้ประกอบการ) 

สาระสำคัญ รายงานสรุปผลการดำเนินงานการอบรมเพื่อพัฒนาเมนูอาหารลดโซเดียมแก่ผู้ประกอบการ และได้มีการจัดทำเนื้อหาในรูปเล่ม 

  • —E-book ลดเค็ม เลือกได้ แนวทางการปรับลดโซเดียมในอาหารและผลิตภัณฑ์อาหาร 6 แนวทาง ดังนี้การใช้สารทดแทนเกลือ (Salt substitutes) การใช้สารเสริมกลิ่นรส (Flavor enhancers) การแต่งกลิ่นการใช้เครื่องเทศและสมุนไพร การดัดแปลงโครงสร้างและส่วนประกอบอาหาร (Food matrix modifications) และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในกระบวนการผลิต 

    โดยมีคำแนะนำ 5 แนวทางการปรุงอาหารลดโซเดี่ยม ได้แก่ 

    (ก) ลดการใช้เครื่องปรุงโซเดียมสูง ลดที่ละน้อยเพื่อให้คุ้นเคยกับรสชาติ 

    (ข) หลีกเลี่ยงการใช้ผงชูรส และผงปรุงรส หรือใช้ในปริมาณน้อย เท่าที่จำเป็น 

    (ค) ใช้น้ำสต๊อกในการปรุงอาหาร เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมให้อาหาร 

    (ง) ใช้เครื่องเทศและสมุนไพร เพื่อเสริมกลิ่นรสและรสชาติให้อาหาร 

   (จ) ถ้าอาหารมีรสชาติหวาน หรือเปรี้ยว เมื่อลดเครื่องปรุงที่มีรสเค็มลงอาจจะต้องปรับลดปริมาณน้ำตาลหรือน้ำมะนาว/น้ำมะขามเปียกลงด้วย เพื่อให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อม ตัวอย่างเมนูอาหารและเทคนิคการปรับลดโซเดียม 3 เมนู ได้แก่ น้ำตกคอหมูย่าง ผัดไทกุ้งสด และต้มข่าไก่ 

ชุดความรู้และสื่อสำหรับส่งเสริม/เพิ่มพฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้   18  รายการ  ประกอบด้วย

  • —ประโยชน์ของผักผลไม้ 4 รายการ  (1) Infographic ผักผลไม้ดีอย่างไร…ทำไมต้องกินให้เพียงพอ (2) Poster ประโยชน์ของผักผลไม้ในการลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง  (3) Roll up มหัศจรรย์ผักผลไม้ 5 สี  และ   (4) Infographic กากดีเหลือเกินนะเรา 

สาระสำคัญ ให้ความรู้เรื่อง (ก) ผลเสียของการกินผักผลไม้ไม่เพียงพอ เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค ในลำดับที่ 5 จาก 17 ปัจจัย (ข) สารพฤกษเคมีในผักผลไม้ ร่างกายไม่สามารถสร้างได้ต้องได้จากการกินผัก ผลไม้  หรือธัญพืชเท่านั้น เช่น สารคลอโรฟิลล์ในผักใบเขียว สารแคโรทีนนอยในผักผลไม้สีส้ม สารต่างๆเหล่านี้มีคุณสมบัติ ในการต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอาการอักเสบและช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ผักผลไม้และธัญพืชมีใยอาหารช่วยการขับถ่ายลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ และช่วยลดคลอเลสเตอรอล ไม่ดีในกระแสเลือดได้  (ค) ปริมาณผักผลไม้ที่ควรกินในแต่ละวัน ควรกินผัก 6 ทัพพี ผลไม้ 2 ส่วน โดยมี (ง) แนวทางการเลือกกินผักผลไม้ ดังนี้ เลือกผักผลไม้หลากหลายชนิด สลับหมุนเวียนกันไป เพื่อได้สารอาหารจากผักผลไม้ครบถ้วน

  • —ผักผลไม้อินทรีย์/ปลอดสาร 2 รายการ (1) Motion-graphic รู้จักผักผลไม้อินทรีย์ (2) Infographic วิธีทาน ผักผลไม้ให้ปลอดสาร 

สาระสำคัญ เพื่อการมีสุขภาพที่ดีแนะนำให้กินผักผลไม้อินทรีย์/ปลอดสาร โดยมี 5 วิธีกินผักให้ปลอดสาร ได้แก่ 

(ก) ปลูกผักกินเองที่บ้าน (ข) กินผักพื้นบ้าน  (ค) เลือกกินผักผลไม้ตามฤดูกาล  (ง) ล้างผักผลไม้ให้สะอาดก่อน กิน และ (จ) ซื้อผักปลอดสารพิษมาปรุงประกอบอาหาร

  • —ผักผลไม้สร้างภูมิ  Infographic 2 รายการ 

   (1) ปลูกผักสร้างภูมิ สู้ โควิด-19  สาระสำคัญ เพื่อความมั่นคงทางอาหารในภาวะวิกฤต ร่วมมือกันปลูกผักสร้างภูมิ สู้ โควิด-19  โดยใช้กลยุทธ์ 4 ภูมิ สร้าง “เกษตรในเมือง” สร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน ได้แก่ ภูมิปัญญา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนาสร้างเอกลักษณ์ชุมชน  เพิ่มทักษะชีวิตพึ่งพาตนเองในยามวิกฤต มีโอกาส มีกิน มีแบ่งปัน  ภูมิลำเนา  ตัวอย่างการทำเกษตรในเมืองบนพื้นที่ 1 ตารางเมตร  สามารถผลิตผักได้โดยเฉลี่ย 2-3 กิโลกรัม  ภูมินิเวศ ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ให้พื้นดิน คืนชีวิตชีวาให้กับพื้นที่รกร้างว่างเปล่าด้วยพื้นที่อาหาร และ ภูมิคุ้มกัน สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียนในชุมชน เกิดชุมชนเข้มแข็งด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีผักผลไม้ปลอดภัย หาซื้อได้ในชุมชน  และ (2) กินผักผลไม้ เสริมสตรองสู้โควิด สาระสำคัญ การกินผัก-ผลไม้ให้ได้สัดส่วน 400 กรัมทำให้ร่างกายได้รับวิตามินแร่ธาตุที่เพียงพอ เป็นการช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานดีขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค และเชื้อไวรัสต่างๆ โดยเฉพาะให้ภาวะโรคระบาด

  • —ข้อเสนอเชิงนโยบายและการขับเคลื่อนผักผลไม้ปลอดภัย 3 รายการ 

 (1) ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อส่งเสริมการบริโภคผักและผลไม้ปลอดภัยและเพียงพอด้วยระบบอาหารที่ยั่งยืน (Infographic 2 รายการ) 

สาระสำคัญ จากเวทีประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก ประเทศไทยได้มีข้อเสนอแนะเชิงนโนยบาย 2 ประเด็น คือ (ก) รัฐบาลควรประกาศวาระแห่งชาติ ให้ ปี 2564 เป็นปีแห่งการบริโภคผักผลไม้ และ (ข) ยกระดับ “ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการและการบริโภคผักผลไม้ที่ปลอดภัยและเพียงพอเป็นวาระแห่งชาติ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มข้นดำเนินการส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ที่ปลอดภัยและเพียงพอ รวมถึงการพัฒนากลไกและขับเคลื่อนการติดตาม เฝ้าระวังความปลอดภัยของผักผลไม้ และส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ตามเกณฑ์แนะนำ 

 (2) VDO Thai Health Promotion Foundation: International Year of Fruits and Vegetables สาระสำคัญ  นำเสนอการสร้างความร่วมมือการขับเคลื่อนการส่งเสริมการกินผักผลไม้ปลอดภัยและระบบอาหารยั่งยืนเพื่อความมั่นคงทางอาหาร

  • —VDO กินสบายใจ 1 ชุด มี 7 รายการ ประกอบด้วย (1) ละคร รักคนกินผักอินทรีย์ (2) ชวนไทอุบลฯ กินผัก (3) สรรพคุณของ "คะน้า"  (4) ปัญหาผักเหม็นเขียวในเมนูอาหารของแม่บ้านยุคใหม่จะหมดไป   (5) หลายคนมองว่าผักไม่อร่อย แต่ถ้าได้กินบ่อยๆ เดี๋ยวก็อร่อยไปเอง  (6) ทัวร์สุดสนุก สวนผักอินทรีย์อีสานอารมณ์ดี และ (7) "ฟันนี่บอล" เมนูหลอกเด็ก เมนูง่ายๆ ได้กินผักด้วย  

สาระสำคัญ ใช้สื่อละครในการสื่อสารสาธารณะเพื่อสร้างการรับรู้ ความตระหนักและส่งเสริมการบริโภคผัก ผลไม้อินทรีย์ให้กับประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ ความเข้าใจ และบริโภคผัก ผลไม้อินทรีย์ตามเกณฑ์มาตรฐานเพิ่มขึ้น

 

3.5.3.3 ชุดความรู้และสื่อสำหรับจัดการปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการบริโภคอาหารไม่สมดุล

ชุดความรู้และสื่อสำหรับจัดการปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการบริโภคอาหารไม่สมดุล 39 รายการ ประกอบด้วย Infographic 12 รายการ  E-book หนังสือ 3 รายการ Poster 7 รายการ และ VDO 17 รายการปัญหาสุขภาพและคำคม 3 รายการ ได้แก่ 

  • —7 โรคที่ต้องเสี่ยงถ้ากินหวานมากๆ 

สาระสำคัญ ให้ความรู้เรื่องโรคภัยจากการติดหวาน 7 โรค ได้แก่ โรคฟันผุ โรคอ้วน  โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2  โรคไขมันพอกตับ โรคข้ออักเสบ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง 

  • —“คนอ้วนมาก”เสี่ยง “โควิด-19” 

สาระสำคัญ ความเสี่ยงของผู้ที่เป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานต่อการติดเชื้อไวรัส โควิด 19 และวิธีลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค โดยแนะนำในรูปแบบของคำคม 4 ชุด ได้แก่  “ล้างมือ ลดเสี่ยงโควิด” “ลดน้ำตาลอีกนิด ลดเสี่ยงเบาหวาน” “ใส่แมสก์และล้างมือบ่อยๆ”และ“ไม่ได้เป็นหมอ แต่น้อยหน่อย เป็นห่วง”

  • —หนังสือวิธีรับมือกับ Long Covid 

สาระสำคัญ คำแนะนำการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายหลังป่วยโรคโควิด-19 ด้วยวิธีง่ายๆ แบบ “กินได้ กินดี” เช่น  (ก) ดื่มน้ำสะอาด วันละ 2-2.5 ลิตร จะช่วยชะล้างสารพิษในร่างกาย สร้างความชุ่มชื้น ฟื้นฟูสมดุล  (ข) กินอาหารสร้างภูมิต้านทาน ฟื้นฟูลำไส้ ด้วยอาหารไพรไบโอติกส์  (ค) กินอาหารเสริมความแข็งแรง ของจุลินทรีย์ตัวดีในร่างกาย (ง) หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นการอักเสบ  (จ) ฝึกลมหายใจเพื่อช่วยให้ปอดขยายตัว  (ฉ) นอนหลับให้มีคุณภาพ  (ช) ปรับสมดุลน้ำเหลือง ด้วยการเดินหรือออกกำลังกายรับแสงแดดยามเช้า  และ (ซ) ฝึกให้มีการขับถ่ายทุกวัน ในช่วงเวลา 6.00- 9.00 น.

  • —9 สัญญาณเตือนโรคเบาหวาน 

สาระสำคัญ แนะนำข้อสังเกตอาการของโรคเบาหวานที่ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจและรักษา ได้แก่ ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ คอแห้ง กระหายน้ำบ่อย หิวบ่อย/กินจุกว่าเดิม น้ำหนักตัวลด  โดยไม่ทราบสาเหตุ  แผลหายช้ากว่าปกติ อ่อนเพลีย ตาพร่ามัวมองไม่ชัดเป็นช่วงๆ ผิวหนังแห้ง/คัน และปลายนิ้วมือนิ้วเท้าชา   

  • —ภัยของโรคอ้วน 

สาระสำคัญ แนะนำวิธีการประเมินโรคอ้วนและโรคที่เกิดจากโรคอ้วน เช่น ใส่เสื้อผ้าตัวเดิมแล้วเริ่มอึดอัด คับ ต้องซื้อเสื้อผ้าไซล์ (size) ใหญ่ขึ้น วัดเส้นรอบพุงผ่านสะดือถ้ามีค่าเกินส่วนสูงหาร 2 แสดงว่าอ้วนลงพุง เสี่ยงโรค NCDs ที่มากับความอ้วนมากขึ้น เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคนิ่วในถุงน้ำดี และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

  • —หนังสือแนวโน้มอาหารและโภชนาการกับ NCDs 

สาระสำคัญ  ผลการวิเคราะห์แนวโน้มประเด็นอาหารและโภชนาการกับโรค NCDs ที่จะเป็นปัญหาในอนาคต เช่น  (1) ปัญหาโภชนาการของประชากรไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งด้านขาดและเกิน  (2) พฤติกรรมการบริโภคหวานมีแนวโน้มลดลง  (3) ปริมาณการจำหน่ายน้ำอัดลมและน้ำผลไม้มีแนวโน้มคงที่ แต่ผลจากภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทำให้ราคาจำหน่ายปลีกของน้ำอัดลม และชา กาแฟสูงขึ้น (4) พฤติกรรมการบริโภคอาหารรสเค็มเป็นประจำ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น  (5) พฤติกรรมการบริโภคอาหารไขมันสูงไม่ลดลง กลุ่มเด็กวัย 6-14 ปี มีการบริโภคอาหารไขมันสูงบ่อยกว่ากลุ่มวัยอื่น และ (6) พฤติกรรมบริโภคผักผลไม้ สัดส่วนของผู้บริโภคผักผลไม้ปริมาณต่อวันเพียงพอเพิ่มขึ้น และสัดส่วนผู้ไม่บริโภคผักผลไม้เลยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกันโดยการส่งเสริมการบริโภคผักและผลไม้ในประเทศไทยดำเนินงานโดยหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก ช่องว่างที่สำคัญคือขาดการติดตามประเมินผล 

  • —เทคนิคการปรับพฤติกรรมการบริโภคเพื่อลดโรคNCGs  Infographic 10 รายการ 

(1)เลือก "กินดี" ชีวิตห่างไกลโรค NCDs

สาระสำคัญ 4 เส้นทางสู่การมีสุขภาพดี (1) ดูข้อมูลแหล่งที่มาของอาหารที่จะกินว่ามีปริมาณน้ำตาล ไขมัน เกลือมากน้อยเท่าใด  (2) สังเกตพฤติกรรมการกินของตนเอง ลดปริมาณการกินให้เพียงพอกับร่างกาย หันมากินผักผลไม้ให้มากขึ้น  (3) ในทุกๆมื้อควรมีผักผลไม้เป็นส่วนประกอบ เน้นอาหารไทยพื้นบ้านเพื่อสุขภาพ เช่น  น้ำพริก แกงเลียง แกงส้ม  และ (4) สร้าง “สมดุล” ด้วยการ “กินให้ถูก ดูแลจิตใจ และออกกำลังกายเป็นประจำ  ทำได้ 4 ข้อนี้   ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ห่างไกลการเจ็บป่วยด้วยโรค NCDs 

(2) มื้อนี้ดีต่อใจ  สาระสำคัญ ชวนเลือกอาหารจานดี เพื่อรักษาหัวใจไม่ให้เสี่ยงภัยกับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง และเพิ่มการกินอาหารที่มีเส้นใยมากขึ้น

(3) ลดกินเร็วให้เอวลด สาระสำคัญ คำแนะนำการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เทคนิคสำคัญคือลดสปีดการกินให้ช้าลงด้วยการเคี้ยวช้าๆเคี้ยวให้ละเอียด ฝึกทำให้เคยชินพฤติกรรมการกินเร็วจะลดลงได้ คนที่กินอาหารเร็วกว่า 20 นาที สมองจะสั่งการไม่ทัน ทำให้กินต่อไปเรื่อยๆ จนมากเกินไปก่อให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน การกินช้าลงจะช่วยให้เคี้ยวอาหารได้ละเอียดขึ้น ระบบย่อยอาหารดีตามมา และร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้เพิ่มขึ้น 

(4) โรคไม่ติดต่อเรื้อรังป้องกันได้ เมื่อกินผักผลไม้ให้เพียงพอ (7 รายการ)  สาระสำคัญ ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า (1) การกินผัก ผลไม้ที่เพียงพอจะลดอัตราการตายจากสาเหตุของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง นอกจากนี้ยังพบว่า การกินผักใบเขียวเพิ่ม 1 ส่วนต่อวัน จะลดโอกาสการเป็นเบาหวานได้ร้อยละ 10    และการกินผลไม้เพิ่ม 1 ส่วนต่อวัน จะลดโอกาสเป็นเบาหวานได้ร้อยละ 7  (2) เคล็ดลับจานสุขภาพ 2:1:1 ผัก 2  ส่วน เนื้อ 1 ส่วน ข้าว 1 ส่วน  (3) ตระกูลพืชผักผลไม้ ต้านมะเร็ง เช่น พืชตระกูลกะหล่ำ หอม กระเทีม ถั่วเหลือง และส้ม  (4) ผักที่มีวิตามินซีสูง เช่น ใบเหลียง  คะน้า พริกหวาน 

(5) อัญชัญ แนะนำวิธีการปลูกและเก็บเมล็ดพันธุ์

(6) ฟ้าทะลายโจร จากเมล็ดพันธ์สู่แคปซูล แนะนำขั้นตอนการปลูกและแปรรูป 

(7) ผักที่ช่วยแก้หวัดเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น กระเพรา โหระพา มะเขือเปราะ ผักวาน ถั่วพู มะระ กระชาย ขิง ข่า

ตำรับอาหารเป็นยาสมุนไพร 26 รายการ ดังนี้

  • —หนังสือตำรับอาหารเป็นยาสมุนไพรสมุนไพรและอาหารพื้นบ้านภาคใต้ 

สาระสำคัญ รายชื่อเมนูอาหาร สรรพคุณทางยา และตัวอย่างสูตรตำรับอาหาร จำแนกตามชนิดของโรค ดังนี้  (1)  ตำรับอาหารเป็นยาสมุนไพร แก้ไข แก้ไข้หวัด  แนะนำตัวอย่างสูตรอาหาร 4 เมนู : แกงเลียงหัวข่าอ่อน แกงเลียงยอดลำเท็งระกำ น้ำส้มแขก  (2) ตำรับอาหารเป็นยาสมุนไพร : โรคทางเดินอาหาร แนะนำตัวอย่างสูตรอาหาร 6 เมนู : น้ำตะไคร้-ใบเตย  ปลาทูต้มตะลิงปลิงขิง  เมี่ยงตะไคร้-ใบชะพลู  คั่วกลิ้งปลากระทือ  เมี่ยงปลาทู และแกงคั่วกุ้งหน่อกระวาน (3) ตำรับอาหารเป็นยาสมุนไพร:: บำรุงร่างกายช่วยเจริญอาหาร และชะลอวัย แนะนำตัวอย่างสูตรอาหาร   7 เมนู : แกงเลียงผักปลัง ข้าวยำเครื่องแกงปลาทูย่าง แกงเลียงขี้เหล็ก-น้ำย่านาง แกงคั่วชะพลูปู น้ำลูกหนามแดง ตำกระท้อนบ้าน  และชาเกสรบัวหลวง (4) ตำรับอาหารเป็นยาสมุนไพร: เบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด แนะนำตัวอย่าง   สูตรอาหาร 6 เมนู: สูตรยำบัวบก ยำหัวโหนด ชาโท๊ะ น้ำกระสังหญ้าใต้ใบ ยำบุพชาติ และน้ำหนานเป่าซู่  และ (5) ตำรับอาหารเป็นยาสมุนไพร : สำหรับหญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร ช่วยบำรุงน้ำนม เพิ่มธาตุไฟให้ร่างกายมารดาหลังคลอด แนะนำตัวอย่างสูตรอาหาร 6 เมนู : แกงเลียงหัวปลียำหัวปลีหัวปลีทอด   น้ำแก่นฝาง  ผัดมะละกอ และน้ำชุบพริก

  • —Poster สรรพคุณของผัก 1 ชุด มี 7 รายการ 

สาระสำคัญ แนะนำประโยชน์ของผักที่จำหน่าย มนูอาหาร และสิ่งที่ควรระวัง/คำเตือน  7 ชนิดผัก ได้แก่ ผักกวางตุ้ง ผักชะอม ผักกาดขาว ผักกวางตุ้งไต้หวัน ผักโขมจีน ผักจิงจูฉ่าย ต้นทองหลางน้ำ

  • —Infographic อาหารบำรุงตา ให้ข้อมูลรายชื่ออาหาร สารอาหาร และสรรพคุณบำรุงดวงตา 8 ชนิด ได้แก่ (1) พืชตระกูลเบอรี่ มีสารซีแซนทิบ บำรุงสายตา ชะลอจอประสาทตาเสื่อม (2) พริกหยวกเหลือง มีสารซีแซนทิบ ลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก  (3) ผักโขม คะน้า มีสารลูททีน ป้องกันต้อกระจก  (4) มะเขือม่วง ดอกอัญชัน มีสารแอนโทไซยานินและสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันตาพร่ามัว (5) แครอท มีสารเบต้าแคลอทีน วิตามินเอ และลูทีน ป้องกันโรคตาบอดกลางคืน (6) ไข่ มีสารลูทีน ซีแซนทีนและซิงค์ ลดความเสี่ยงจอประสาทตาเสื่อม (7) ปลา แซลมอน มีกรดไขมันโอเมก้า 3 DHA และโปรตีน ลดอาการตาแห้ง และ (8) อัลมอนล์ มีสารวิตามินอี ช่วยชะลอความเสื่อมจอประสาท
  • —YouTube เพื่อการเรียนรู้ VDO ธรรมชาติบำบัด โภชนบำบัด 1 ชุด มี 7 รายการ 

(1) เปลี่ยนร่างล้างโรคด้วยธรรมชาติบำบัด 5 ก 4 ล สาระสำคัญ  เน้นกินเป็น กินง่าย  กินภายใต้วัฒนธรรม กินตามกิจกรรมที่ใช้  กินให้เป็นยา ลดแป้ง  ละหวาน เลิกไขมันทรานซ์ สารปรุงรส เลี่ยงท้องผูก การทำความเข้าใจร่างกาย ฮอร์โมน อาหาร  ตามวิถีไทย 

 (2) ท่องเที่ยวสุขภาพ เที่ยวตามธาตุ สาระสำคัญ เรียนรู้ธรรมชาติ ผ่านการวิเคราะห์ธาตุและอาหาร จากพืชผักเกษตรอินทรีย์  จิตวิทยาการเกษตร เส้นทางต่อยอดจากแปลงเกษตรอินทรีย์ และ เกษตรธรรมชาติสู่การเรียนรู้สุขภาพผ่านธาตุที่คำนวน วัน เดือน ปี เกิด อย่างละเอียด บนฐานคิดการพัฒนาด้านจิตวิทยาเรียนรู้ร่างกาย และ ธาตุทั้ง 5 ของแต่ละคน เพื่อออกแบบการกิน เลือกผัก ผลไม้ บริโภคให้สอดคล้อง   กับธาตุ ออกแบบฮวงจุ้ยสุขภาพ ที่ทุกคนสามารถเรียนรู้และนำไปดูแลสุขภาพได้อย่างยั่งยืน 

 (3) ท่องเที่ยวสุขภาพ ฟาร์มผาสุข ศูนย์เรียนรู้ ฟื้นฟู บำบัด สุขภาพ ด้วยธรรมชาติบำบัด สุขภาพดี ไม่มีโรค คือเป้าหมายของเรา สาระสำคัญ เชิญชวนทุกท่าน มาเรียนรู้ แนวทางการดูแลสุขภาพ เปลี่ยนร่าง ล้างโรค ด้วยเทคนิคการเรียนรู้  ทำความเข้าใจเหตุแห่งความเจ็บป่วย  วิเคราะห์ร่างกาย ฮอร์โมน  อาหาร และการจัดสมดุลร่างกาย ผ่าน 5 ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง ท่ามกลางธรรมชาติเพื่อการเยียวยา รักษาสมดุล กรด ด่าง  ร้อน เย็น ของร่างกายฟื้นร่างจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง มาที่ฟาร์มผาสุข  เที่ยวฟาร์มเพื่อคุณได้สุขภาพดีกลับไปเป็นของขวัญ

(4) ท่องเที่ยวสุขภาพอุตรดิตถ์ เที่ยวบ้านนอกสบายดี สาระสำคัญ             กิจกรรมสร้างการเรียนรู้ และสร้างสรรค์ประสบการณ์ร่วมกัน ผ่านธรรมชาติ และกิจกรรมของชุมชน วิถีเกษตรอินทรีย์  เริ่มจากสร้างประสบการณ์แห่งความสุข และสนุกของเด็ก ขยายสู่ครอบครัว และขับเคลื่อนกระแสสร้างสรรค์ในชุมชน 

 (5)  ท่องเที่ยวสุขภาพ เที่ยวกล้วยๆ ด้วยมีดเล่มเดียว แบบวนเกษตร   สาระสำคัญ ท่องเที่ยวสุขภาพ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติแห่งขุนเขา  สวนผลไม้หลากหลายชนิดที่ปลูกแบบพึ่งพิง ระหว่างชาวบ้านและธรรมชาติ  เกื้อกูล และมีความหลากหลายทางชีวภาพ  เก็บพลังป่า และร่วมศึกษาเส้นทางธรรมชาติ  ผลไม้  ผัก หลากหลายชนิด 

 (6) ท่องเที่ยวสุขภาพ ภูเขากินได้  สาระสำคัญ  ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ และภูมิปัญญาที่เกิดจากการทำงานขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์มากว่า 10 ปี  สร้างสรรค์พื้นที่ทางการเกษตรให้กลาย  เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ 

 (7) ท่องเที่ยวชุมชน ตลาดสีเขียวโรงพยาบาลลับแล สาระสำคัญ ตลาดเพื่อสุขภาพของทุกท่าน ผลผลิต จากเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดให้บริการทุกวันพุธ 

—YouTube เพื่อการเรียนรู้ VDO กินได้ กินดี 1 ชุด มี 10 ตอน/รายการ ต่อไปนี้ 

EP 1 ตอน ฟื้นร่าง ล้างอาการลองโควิด -19

EP 2 ตอน ฟื้นไตด้วย กินได้ กินดี

EP 3 ตอน ความดันสูงรักษาได้ แค่เข้าใจอาหารการกิน เป็นยา

EP4 ตอนไขมันในเลือดสูง แก้ง่าย หายใน 3 เดือน

EP 6 เบาหวานแก้ง่ายแค่เข้าใจอาหารปรับฮอร์โมน

EP 7 ฟื้นฟูตับ กลับมาดูแลสุขภาพง่ายๆ

EP 8 ธรรมชาติบำบัด ในชีวิตประจำวัน

EP 9 รู้จักเอนไซม์ธรรมชาติ

EP 10 ภูมิแพ้ กรดไหลย้อน ท้องผูก นอนไม่หลับ บำบัดได้ สุขภาพดี

 

3.5.3.4 ชุดความรู้และสื่อการสร้างทัศนคติ ความรอบรู้ และทักษะด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ

ชุดความรู้และสื่อการสร้างทัศนคติ ความรอบรู้ และทักษะด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ  98 รายการ  ประกอบด้วย

—Infographic Food Literacy 1 ชุด มี 4 รายการ 

 (1) ความรอบรู้ด้านอาหาร คุณสมบัติและระดับความรอบรู้เรื่องอาหารที่สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อระบบอาหารเพื่อสุขภาวะ

 (2)  สังเคราะห์โหนดโรงพยาบาลเชียงแสน อธิบายการทำงานของโหนดโรงพยาบาลสีเขียว กรณีศึกษา รพ.เชียงแสนอ.เชียงแสน จ.เชียงราย ที่เปลี่ยนคนในพื้นที่ก่อนป่วยด้วยอาหารการกินที่ดี 

(3)  สังเคราะห์โหนดผู้บริโภคสวนผักคนเมือง เมื่อคนเมืองปลูกผัก เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างความมั่นคง  ทางอาหารในเมือง 

 (4)  โครงการ Young Food เมื่อเยาวชนเป็นนักปฏิวัติอาหารแห่งครัวเรือน

  • —Infographic ฉลากโภชนาการ 1 ชุด มี 5 รายการ (1) วิธีอ่านฉลากโภชนาการ: อ่านก่อนซื้อ

 สาระสำคัญ แนะนำ วิธีการอ่านฉลากโภชนาการแบบเต็ม ฉลากโภชนาการแบบย่อ ฉลาก GDA ข้อมูลสำคัญที่ควรอ่าน—VDO สัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ ทางเลือกของผู้บริโภคของคนยุคใหม่  สาระสำคัญ จากสถานการณ์สุขภาพคนไทยที่มีการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้น โดยมีสาเหตุจากภาวะโภชนาการเกินหรือโรคอ้วน และมาตรการจัดการปัญหาโรค NCDs ในประเทศไทย เช่น งดดื่มสุรา/สูบบุหรี่   การออกกำลังกาย การลดหวาน มัน เค็ม และการอ่านฉลากโภชนาการ จึงเกิดเป็นแนวทางการขับเคลื่อน Healthy Literacy สู่ Healthy People ทำให้เกิดเป็นเครื่องหมาย "ทางเลือกสุขภาพ" ขึ้น ความหมาย “สัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ”   คือ เครื่องหมายที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้ออาหาร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการมีภาวะโภชนาการที่เหมาะสม โดยมีการกำหนดให้มี น้ำตาล ไขมัน โซเดียม ผ่านเกณฑ์ กลุ่มอาหารที่มีการกำหนดเกณฑ์  13 กลุ่มอาหารซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

  • —Roll up ลดหวาน มัน เค็ม มองหาสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ” (2 รายการ) 

สาระสำคัญ ความหมายของโรค NCDs สาเหตุและแนวทางป้องกัน ประโยชน์ของสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ” ต่อการลดความเสี่ยงการเกิดโรค NCDs และตัวอย่างอาหารแต่ละกลุ่มตามเกณฑ์สัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” เช่น  กลุ่มอาหารมือหลัก กลุ่มเครื่องดื่ม  กลุ่มเครื่องปรุงรส  กลุ่มอาหารกึ่งสำเร็จรูป กลุ่มผลิตภัณฑ์นม และกลุ่มขนมขบเคี้ยว 

  • —Food Choice Application 1 ชุด มี 6 รายการ และ VDO 2 รายการ ประกอบด้วย (1) รู้ก่อนกินด้วย Food Choice Application  (2) อ่านฉลากไม่เข้าใจ  (3) .ให้ Food Choice เป็นตัวช่วยสิ (4) วิธีใช้งาน   (5) แต่ละสีบอกอะไร  (6) การดาวน์โหลด  และ (7) VDO เมื่อความหวานสามารถดูได้ด้วยแอป “Food Choice”  (2 รายการ)  

สาระสำคัญ  แนะนำ Food Choice application วิธีใช้งาน และช่องทางดาวน์โหลด Food Choice เมื่อสแกนบาร์โค้ดจากผลิตภัณฑ์ ข้อมูลบนฉลากโภชนาการจะถูกแสดงในรูปแบบสีไฟจราจรที่เข้าใจได้ง่าย ช่วยในการตัดสินใจเปรียบเทียบและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันที่มีพลังงาน น้ำตาล โซเดียม ไขมันอยู่ในเกณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว 

  • —บทความ 10 รายการ ประกอบด้วย 

(1) บริโภคผักผลไม้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม เพื่อสุขภาพ: หลักฐานเชิงประจักษ์

(2) ปริมาณกรดไขมันทรานส์ในอาหาร และการกำกับดูแลของประเทศไทย

(3)  โปรตีน สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย

(4) สถานการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นโยบายและมาตรการการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทย 

(5) ความรู้ใหม่เรื่องนมแม่กับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทย 

(6) น้ำตาล: ความเสี่ยง นโยบายและการขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมสุขภาพ

(7) สารให้ความหวานแทนน้ำตาลกับผลต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพช่องปาก 

(8) การทบทวนความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับโภชนาการและการกำหนดอาหารในผู้สูงอายุ

(9) การลดโซเดียม: บทบาทเชิงสุขภาพ มาตรการและปรับสูตรอาหาร

(10) เด็กอ้วน…..ปัญหาที่ท้าทายครอบครัวและสังคม

  • —หลักสูตรโภชนศึกษา รายงานโครงการส่งเสริมแหล่งผลิตอาหารสุขภาพวิถีธรรมชาติ เพื่อสุขภาวะ ครอบครัวและชุมชน 

สาระสำคัญ มี 3 หลักสูตร ได้แก่ 

(1) หลักสูตรโภชนศึกษาเพื่อสุขภาวะ ภาคทฤษฎีเรียนรู้สถานการณ์สุขภาพในปัจจุบันกรณีศึกษาประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย หลักโภชนาการเพื่อสร้างเสริมพลังธรรมชาติบำบัด ภาคปฏิบัติฝึกทำแบบประเมินสุขภาพตนเอง (พักผ่อน ออกกำลังกาย โภชนาการ) ฝึกปรุงและกินอาหารพื้นบ้านเพื่อสุขภาพด้วยวัตถุดิบเกษตรธรรมชาติที่เปี่ยมไปด้วยพลังธรรมชาติ 

(2) หลักสูตรการทำอาหารสุขภาพวิถีธรรมชาติ ภาคทฤษฎีเรียนรู้พืชผักตามฤดูกาลเพื่อสุขภาพ ภาคปฏิบัติสำรวจพืชผักอาหารพื้นบ้าน ค้นหา/นำเสนอเมนูสุขภาพที่เปี่ยมด้วยพลังชีวิตโดยใช้ผักพื้นบ้าน ฝึกปรุงและกินอาหารพื้นบ้านเพื่อสุขภาพ 

 (3) หลักสูตรการปลูกผักสวนครัว เรียนรู้และฝึกปฏิบัติ เรื่อง (ก) การปลูกผักสวนครัว MOA เพื่อสุขภาพ  (ข) การขยายพันธุ์และปลูกพืชที่เหลือในครัว (ค) บันทึกแบบตรวจพฤติกรรมตนเอง และแบบบันทึกการสังเกต (ง)  การปลูกต้นอ่อน และเรียนรู้การทำปุ๋ยธรรมชาติ  (จ) หลักปฏิบัติ 6 ประการเพื่อการปลูกพืชสนุกสุขภาพดี และ (ฉ) การเปลี่ยนแปลงร่างกายและจิตใจจากการเพลิดเพลินในการปลูกพืช บทบาทและตัวอย่างกิจกรรมของนักส่งเสริมการปลูกผักสวนครัว MOA เพื่อสุขภาพ 

  • —สื่อ ชุดความรู้สำหรับฝึกทักษะการปรุงประกอบอาหารเพื่อสุขภาวะ จำนวน 54 รายการ ดังนี้ 

(1) VDO Eat Right Cooking 17 รายการ  สาระสำคัญ แนะนำเมนูอาหาร ส่วนประกอบ และสาธิตวิธีการปรุงโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหาร เผยเคล็ดลับ   ความอร่อยเพื่อสุขภาวะ และการเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ ปลอดภัยด้วยผักผลไม้อินทรีย์ ได้ทั้งความอร่อย และสุขภาพดี กันทุกครอบครัว โดยทำการสาธิตทั้งหมด 17 เมนู ดังนี้ 

EP1 ปลาแซลมอนราดซอสไอโอลี่  EP2 เครปซูเซ็ทออร์แกนิค EP3 บรูสเก็ตต้าหน้าไข่ EP4 เต้าหู้ย่าง & ผักย่า

EP5 แซนด์วิชเต้าหู้  EP6 ข้าวต้มคีนัว  EP7 ข้าวซ้อมมือคีนัวถั่วแดง  EP8 สลัดข้าวฟ่าง  EP9 ยำอะโวคาโด

EP10 ผัดไทยสไตล์สุขภาพ   :EP11 น้ำพริกไข่เค็ม    EP12 ยำผักสมุนไพร  EP13  แมคโครไบโอติกส์เซต

EP14 บูร์ริโตไก่    EP15 เกี๊ยวซ่า    EP16 ตุ๋นกะหล่ำปลีเห็ดหอม    EP17 ก๋วยเตี๋ยวบก

(2) VDO  3 เรื่อง ได้แก่ (1) แนะนำการปรุงอาหารเพื่อสุขภาวะ (2) กินให้รู้รส (ธรรม) ชาติ  (3)  อาหาร (และ) การกิน - เชฟพลอย นันทพร ตีระพงศ์ไพบูลย์

(3) ตัวอย่างเมนูอาหารผักผลไม้ 400 กรัม จำนวน 21 รายการ ประกอบด้วย Motion graphic 1 รายการ Motion graphic เลือกกินผักผลไม้ตามฤดูกาล ดีต่อเรา ดีต่อธรรมชาติ  และ Poster 20 รายการ  เมนูอาหารผักผลไม้ 400 กรัม (20 รายการ) 

  • —คู่มือสุขภาพดี ด้วยตัวเอง  

สาระสำคัญ ชี้ให้เห็นความสำคัญของการมีสุขภาพดี เริ่มต้นจากฟาร์มอินทรีย์ถึงจานอาหาร เน้นความรู้เรื่องกินอย่างไรให้ห่างไกลโรค NCDs  ทำไมต้องกินผักผลไม้ 400 กรัม เจ็บป่วย สุขภาพของครอบครัวเริ่มต้นที่จานอาหาร  อาหารอินทรีย์เป็นสิ่งล้ำค่า lemon Farm Organic PGS  และเทคนิคปลูกผักอินทรีย์ง่ายๆ

 

3.5.3.5 ชุดความรู้และสื่อสำหรับขับเคลื่อนพลเมืองอาหาร

ชุดความรู้และสื่อสำหรับขับเคลื่อนพลเมืองอาหาร  8 รายการ ได้แก่

  • —หนังสือ รวมพลังสร้างระบบอาหาร สุขภาวะอย่างยั่งยืน 

สาระสำคัญ เป็นหนังสือที่จัดทำขึ้นในวาระครบรอบ 20 ปี สสส. นำเสนอบทความที่รวบรวมกรณีศึกษาทั้งในเชิงพื้นที่และเชิงประเด็น และการจัดการความรู้โมเดลที่สำคัญๆ ซึ่งจะเป็นต้นทุนสำคัญต่อการนำไปขยายผล เนื้อหาประกอบด้วย  (1)  บทนำ -เส้นทางแผนอาหารเพื่อ สุขภาวะที่ฉายภาพการพัฒนา/เชื่อมต่อตลอดห่วงโซ่อุปทานเพื่อการบรรลุเป้าหมาย  (2) ความมั่นคงทางอาหาร (3) ความปลอดภัยอาหาร  (4)  โภชนาการ  (5) Food Career (6) การขับเคลื่อนนโยบายที่ส่งผลต่อสังคม และ (7)  Food Policy Design 

  • —รายงานขับเคลื่องานชุมชนสู่พลเมืองอาหาร เพื่อสุขภาวะ ปี 2564-2565 

สาระสำคัญ นำเสนอภาพรวมการบูรณาการแหล่งผลิต การเชื่อมโยงสู่ผู้บริโภค และบูรณาการสู่วิถีชีวิตเพื่อให้เกิดพื้นที่/ชุมชนต้นแบบบูรณาการระบบอาหารตลอดห่วงโซ่ และโมเดลระบบเศรษฐกิจอาหารชุมชน โดยใช้แนวคิดการพัฒนาตามคำสอนคาทอลิก เศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาที่ยั่งยืน เน้นการทำงานร่วมกับเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ นักวิจัย นักโภชนาการ ปราชญ์ชาวบ้าน และหน่วยงานในพื้นที่สร้างสุขภาวะสู่พลเมืองอาหาร ภายใต้ระบบอาหารที่ยั่งยืน พอเพียง ยั่งยืน  ผลผลิตที่เกิดขึ้น เช่น หลักสูตรคู่มือการจัดกิจกรรมพัฒนาแกนนำ  ต้นแบบที่มีการพัฒนาคุณภาพ ระบบเศรษฐกิจชุมชนอาหาร 1 ระบบ และระบบสารสนเทศเพื่อบริการจัดการเครือข่าย

  • —VDO ความรอบรู้ในเรื่องอาหาร 1 ชุด มี 2 รายการ : 

 (1) เรื่องกินเรื่องใหญ่ EP1 ความรอบรู้เรื่องอาหาร  สาระสำคัญ การกินอาหารไม่ใช่เพื่อความอิ่มอร่อยเพียงอย่างเดียว แต่การมีความรอบรู้เรื่องอาหารหรือ Food Literacy ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะเปลี่ยนทั้งเราและโลก

  (2) โครงการ Young Food เยาวชนนักออกแบบอาหารแห่งครัวเรือน สาระสำคัญ ขับเคลื่อนงานด้านอาหารและเยาวชน ใน 4 ชุมชนต้นแบบ ภายใต้แนวคิดการออกแบบนวัตกรรมสังคมของ ศ.ดร.เอซิโอ มานซินี โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างชุมชน สังคม และวัฒนธรรมที่มีเยาวชนเป็นพลังสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านอาหาร ให้คุณค่ากับอาหารท้องถิ่นที่ปลอดภัยได้คุณค่า และรักษาระบบนิเวศ นำไปสู่ความมั่นคงทางอาหารตั้งแต่ระดับครอบครัวสู่ชุมชนและสังคม

  • —Infographic พลเมืองอาหาร 1 ชุด มี 3 รายการ 

 (1) จุดประกายพลังพลเมืองอาหาร เพื่อระบบอาหารที่ยั่งยืน  สาระสำคัญ นำเสนอนิยามของระบบอาหารที่ยั่งยืน เป็นระบบอาหารที่ให้ความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการแก่ทุกคนและส่งมอบไปยังคนรุ่นต่อไป ใน 4 มิติ คือความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ ความยั่งยืนทางสังคม ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และสิทธิในอาหาร 

 (2) พลเมืองอาหารผู้จุดประกายและลงมือทำเพื่อระบบอาหารที่ยั่งยืน สาระสำคัญ บทบาทพลเมืองอาหาร “Food Citizenship” ฉันปรุง ฉันปลูก ฉันเปลี่ยน เพื่อตัวฉันและครอบครัว “Food Community” ฉันชวนผู้คนและช่วยชุมชนในระบบอาหาร และ “Food Activist” ฉันชวนผู้คนและช่วยชุมชนขับเคลื่อนระบบอาหารที่ยั่งยืน 

(3)  เช็กพลังพลเมืองอาหารในตัวคุณ สาระสำคัญ เป็นการทดสอบพลังพลเมืองอาหารในตัวคุณ โดยมี Check List 10 ข้อ ได้แก่ (ก) เลือกอาหารท้องถิ่นก่อนเสมอ (ข) เลือกซื้อจากเกษตรกรหรือผู้ประกอบการโดยตรง  (ค) เลือกเพื่อสุขภาพที่ดี  (ง) ปลูกผักกินเอง  (จ) ทำปุ๋ยหมักกำจัดเศษอาหาร (6) ปลูกฝังเรื่องอาหารสุขภาพให้เด็กๆ (ฉ) คำนึงถึงวิธีการที่คนในชุมชนเข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพได้ (ช) ปลูก ปันสูตร และเรียนรู้นวัตกรรมอาหาร (ซ) พร้อมเปลี่ยนเพื่อสุขภาพ และ (ฌ) ติดตามข้อมูลและมีส่วนร่วมในระบบอาหาร โดยแบ่งระดับความแรงของพลังพลเมืองอาหาร ออกเป็น 3 ระดับ คือ Food Citizenships Power, Food Community Influencer, Food Activist 

  • —E-book “การทบทวนวรรณกรรมเรื่อง พลเมืองอาหาร ชุมชนอาหาร ความรอบรู้เรื่องอาหาร” 

สาระสำคัญ นำเสนอเนื้อหาใน 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 พลเมืองอาหาร ประกอบด้วย แนวคิด ความหมายและความสำคัญของพลเมืองอาหาร องค์ประกอบหลักที่นำไปสู่ความเป็นพลเมืองอาหาร  ส่วนที่ 2 ชุมชนอาหาร ประกอบด้วย แนวคิด ความหมายและความสำคัญของชุมชนอาหาร  องค์ประกอบของการเป็นชุมชนอาหาร  และรูปธรรมชุมชนอาหาร ส่วนที่ 3 ความรอบรู้ด้านอาหาร ประกอบด้วย แนวคิด ความหมายและความสำคัญของความรอบรู้ด้านอาหาร และกรอบความรอบรู้ด้านอาหาร

 

3.5.3.6 งานวิจัยและการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ

งานวิจัยและการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ จำนวน  6  รายการ

  • —รายงานการวิจัยการสํารวจภาวะสุขภาพ ภาวะโภชนาการและพฤติกรรมการบริโภคอาหารในประเทศไทย  

สาระสำคัญ ผลการวิจัยพบว่าสถานการณ์ปัญหาของโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เมแทบอลิกซินโดรมและโลหิตจาง เพิ่มสูงขึ้น  สำหรับภาวะโภชนาการพบสัดส่วนของเด็กที่มีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประชากรวัย 15 ปีขึ้นไปพบการเพิ่มขึ้นของภาวะอ้วนและอ้วนลงพุง สำหรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารทารกที่ได้รับนมแม่อย่างเดียวใน 6 เดือน ยังมีอัตราที่ต่ำ ทารกและเด็กเล็กหนึ่งในสี่อาจได้รับอาหารไม่เพียงพอ สำหรับการบริโภคอาหารที่เสี่ยงตjอสุขภาพ พบว่า กลุ่มเด็กและเยาวชนรับประทานอาหารผัดทอด เติมเครื่องปรุงรสเค็มและน้ำตาล บริโภคอาหารไขมันสูง ดื่มเครื่องดื่มรสหวาน และบริโภคอาหารจานด่วนมากกว่าวัยอื่น ขณะที่การบริโภคผักและผลไม้ลดลง

  • —รายงานการวิจัย การสืบค้นรวบรวมข้อมูลเอกสารจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิสำหรับหาแนวโน้มประเด็นที่จะเป็นปัญหาด้านอาหาร  

สาระสำคัญ ผลการสืบค้นพบว่าผลิตภัณฑ์อาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีแนวโน้ม การผลิต จำหน่าย และบริโภคเพิ่มขึ้นยกเว้นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพมีแนวโน้มการบริโภคสูงขึ้น ฐานข้อมูลผลิต จำหน่าย และบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาหารสุขภาพ และสารทดแทนต่างๆ ในประเทศไทยยังมีจํากัดและไม่สามารถเข้าถึงได้แบบสาธารณะ และไม่พบการศึกษาผลเชิงสุขภาพของการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหาร/ส่วนผสมอาหารเพื่อสุขภาพ และสารทดแทน

  • —รายงานการวิจัย การทบทวนนโยบายและมาตรการที่ภาครัฐดำเนินการเพื่อจัดการภาวะเริ่มอ้วนและโรคอ้วนในเด็กไทย และการส่งเสริมการบริโภคผักและผลไม้ของคนไทย 

สาระสำคัญ ผลการวิจัยสรุปแนวทางดำเนินการลดภาวะเริ่มอ้วนและโรคอ้วนในเด็กไทยและการส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ของคนไทยเพิ่มขึ้น ทั้งระยะสั้นเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว 6 ประเด็น ต่อไปนี้ 

(1)  พัฒนากลไกหรือแผนการควบคุมน้ำหนักในเด็กไทยวัยเรียนในระดับพื้นที่ทั้งเด็กไทยที่เป็นโรคอ้วนและเด็ก ที่มีน้ำหนักปกติรวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ในการผลักดันให้กลไกนี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในแผนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือแผนการดําเนินงานหลักของหน่วยงาน

 (2) บรรจุให้การบริโภคผักและผลไม้ปลอดภัยและเพียงพอของคนไทย เป็นหนึ่งในเป้าหมายของแผนการดำเนินงานของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 และตัวชี้วัดระดับกระทรวง 

 (3) พัฒนากลไกหรือแนวทางเชื่อมประสานการทำงานระหว่างภาคส่วนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและติดตามความก้าวหน้าการจัดการปัญหาโรคอ้วนในเด็กของประเทศไทย โดยศึกษาบทเรียนการใช้กลไกนี้จากโมเดล EPODE 

 (4) พัฒนากลไกติดตามและประเมินความก้าวหน้าและผลการดำเนินงานในแต่ละมาตรการโครงการ หรือกิจกรรม ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการภาวะเริ่มอ้วนและโรคอ้วนในเด็กและการส่งเสริมการกินผักและผลไม้ ภายใต้ความรับผิดชอบของตน ให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น ถูกต้องตามหลักการติดตามตามประเมินผล และมีกลไกสนับสนุนให้มีการดำเนินการได้ต่อเนื่อง

 (5) ผลักดันให้เกิดนโยบายอาหารศึกษาในประเทศไทย โดยศึกษาบทเรียนการดําเนินงานของประเทศญี่ปุ่น 

 (6) พิจารณานโยบายและมาตรการทางเลือกที่จะช่วยกระตุ้นการเพิ่มบริโภคผักและผลไม้ของคนไทย และการลด การบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เพื่อให้การจัดการภาวะเริ่มอ้วน และโรคอ้วนในคนไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  • —งานวิจัยเรื่อง รูปแบบการขับเคลื่อนระบบอาหารชุมชน ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดงจังหวัดบุรีรัมย์ 

สาระสำคัญ ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอันตรายจากการปนเปื้อนในอาหาร พิษวิทยาเบื้องต้น ทั้งด้านเคมีและจุลินทรีย์ก่อโรค เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยของอาหาร และการผลิตตามมาตรฐานความปลอดภัยของชุมชนรวมถึงพัฒนารูปแบบและกลไกการขับเคลื่อนระบบอาหารชุมชนในระดับตำบลของจังหวัดบุรีรัมย์ พัฒนาสมรรถนะของคณะกรรมการสภาอาหารและโภชนาการระดับตำบลและระดับหมู่บ้าน เพื่อร่วมจัดทำแผนชุมชนโดยกระบวนการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น ได้แก่ โรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล เกษตรอำเภอ และหน่วยงานภายในขององค์การบริหารส่วนตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ในการร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาระบบอาหารปลอดภัยในชุมชนให้มีความเข้มแข็ง

  • —แผ่นพับ ประชาสัมพันธ์โครงการรูปแบบการพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นและผู้ปฏิบัติงานด้านอาหารและโภชนาการเพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการในชุมชน 

สาระสำคัญ ให้ข้อมูลโดยย่อเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการ เช่น  วัตถุประสงค์โครงการ หลักการบริโภคอาหารที่เหมาะสมตามธงโภชนาการสำหรับคนไทย แนวทางการแก้ปัญหาโภชนาการชุมชน องค์ประกอบงานอาหาร โภชนาการและสุขภาพชุมชน และการส่งเสริมสุขภาพชุมชนแบบบูรณาการ

  • —E-book แนวทางการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมโหนดผู้บริโภค

สาระสำคัญ นำเสนอชุดบทเรียนความรู้พื้นที่ดาวเด่น แนวทางการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมโหนดผู้บริโภค กรณีศึกษา 

(1) โครงการกินผัก 400 กรัม (2) ตลาดกินสบายใจ และ (3) สวนผักคนเมือง ทั้งรูปแบบการสร้างเครือข่ายผู้บริโภคในองค์กรสำนักงาน ตลาดสีเขียว และเมื่อผู้บริโภคหันมาสร้างความมั่นคงทางอาหารด้วยการเป็นผู้ผลิตในครัวเรือน 

 

3.6 องค์ความรู้ที่มีศักยภาพเด่นในการนำไปปรับ/ประยุกต์หรือพัฒนาต่อยอดกระบวนการทำงาน

 

3.6.1 สื่อและชุดความรู้ด้านการผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับ 17 รายการ

การผลิตอาหารเพื่อสุขภาวะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  17 รายการ

1. การจับตาสถานการณ์ CPTPP UPOV1991 และนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร 

2. พืชร่วมยาง /วนเกษตรสวนยางพารา 

3. คู่มือเกษตรบนอาคาร 

4. Infographic แนวคิดและบทบาท ของเกษตรในเมือง 

5. หนังสือผักยืนต้น กินผักอายุยืน โลกอายุ

6. แกงส้มจาก ป่า นา เลเมืองพัทลุง 

7. หนังสือสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเมล็ดพันธุ์

8. หนังสือ 50 สูตรอร่อยกับผักยืนต้นฯ: ความมั่นคงทางอาหาร 

9. หนังสือปลูกด้วยรัก ปรุงด้วยใจ

10.หนังสือโครงการเกษตร แบ่งปัน: จากชุมชนเกื้อเกษตรอินทรีย์สู่ เศรษฐกิจแบ่งปัน

11. หนังสือน้ำพริก ฐานทรัพยากรอาหารวิถีชุมชนฯ

12. คู่มือแปลง. ปลูก . ปัน สวนผักคนเมือง สนับสนุนการเข้าถึงอาหารด้วยการสร้างพื้นที่อาหารขนาด 100 ตรม.

13. หนังสือกินดีมีสุข

14. Infographic ของมูลนิธิชีววิถี 

15. คู่มือเกษตรกร แก้หนี้สินชาวนา /ฉบับรู้ทันเหลี่ยมเจ้าหนี้/เมื่อถูกบังคับยึดที่ดินขาย/ถูกฟ้องคดีหนี้สิน 

16. บทเรียนตลาดเขียว ตลาดอาหารปลอดภัย ตลาดทางเลือก / การจัดการอาหารโรงเรียน/ อาหารปลอดภัยในโรงเรียน

17. แนวทางการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมโหนดโรงเรียนสุขภาวะ/โรงพยาบาลสีเขียว/ผู้ผลิต/ผู้บริโภค

3.6.2 สื่อ ชุดความรู้ด้านการกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ 7 รายการ

การกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ 7 รายการ

1. คู่มือความรู้ด้านสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและแนวทางการเฝ้าระวัง (ฉบับครูผู้สอน) และคู่มือความรู้ด้านสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและแนวทางการเฝ้าระวัง

2. คู่มือภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังสารเคมีทางการเกษตรของคนไทยทั่วประเทศ

3. คู่มือการใช้งานชุดทดสอบสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 

4. หนังสือรังสรรค์เมนูฟิวชั่นด้วย ผัก ผลไม้ 100 กรัม  และสูตรวิธีการทำอาหาร

5. ชุดเรียนรู้กลางเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย 4 เรื่อง (ธง โภชนาการ ผักและผลไม้ ลดหวานมันเค็ม และ โรคอ้วน)

6. คู่มือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสุขภาวะ 

7. แผ่นพับภูมิปัญญาเมล็ดพันธุ์พื้นบ้านชาติพันธุ์คู่มือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสุขภาวะ  

3.6.3 สื่อ ชุดความรู้ด้านการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ 12 รายการ

การกระจายและการตลาดอาหารเพื่อสุขภาวะ  12 รายการ

1. คู่มือท้องถิ่นทำได้เด็กไทยมีโภชนาการสมวัย

2. คู่มือการประเมิน อปท./ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก/ โรงเรียน/ชุมชนโภชนาการสมวัย (P1-P7)

3. คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก

4.คู่มือการจัดการอาหารกลางวันนักเรียนตามมาตรฐานโภชนาการ สุขาภิบาลอาหารและอาหารปลอดภัย 

5. คู่มือแม่ครัวอนามัย หัวใจรักเด็ก 

6. ชุด Infographic เด็กไทยไม่กินหวาน

7. คู่มือโรงเรียนสุขภาวะระดับประถม 

8.หลักสูตร Family Coacher เพิ่มความสูง  ลดความอ้วนในเด็กวัยเรียน

9. หลักสูตรอบรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการ 

10. ชุด Infographic ไขมัน 

11. ชุดเรียนรู้เด็กไทยแก้มใส 3 เรื่อง (คู่มือการปลูกพืชผัก-ไม้ผล และการขยายพันธุ์พืชขั้นพื้นฐาน คู่มือการจัดการเรียนรู้การสหกรณ์ในสถานศึกษาฯ และ คู่มือการจัดทำบัญชี) 

12. โปรแกรมสำเร็จรูป Kid Diary & Thai School Lunch สำหรับสถานศึกษา


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

อ้างอิง

1. เพลินพาดี. รายงานการทบทวนและประมวลองค์ความรู้สุขภาวะอาหารเพื่อสุขภาวะเพื่อสนับสนุนการสื่อสารและขยายผล.ภายใต้โครงการทบทวนและประมวลองค์ความรู้สุขภาวะเชิงประเด็น เพื่อการสื่อสารและขยายผล สนับสนุนโดย ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

2. วรลักษณ์ คงหนู. รายงานฉบับสมบูรณ์การสังเคราะห์ประมวลผลองค์ความรู้สุขภาวะเชิงประเด็น

ภาพรวมประเด็นอาหาร.สนับสนุนโดยโครงการทบทวนและประมวลองค์ความรู้สุขภาวะเชิงประเด็น

เพื่อสนับสนุนการสื่อสารและขยายผล ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 

สุขภาพ

สสส

อาหาร

องค์ความรู้สุขภาวะ

องค์ความรู้

วัยรุ่น

ความรอบรู้ด้านสุขภาพ

Health Literacy

NCDs

โภชนาการ

อาหารเพื่อสุขภาพ

อาหารปลอดภัย

ความมั่นคงทางอาหาร

ระบบอาหาร

นโยบายอาหาร

เยาวชน

ภาคีเครือข่าย

แผนการ

เด็กไทย

ความปลอดภัย

คนวัยทำงาน

สถานศึกษา

ผู้สูงอายุ

ฉลากโภชนาการ

การวิเคราะห์และจัดหมวดหมู่ชุดความรู้และสื่อ

องค์ความรู้อาหารเพื่อสุขภาวะ

ชุดความรู้ประเด็นอาหารตามกลุ่มวัย

สื่ออาหารกลุ่มเด็กเล็ก

สื่ออาหารกลุ่มเด็กโตและวัยรุ่น

สื่ออาหารกลุ่มผู้ใหญ่

สื่ออาหารกลุ่มผู้สูงอายุ

สื่ออาหารประชาชนทั่วไป

ชุดความรู้อาหารสุขภาวะ

knowledgesharing

กิน

กระบวนการ

นโยบาย

ทฤษฎี

ประเด็น

สภาพแวดล้อม

อ้วน

หลักการ

ชุดความรู้

ประเด็นอาหาร

เด็ก

สื่อสาร

การวิเคราะห์

สื่อ

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

กลไก

ขนม

แนะนำ

เทคนิค

วิดีโอ

การกิน

วิจัย

ส่วนสูง

หวาน

กลุ่มเสี่ยง

บันทึก

อ้างอิง

การจัดการ

ออกกำลังกาย

การพัฒนาศักยภาพ

มัน

เค็ม

ไขมัน

พอเพียง

โรคไต

จิตวิทยา

จิตใจ

กิจกรรมทางกาย

เก้าอี้ขยี้พุง

ทดสอบ

บทความ

อารมณ์

ยุทธศาสตร์

ผลการประมวล

หวาน มัน เค็ม

เกี่ยวกับระบบ

แพลตฟอร์ม

ฐานข้อมูล

เบาหวาน

พฤติกรรมเนือยนิ่ง

เครื่องดื่ม

การดูแล

โรคร้าย

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

สุขภาพจิต

อาการ

สถานประกอบการ

ความสุข

การจัดการความรู้

กลุ่มเปราะบาง

จุดคานงัด

นิยามศัพท์

โรคเบาหวาน

หวานน้อยสั่งได้

กินเค็ม

ดื่มนม

สารก่อมะเร็ง

ปัจจัยเสี่ยง

น้ำตาลน้อย

สสส.

te

3 ส

การนอน

นอนหลับ

น้ำตาล

0%

1 ถูกใจ 236 การเข้าชม

งานบทความที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ

อย่าปล่อยให้งานฆ่าคุณ วิธีบอกลาการทำงานหนักจนตาย
1708931705.jpg

Super Admin ID1

อย่าปล่อยให้งานฆ่าคุณ วิธีบอกลาการทำงานหนักจนตาย

การตรวจสุขภาพตับ ทวงคืนสุขภาพที่ดี
1708931705.jpg

Super Admin ID1

การตรวจสุขภาพตับ ทวงคืนสุขภาพที่ดี

“ปทุมวันโมเดล” ต้นแบบเขตมลพิษต่ำ การต่อสู้กับ PM2.5 ของกรุงเทพฯ
1708931705.jpg

Super Admin ID1

“ปทุมวันโมเดล” ต้นแบบเขตมลพิษต่ำ การต่อสู้กับ PM2.5 ของกรุงเทพฯ

ส่วนที่ 4 บทสังเคราะห์เพื่อการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมกิจกรรมทางกาย
1747913281.JPG

Admin ID3

ส่วนที่ 4 บทสังเคราะห์เพื่อการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมกิจกรรมทางกาย

แผนผังโครงสร้างระบบ (Site map)
1748965111.jfif

Super Admin ID2

แผนผังโครงสร้างระบบ (Site map)

งานบทความที่เกี่ยวข้อง

ส่วนที่ 1 สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นอาหาร และเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ มาตรการขับเคลื่อนงานของ สสส. และภาคี

Admin nicky

เสนอความเป็นมาและความสำคัญ และสถานการณ์ระบบอาหารเพื่อสุขภาวะของประเทศไทย ทั้งในมิติของความมั่นคงทางอาหาร อาหารปลอดภัย และโภชนาการในทุกช่วงวัย โดยอิงจากข้อมูลระดับโลก และระดับประเทศ เช่น แนวโน้มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) การปนเปื้อนในอาหาร พฤติกรรมบริโภคที่เสี่ยงต่อสุขภาพ และความไม่มั่นคงในระบบผลิตอาหารในประเทศ พร้อมทั้งวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลง และแนวทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายระบบอาหารที่ยั่งยืน และส่งเสริมสุขภาวะของประชาชน ให้บรรลุตัวชี้วัด 3 เรื่องสำคัญคือ การบริโภคผักและผลไม้ตามเกณฑ์ที่แนะนำ ลดอัตราการเกิดโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ สัดส่วนสถานศึกษาที่จัดอาหารปลอดภัยและสอดคล้องกับหลักโภชนาการ อปท./ชุมชน/พื้นที่มีแผนจัดการระบบอาหารสุขภาวะในท้องถิ่น และระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ของประชากรทุกกลุ่มวัยเพิ่มขึ้น