0

0

บทนำ

เมื่อวัยเกษียณเคาะประตูบ้าน นั่นหมายความว่าบทใหม่ของชีวิตกำลังจะเริ่มต้น แม้วัยเกษียณจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม แต่ทุกคนสามารถปรับตัวเพื่อรับมือและสร้างชีวิตที่มีคุณภาพในวัยเกษียณได้อย่างเหมาะสม สิ่งสำคัญคือ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และการเตรียมตัว

เตรียมพร้อมก่อนวัยเกษียณ

ก่อนจะถึงวัยเกษียณต้อง “เตรียมตัว” ดูแลสุขภาพร่างกาย ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ “เตรียมใจ” เพื่อให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง สามารถปรับตัวและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข “เตรียมวางแผน” ชีวิตหลังเกษียณจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อถึงเวลาสามารถลงมือทำได้ “เตรียมครอบครัว” วัยเกษียณมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น เติมความรักและความอบอุ่นให้กัน ทำให้การอยู่ร่วมกันเป็นไปด้วยดี “เตรียมมิตรภาพ” ความสุขของวัยเกษียณคือมิตรภาพที่ดี ซึ่งต้องรักษาไว้ให้คงเดิม และ “เตรียมเงิน” วางแผนการใช้จ่าย หรือข้อจำกัดต่าง ๆ ในการใช้เงิน

เกษียณแล้วทำอะไรดี

คนวัยเกษียณควรมีกิจกรรมซึ่งช่วยส่งเสริมให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างมีคุณภาพและมีความสุข ไม่ว่าจะกิจกรรมทางกายที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงโรค ผ่อนคลาย กิจกรรมทางสังคมช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจ ได้สร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น ช่วยลดความเหงาและความเบื่อหน่าย กิจกรรมสร้างสรรค์งานอดิเรกต่าง ๆ อาจเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ทั้งยังเพิ่มความมั่นใจทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามีความสำคัญ

เรื่องสุขภาพจิตที่ต้องใส่ใจ

นอกจากปัญหาสุขภาพร่างกายแล้ว สิ่งที่ควรให้ต้องคอยดูแลคือ ปัญหาสุขภาพจิตที่พบบ่อยในผู้สูงวัยคือ ภาวะซึมเศร้าและภาวะสมองเสื่อม

- ภาวะซึมเศร้า เกิดขึ้นจากร่างกายสร้างสารเคมีในสมองบางชนิดไม่เพียงพอ มีผลให้มองตัวเองและโลกในแง่ลบมากขึ้น หม่นหมอง หดหู่ สิ้นหวัง หากมีอาการไม่รุนแรง การฟื้นฟูด้วยตนเอง เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ฯลฯ อาจช่วยได้ แต่หากมีอาการรุนแรงต้องพบแพทย์

-ภาวะสมองเสื่อม เกิดจากการทำงานของสมองถดถอยหรือสูญเสียเซลล์สมอง ทำให้ความสามารถทางสติปัญญาลดลง หลงลืม ใช้ภาษาผิดปกติ พฤติกรรมอารมณ์เปลี่ยน ฯลฯ หากมีอาการที่กระทบต่อการใช้ชีวิตควรพบแพทย์ ปัจจัยเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมยังรวมถึงโรคเบาหวาน ความดัน ความอ้วน ศีรษะกระทบกระเทือน ดื่มแอลกอฮอล์หนัก เป็นต้น วิธีช่วยชะลอหรือยับยั้งคือ ใช้สมองมากขึ้น แต่ต้องไม่มากเกิน ผู้สูงอายุที่มักเปิดแท็บเล็ต โทรศัพท์ หรือโทรทัศน์ไว้แล้วหลับไป อาจทำให้สมองไม่ได้พัก

 

 

สูงวัยเสี่ยงฆ่าตัวตายสูง

ปัจจุบันอัตราการฆ่าตัวตายในผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น สาเหตุการฆ่าตัวตายมักมาจากความทุกข์ทรมานจากอาการป่วย รู้สึกไม่อยากเป็นภาระ หรือน้อยใจลูกหลาน หากพบผู้ที่มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ต้องคอยเฝ้าระวัง ดูแลเอาใจใส่เพิ่มขึ้น พยายามพูดคุยสร้างกำลังใจ เพื่อให้เห็นคุณค่าในตนเอง หากอาการไม่ดีขึ้นให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ดูแลผู้สูงวัยอย่างเหมาะสม

คนดูแลต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้พฤติกรรมของผู้สูงอายุ ควรดูแลด้วยความรัก ความเข้าใจ ใช้คำพูดที่ทำให้รู้สึกสบายใจและแสดงถึงความห่วงใย ไม่พูดหรือทำให้กระทบกระเทือนจิตใจ ที่สำคัญคือ ผู้ดูแลต้องประเมินตัวเองให้แน่ใจว่าร่างกายและจิตใจสามารถดูแลผู้สูงอายุได้ ควรหาเวลาว่างให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูจิตใจ

อ้างอิง

https://www.dop.go.th/th/know/15/496

https://www.prachachat.net/spinoff/health/news-970886

https://www.dop.go.th/th/know/15/496

0 ถูกใจ 562 การเข้าชม

งานบทความที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ

ส่วนที่ 5 ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการสืบค้น
1708932589.JPG

Writer Don ID2

ส่วนที่ 5 ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการสืบค้น

ติดต่อเรา
1719481749.jpeg

Super Admin ID2

ติดต่อเรา

งานวิจัยชี้ การเชื่อมโยงกับธรรมชาติช่วยลดภาวะซึมเศร้า สร้างสุขภาพที่ดี
1708931705.jpg

Super Admin ID1

งานวิจัยชี้ การเชื่อมโยงกับธรรมชาติช่วยลดภาวะซึมเศร้า สร้างสุขภาพที่ดี

Here to heal ...พื้นที่แห่งการดูแลจิตใจใกล้ตัว
1717644549.jpg

เบนจี้ ชลพรรษ

Here to heal ...พื้นที่แห่งการดูแลจิตใจใกล้ตัว

ถึงเวลาล้างพิษโซเชียลมีเดีย ช่วยปรับสุขภาพจิตให้ปลอดโปร่งขึ้น
1708931705.jpg

Super Admin ID1

ถึงเวลาล้างพิษโซเชียลมีเดีย ช่วยปรับสุขภาพจิตให้ปลอดโปร่งขึ้น

งานบทความที่เกี่ยวข้อง

surachet@thaihealth.or.th

Highlight

  • เมื่อสูงวัย เราไม่อาจปฏิเสธการสูญเสียคนที่เรารักหรือแม้แต่สิ่งของของเรา ประเด็นที่ต้องคิดคือ การยอมรับความจริง เพราะยิ่งเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ อาจนำไปสู่ความโกรธ ความไม่พอใจ และเกิดภาวะซึมเศร้าได้

  • การปล่อยวางหรือลดจุดมุ่งหมายของชีวิตในวันที่อายุมากขึ้นถือเป็นทางออกที่สำคัญ เพราะถึงเราไม่ลด มันก็จะค่อย ๆ ถดถอยไปตามธรรมชาติ แต่ให้คิดในทางตรงกันข้ามว่านี่เป็นช่วงเวลาสำหรับความท้าทายใหม่ ๆ เช่น การทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำมาก่อน การเข้าสังคมกับเพื่อนใหม่ ๆ ฯลฯ

  • อายุที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นปัจจัยให้เราเหี่ยวเฉาเสมอไป เพราะหากเรารักษาสุขภาพด้วยอารมณ์ขัน และทำกิจกรรมที่สนุก เสียงหัวเราะจะเป็นยาชั้นเลิศทั้งต่อร่างกายและจิตใจที่จะช่วยให้เรามีพลัง มีความสุข และมีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะการออกกำลังกายจะเป็นตัวช่วยให้มีอายุที่ยืนยาวขึ้น