บทนำ
ฟรีแลนซ์หรือคนทำอาชีพอิสระมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วและกำลังกลายเป็นหนึ่งในกระแสนิยมของวิธีการทำงานซึ่งทรงพลังที่สุดแห่งยุค
ในขณะที่บรรดาฟรีแลนซ์กำลังเพลิดเพลินกับความเป็นอิสระของพวกเขา หากลองค้นลงลึกจะพบว่า มีความท้าทายหลายอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิด “ภาวะหมดไฟ” หรือ “Burnout” ไม่แตกต่างกับคนที่ทำงานประจำ
ฟรีแลนซ์การเติบโตที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่
นับวัน “ฟรีแลนซ์” หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระยิ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นปัจจัยสำคัญ อีกทั้งยังเป็นวิถีการทำงานที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ซึ่งต้องการอิสรภาพ นิยมพึ่งพาตัวเอง และมีความยืดหยุ่นในชีวิตมากขึ้น ประกอบกับการจ้างงานฟรีแลนซ์ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
การเติบโตของฟรีแลนซ์ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจใหม่เรียกว่า Gig Economy หรือระบบเศรษฐกิจแบบกิ๊ก (Gig หมายถึง งานหรืออาชีพอิสระ) เริ่มต้นเมื่อ 20 ปีก่อน หลังเกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซา บริษัทต่าง ๆ พยายามลดต้นทุน จากที่เคยจ้างพนักงานประจำก็หันมาจ้างคนทำงานเป็นจ็อบตามความต้องการมากขึ้น เมื่อโควิด-19 ระบาด โลกของการทำงานยิ่งเกิดความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ทำให้ตลาดอาชีพอิสระยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ข้อมูลจากมาสเตอร์การ์ดระบุว่า ระบบเศรษฐกิจแบบกิ๊กทั่วโลกเติบโตขึ้นจากราว 204,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 เพิ่มขึ้นราว 455,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 การขยายตัวของระบบเศรษฐกิจแบบกิ๊กจะทำให้วัฒนธรรมการทำงานในอนาคตเปลี่ยนแปลงไป องค์กรต่าง ๆ อาจมีสัดส่วนฟรีแลนซ์มากขึ้น โดยเฉพาะในบริษัทเปิดใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มจะลดพนักงานประจำลง โดยคาดการณ์ระบบเศรษฐกิจแบบกิ๊กจะกลายเป็นระบบเศรษฐกิจหลักในอนาคตด้วยระบบโครงสร้างทางสังคม และทัศนคติของคนรุ่นใหม่
ยิ่งอิสระอาจยิ่งเสี่ยงเบิร์นเอาท์!
ฟรีแลนซ์หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่มีสังกัด รับงานเป็นชิ้นหรือโครงการหรือตามสัญญา แทนที่จะทำงานให้นายจ้างคนเดียวเป็นระยะยาว คนเหล่านี้มีอิสระในการรับงานหรือเลือกลูกค้า มีความยืดหยุ่น สามารถจัดการเวลา หรือสถานที่ทำงานได้เอง
ภายใต้อิสรภาพและความยืดหยุ่น ฟรีแลนซ์เป็นกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหมดไฟ (Burnout) ไม่น้อยกว่าคนทำงานกลุ่มอื่น ซึ่งมาจากหลายปัจจัย เช่น
- ฟรีแลนซ์ไม่มีวันหยุด ชั่วโมงการทำงานของฟรีแลนซ์ขึ้นอยู่กับปริมาณงานในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งไม่แน่นอน การตรากตรำทำงานยาวนานต่อเนื่อง เดดไลน์งานที่ไม่สมเหตุสมผล ผสมกับการแยกงานกับชีวิตส่วนตัวออกจากกันไม่ชัดเจน อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกาย-ใจตามมา
- ฟรีแลนซ์รับผิดชอบงานคนเดียว การขาดทีมมาช่วยแบ่งเบาภาระ อาจทำให้ต้องแบกรับความกดดัน ต้องรับมือกับความไม่แน่นอนในเรื่องของงานหรือลูกค้า
- ฟรีแลนซ์ที่ไม่มีเงินเดือนประจำ ไม่มีสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องความมั่นคง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความกังวลต่าง ๆ
- การตั้งคำถามต่อคุณค่าของงานที่ทำ มีผลต่อการรู้คุณค่า ความมั่นใจ หรือเชื่อมั่นในตัวเองของฟรีแลนซ์ เหล่านี้สามารถสะสมจนกลายเป็นภาวะเครียดและซึมเศร้าในอนาคต
- การแยกตัวทำงานอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ขาดการเชื่อมต่อ สามารถนำไปสู่ความรู้สึกเหงาได้
ผลการสำรวจเกี่ยวกับสุขภาพจิตในการทำงานของคนทำอาชีพฟรีแลนซ์ โดย ไวกิ้ง บริษัทด้านการสำรวจในอังกฤษ ในปี 2563 พบว่า ฟรีแลนซ์ ร้อยละ 64 มักรู้สึกเหงาอยู่บ่อยครั้ง ในขณะที่คนทำงานประจำจะมีคนรู้สึกเหงาอยู่เพียง ร้อยละ 29 และฟรีแลนซ์จะรู้สึกเครียดกับงานมากถึง ร้อยละ 62 ส่วนคนทำงานประจำเครียด ร้อยละ 55
ด้วยความเครียด อาการใจซึมเศร้า อารมณ์เหงา ฯลฯ ทั้งหมดเมื่อสะสมไว้เป็นเวลานานจนเรื้อรังสามารถเป็นเหตุปัจจัยหรือจุดเริ่มต้นนำไปสู่ภาวะเบิร์นเอาท์ในฟรีแลนซ์ได้
สร้างแรงใจรับมือเบิร์นเอาท์สไตล์ฟรีแลนซ์
เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหมดไฟ ผู้ประกอบอาชีพอิสระควรจะกำหนดแนวทางการทำงาน ดังนี้
- กำหนดขอบเขตที่ชัดเจน ระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว กำหนดชั่วโมงทำงาน มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจ
- ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง รวมถึงการนอนหลับให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่ดี และการออกกำลังกายเป็นประจำ
- วางแผนและจัดระเบียบ บริหารเวลาและใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการทำงานเกินตารางเวลา ค้นหาเวลาทำงานลื่นไหลของตัวเองให้เจอ มีสมาธิ ไม่วอกแวก ทำงานให้เสร็จ เพื่อจะได้มีเวลาทำอย่างอื่น
- เลือกงานที่สร้างคุณค่าให้กับตัวเองหรือคนรอบข้าง หากเลือกได้ให้ปฏิเสธงานที่ทำแล้วไม่คุ้มค่า
- หยุดพักช่วงสั้น ๆ เป็นประจำระหว่างทำงาน ลาพักร้อนหรือหยุดทำงานยาว ๆ บ้าง เพื่อทำให้จิตใจปลอดโปร่ง และเติมพลัง
- พูดคุยกับเพื่อนฟรีแลนซ์หรือเข้าร่วมชุมชนออนไลน์ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และปัญหาซึ่ง สามารถช่วยลดความเครียดได้
- ไตร่ตรองและประเมินภาระงาน และเป้าหมายทางอาชีพเป็นระยะ
นอกจากนี้ ในแต่ละวัน ฟรีแลนซ์สามารถสร้างสีสันเพิ่มแรงบันดาลใจให้ตัวเองได้ด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น
- แต่งตัวให้เหมือนไปทำงานออฟฟิศ
- เปลี่ยนบรรยากาศทำงาน เช่น ไปนั่งร้านกาแฟ ฯลฯ
- อย่าอยู่นิ่ง ลุกเดินทุก ๆ ชั่วโมงช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
- ทำสิ่งใหม่ เช่น เรียน ทำงานอดิเรก ทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำ ท่องโลก เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ ปรับมุมมองในชีวิต เป็นต้น
ฉะนั้นในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทเปลี่ยนโลก ทุกอาชีพไม่ว่าจะทำงานในรูปแบบไหนล้วนต้องปรับตัวให้สอดรับความเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น หลีกเลี่ยงภาวะหมดไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
อ้างอิง
Today Bizview writer, Gig Economy เมื่อโลกหมุนด้วยพลังฟรีแลนซ์, 22 มิถุนายน 2565,
https://workpointtoday.com/gig-economy-freelance/
creativethailand, ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามเหงา : ชีวิต “ฟรีแลนซ์” จะเอาชนะความเหงาอย่างไร เมื่อเพื่อนร่วมงานและเจ้านายคือตัวเอง, 22 กุมภาพันธ์ 2566, https://www.creativethailand.org/view/article-read?article_id=33873
สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ, ThaiHealth Watch 2023 : Freelance ก็หมดไฟได้ รับมือให้ถูกก่อนจิตตก, 24 สิงหาคม 2566, https://dol.thaihealth.or.th/Media/Index/4d8cc844-4842-ee11-80ff-00155db45636?isSuccess=False
0 ถูกใจ 691 การเข้าชม
งานบทความที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ
งานบทความที่เกี่ยวข้อง
เข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น
ความคิดเห็น 0