บทนำ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความนิยมของบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่เด็กและวัยรุ่นไทย ทำให้เกิดความกังวล เพราะความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นที่ถกเถียง ทั้งยังมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับภัยอันตราย รวมไปถึงผลกระทบในระยะยาวที่เชื่อมโยงกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า
สถิติบุหรี่ไฟฟ้ากับวัยรุ่นไทย
ประเทศไทยมีกฎหมายควบคุม ห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่าย ห้ามครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า แต่ยังพบว่า มีการลักลอบนำเข้า จำหน่าย และส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะทางสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เข้าถึงได้ง่าย ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายควบคุมยังมีจุดอ่อน
จากงานวิจัย “การสำรวจเยาวชนไทยในสถานศึกษา ปี 2564” พบว่า เยาวชนอายุ 15 – 24 ปี ที่ศึกษาอยู่ระดับมัธยมปลาย อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 3.4 (สูบบุหรี่มวน ร้อยละ 42 สูบทั้งคู่ ร้อยละ 2.4)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า คือ การที่เยาวชนเข้าชมสื่อสังคมออนไลน์ โดยหากเข้าชมเกือบทุกวัน มีโอกาสใช้บุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 3.7 และเพิ่มโอกาสใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากกว่า 7.7 เท่า ของคนที่ไม่เคยเข้าชม
ผลการศึกษาในปี 2566 พบแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในสื่อสังคมออนไลน์ถึง 436 ร้าน หากเปรียบเทียบข้อมูลย้อนกลับไปประมาณ 3 ปีก่อน จะพบว่า ตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในสื่อสังคมออนไลน์เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 45.3 เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยบุหรี่ไฟฟ้าราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 250-350 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้
เป้าหมายสำคัญของบุหรี่ไฟฟ้า คือ เด็กและเยาวชน อายุ 10 – 15 ปี จึงมีความพยายามที่จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น โดยมีบุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ล่าสุด เรียกว่า บุหรี่ไฟฟ้า GEN 5 เกิดขึ้น มีการออกแบบให้คล้ายตุ๊กตาหรือของเล่น (Toy Pod) ทำให้ผู้ปกครองไม่รู้ว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า มีรสชาติต่าง ๆ มีการตั้งชื่อ และบรรยายสรรพคุณให้ดึงดูดความสนใจสำหรับเด็ก ทั้งยังมีราคาถูก สั่งซื้อได้ง่ายผ่านทางออนไลน์
เหตุผลที่ทำให้วัยรุ่นอยากสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพราะลักษณะเหมือนของเล่น เสพแล้วไม่มีกลิ่นควัน เลือกกลิ่นและรสชาติได้หลากหลาย ที่สำคัญคือ ผู้เสพไม่ตระหนักถึงพิษร้ายที่ซ่อนอยู่ในสารนิโคตินและสารเคมีอื่นๆ
กลิ่นหอมซ่อนอันตราย
ไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้าเข้าปอดได้ลึกกว่า ยากต่อการขับออกโดยธรรมชาติของร่างกาย จึงน่ากังวลเรื่องอันตราย
นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าสามารถส่งผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอเรื้อรังและปอดอักเสบได้ อีกทั้งยังเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสาเหตุของโรคปอดป๊อบคอร์น (Popcorn Lung) มีอาการคล้ายโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หายใจถี่ ไอแห้งเรื้อรัง ซึ่งในสหรัฐฯ เป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 68 คน
นอกจากนี้ยังพบภาวการณ์อักเสบของหลอดลมทางเดินหายใจที่เล็กที่สุดในปอดจากการสัมผัสสารไดอะซิติล (Diacetyl) ซึ่งใช้ในการสร้างรสชาติ พบได้ในโรงงานทำข้าวโพดคั่วไมโครเวฟ และโรงงานบุหรี่ไฟฟ้า
ในประเทศไทยพบว่า มีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าอายุ 20-30 ปี ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบ EVALI ที่ทำให้มีอาการเหนื่อย ไอ เกิดฝ้าขาวในปอด นอกจากนี้ในคนอายุน้อยที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ายังพบโรคปอดแฟบ โรคปอดบวมจากการแพ้สารเคมีในบุหรี่ไฟฟ้าได้อีกด้วย
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้พบว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังมีฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดได้ง่าย จากผลการศึกษาในประเทศจีน พบฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็ก ทั้ง PM 10
PM 2.5 และ PM 1.0 ซึ่งมีขนาดเล็กไม่เกิน 1 ไมครอน ซึ่งพบได้มากถึง 98% ด้วยอนุภาคที่เล็กมากจะสามารถเข้าสู่กระแสเลือดและปอด และส่งผลให้ปอดทำงานบกพร่อง เกิดการอักเสบ จนเกิดโรคทางเดินหายใจ รวมถึงโรคมะเร็งปอด
6)6รมควบคุมโรค (จ
นบุหรี่ไฟฟ้าaahkคณะกรรมการอำ
ผลกระทบต่อสมองวัยรุ่น
ในบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน ซึ่งหลังจากสูบในช่วง 10 วินาทีแรก จะไปกระตุ้นเซลล์สมอง หลอกให้รู้สึกมีความสุข สมองจะจดจำสารกระตุ้นนี้ไว้ เมื่อถูกกระตุ้นซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง จึงทำให้เลิกสูบไม่ได้ สารนิโคตินทำลายเซลล์สมอง โดยเฉพาะระบบความจำ และทำลายระบบทางเดินหายใจ ทำให้มีอาการหายใจไม่ออก ไอ จาม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มึนงง สับสน ความดันโลหิตต่ำ เป็นต้น
งานวิจัยจากสหรัฐฯ พบว่า เด็ก ๆ มีแนวโน้มที่จะเกิดสภาวะสมองล้ามากขึ้น หากเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าก่อนอายุ 14 ปี เด็กที่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มสมองล้าสูงกว่าเด็กที่ไม่เคยสูบ 3 - 4 เท่า ส่วนในระยะยาว นิโคตินอาจทำให้เกิดเยื่อหุ้มฟันอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ ต้อกระจก หัวใจเต้นผิดปกติ นอนไม่หลับ เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ชัก หัวใจล้มเหลว ซึมเศร้า เป็นต้น
พ่อแม่ปกป้องลูกจากภัยบุหรี่ไฟฟ้าได้
เพื่อป้องกันเด็กและวัยรุ่นจากบุหรี่ไฟฟ้า จิตแพทย์เด็กแนะนำพ่อแม่ผู้ปกครอง ดังนี้
- พ่อแม่ต้องรู้จักอุปกรณ์สูบบุหรี่ไฟฟ้า ศึกษาข้อมูลและติดตามข่าวสาร
- พ่อแม่ต้องมีเวลาพูดคุยกับลูกเรื่องพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า และสอนทักษะการปฏิเสธเมื่อถูกชักชวนให้สูบ
- หมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูก หากมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ก้าวร้าว สนใจการเรียนลดลง หรือมีกลิ่นหอมผิดปกติติดตัว แต่ควรหลีกเลี่ยงการทำให้ลูกรู้สึกว่ากำลังถูกจับผิด
- ลดความเครียดที่ไม่จำเป็น เช่น การตำหนิ เปรียบเทียบกับคนอื่น การกดดัน ฯลฯ ซึ่งทำให้เด็ก ๆ เครียด และอาจนำไปสู่การสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้
- ช่วยสร้างความนับถือตัวเอง ความภูมิใจในตัวเอง ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาการเสพติดได้
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว พูดคุยด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์หรือความรุนแรง
- หากต้องการความช่วยเหลือ โทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600
อ้างอิง
ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ, ห่วงเยาวชนไทยเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย หลังพบขายบุหรี่
ไฟฟ้าในสังคมออนไลน์จำนวนมาก, 9 พฤษภาคม 2565, https://www.trc.or.th/th/ข่าวสาร/ข่าวเผยแพร่/ข่าวสารบุหรี่/645-ห่วงเยาวชนไทยเข้าถึง บุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย-หลังพบขายบุหรี่ไฟฟ้าในสังคมออนไลน์จำนวนมาก.html
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, พิษสงไอหอมของบุหรี่ไฟฟ้า, 25 กันยายน 2566,
https://dol.thaihealth.or.th/Media/Index/8c6caff9-815b-ee11-80ff-00155db45636?isSuccess=False
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, ThaiHealth Watch 2023 : บุหรี่ไฟฟ้าทำลายสมองวัยรุ่น,
4 กันยายน 2566, https://dol.thaihealth.or.th/Media/Index/0896bbc8-054b-ee11-80ff-00155db45636?isSuccess=False
Hfocus, กรมควบคุมโรค เตือน! ควันบุหรี่ไฟฟ้ามีฝุ่นจิ๋ว PM 1.0 มากถึง 98%, 10 ธันวาคม 2566,
https://www.hfocus.org/content/2023/12/29209
Khaosod Online, อึ้ง 9 ขวบสูบบุหรี่ไฟฟ้า จิตแพทย์ แนะ7วิธีป้องกัน ชี้สูบอายุน้อยกระทบสมอง, 4
กันยายน 2566 https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7849467
ThaiPBS, “บุหรี่ไฟฟ้า GEN 5” ภัยร้าย เจาะเป้าหมายเด็ก-เยาวชน, 11 สิงหาคม 2566,
https://www.thaipbs.or.th/news/content/330545
2 ถูกใจ 620 การเข้าชม
งานบทความที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ
งานบทความที่เกี่ยวข้อง
เข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น
ความคิดเห็น 0